ศูนย์ข่าวศรีราชา - สถานทูตลาวประสานตำรวจไทย บุกช่วยสาวลาว 16 คน หลังถูกล่อลวงมาค้าประเวณีในร้านคาราโอเกะพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
นายสายพร คำวิสร เลขานุการตรี แผนกกงสุล สถานทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ได้รับเรื่องร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจาก น.ส.อ้อ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี สัญชาติลาว หลังถูกล่อลวงมากักขังเพื่อการค้าประเวณีในร้านอ้อมคาราโอเกะ เลขที่ 37/87-88 หมู่ 1 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
จึงประสาน พ.ต.อ.ชูศักดิ์ พนัสอัมพร ผู้กำกับการ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองชลบุรี, เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์สตรี และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ วางแผนล่อซื้อบริการทางเพศจากหญิงชาวลาว และเมื่อสายส่งสัญญาณว่าร้านดังกล่าวมีการลักลอบค้าประเวณีจริง กำลังตำรวจที่ซุ่มอยู่ใกล้เคียงจึงแสดงตัวเข้าจับกุม
จากการตรวจค้นพบหญิงสาวชาวลาวอายุระหว่าง 18-30 ปี จำนวน 16 คน กำลังนั่งรอคอยให้บริการแขกอยู่ภายในร้าน โดยมีนางอรวรรณ หม่อมตา อายุ 48 ปี เป็นเจ้าของร้าน พร้อมกับยึดของกลางเงินสดที่ใช้ในการล่อซื้อ, สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ, ใบเสร็จรับเงิน และถุงยางอนามัยอีกจำนวนมาก
จากการสอบถามหญิงสาวชาวลาวคนหนึ่งอ้างว่า ได้เดินทางจากแขวงสะวันเขต สปป.ลาว เข้ามาในประเทศไทยทางด้านจังหวัดมุกดาหาร เพื่อค้าประเวณีในร้านคาราโอเกะดังกล่าว เนื่องจากที่บ้านยากจน โดยจะได้ค่าตัวครั้งละ 1,200 - 1,500 บาทแต่ต้องแบ่งให้เจ้าของร้าน 500 บาท และจ่ายค่าห้องอีก 300-500 บาท
พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการประสานจากนายสายพร คำวิสร เลขานุการตรี แผนกกงสุล สถานทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่ามีหญิงสาวชาวลาวถูกล่อลวงมาค้าประเวณีที่ร้านคาราโอเกะดังกล่าว จึงได้สนธิกำลังกันวางแผนส่งสายลับล่อซื้อประเวณีและทำการช่วยเหลือหญิงสาวชาวลาวได้ทั้งหมด 16 คน พร้อมกับจับกุมเจ้าของร้านไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับช่องทางในการลักลอบเข้ามาค้าประเวณีของหญิงชาวลาว จะเดินทางเข้ามาตามตะเข็บชายแดนไทย-ลาว ไม่ว่าจะทางน้ำหรือทางบก และมีหลายรูปแบบ เช่น นั่งเรือเล็กข้ามลำน้ำโขงเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติหรือจุดผ่อนปรน, ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวเข้ามาทางจุดผ่านแดนถาวร หรือแม้กระทั่งลงทุนทำพาสปอร์ตขอวีซ่าแบบท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่จะมีกระบวนการในการนำพาหญิงชาวลาวเข้ามา และต้องเสียค่านายหน้าไม่ต่ำกว่าคนละ 2,500 - 5,000 บาท แล้วแต่ระยะทาง
หลังการสอบปากคำเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานางอรวรรณ หม่อมตา เจ้าของร้าน ว่าเป็นธุระจัดหาหญิงสาวเพื่อการค้าประเวณีฯ ส่วนหญิงสาวชาวลาวทั้งหมดแจ้งข้อหามั่วสุมเพื่อการค้าประเวณีและหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย จากนั้นจึงบันทึกประวัติไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งกลับประเทศบ้านเกิดต่อไป