ASTVผู้จัดการรายวัน - “เมเจอร์ฯ” ครวญ คาดไตรมาสสามโตแค่ 10% เหตุหนังฟอร์มไม่ใหญ่ ซ้ำร้ายเจอปัญหาน้ำท่วม หวังไตรมาสสุดท้ายฟื้น ทุ่ม 700 ล้าน ปรับอุปกรณ์สู่ระบบดิจิตอล
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่าไตรมาสสามจะมีการเติบโตเพียง 10% ขณะที่ครึ่งปีแรกเติบโต 60% เนื่องจากช่วงเดือนกันยายนหนังที่เข้าโรงไม่ได้เป็นฟอร์มใหญ่ รวมทั้งปัญหาน้ำท่วมในปหลยาพื้นที่ของประเทศกระทบกับตลาดรวมด้วย
อย่างไรก็ตามไตรมาสสุดท้ายแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากมีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายจำนวนมาก เช่น มิชชั่น อิมพอสสิเบิล, ทไวไลท์, ตำนานสมเด็จพระนเศวร ประกอบกับการที่มีโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอลเป็นจำนวนมากขึ้น จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับภาพยนตร์มากขึ้น เช่นเรื่องทรานฟอร์เมอร์ ภาค 3 ทำรายได้กว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลต่ออุตสาหรรมภาพยนตร์ทั้งปีนี้เติบโตสูง 20-25% หรือมีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท
ส่วนปีหน้าก็ยังมั่นใจว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์จะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งเมเจอร์ฯมีแผนลงทุนต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศไทย แม้จะมีวิกฤติที่เกิดขึ้นในยุโรป เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อในประเทศมากนัก
“ในปีหน้าหนังไทยก็มีแนวโน้มที่จะสร้างออกมาด้วยระบบดิจิตอลมากขึ้น ต้นทุนก็ต่ำลง รวมทั้ง หนัง 3 มิติ และ 4 มิติจากต่างประเทศก็มากขึ้น การโฆษณาในโรงหนังก็มากขึ้น ซึ่งจะทำให้คนมาดูหนังในโรงมากขึ้น”
ปัจจุบัน เมเจอร์ ฯโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอลประมาณ 100 โรง และจะเพิ่มอีก 100 โรง ภายในปี 2555 โดยใช้งบลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท ขณะที่ได้ลงทุนโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอลเรียล ดี (Real D) 3 มิติ ในสาขาหลัก เช่น สยามพารากอน เปิดให้บริการแล้ว 2 โรง และเปลี่ยนเป็นระบบเรียล ดีทั้งหมด 11 โรง โดยใช้งบลงทุนรวม 200 ล้านบาท
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่าไตรมาสสามจะมีการเติบโตเพียง 10% ขณะที่ครึ่งปีแรกเติบโต 60% เนื่องจากช่วงเดือนกันยายนหนังที่เข้าโรงไม่ได้เป็นฟอร์มใหญ่ รวมทั้งปัญหาน้ำท่วมในปหลยาพื้นที่ของประเทศกระทบกับตลาดรวมด้วย
อย่างไรก็ตามไตรมาสสุดท้ายแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากมีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายจำนวนมาก เช่น มิชชั่น อิมพอสสิเบิล, ทไวไลท์, ตำนานสมเด็จพระนเศวร ประกอบกับการที่มีโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอลเป็นจำนวนมากขึ้น จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับภาพยนตร์มากขึ้น เช่นเรื่องทรานฟอร์เมอร์ ภาค 3 ทำรายได้กว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลต่ออุตสาหรรมภาพยนตร์ทั้งปีนี้เติบโตสูง 20-25% หรือมีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท
ส่วนปีหน้าก็ยังมั่นใจว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์จะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งเมเจอร์ฯมีแผนลงทุนต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศไทย แม้จะมีวิกฤติที่เกิดขึ้นในยุโรป เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อในประเทศมากนัก
“ในปีหน้าหนังไทยก็มีแนวโน้มที่จะสร้างออกมาด้วยระบบดิจิตอลมากขึ้น ต้นทุนก็ต่ำลง รวมทั้ง หนัง 3 มิติ และ 4 มิติจากต่างประเทศก็มากขึ้น การโฆษณาในโรงหนังก็มากขึ้น ซึ่งจะทำให้คนมาดูหนังในโรงมากขึ้น”
ปัจจุบัน เมเจอร์ ฯโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอลประมาณ 100 โรง และจะเพิ่มอีก 100 โรง ภายในปี 2555 โดยใช้งบลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท ขณะที่ได้ลงทุนโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอลเรียล ดี (Real D) 3 มิติ ในสาขาหลัก เช่น สยามพารากอน เปิดให้บริการแล้ว 2 โรง และเปลี่ยนเป็นระบบเรียล ดีทั้งหมด 11 โรง โดยใช้งบลงทุนรวม 200 ล้านบาท
