xs
xsm
sm
md
lg

วันแมนโชว์เกมฝ่ายค้าน “แค้น” กันเอง“ปชป.-ชูวิทย์” จ้องแย่งซีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ผ่าน 1 เดือนของการทำงานในฐานะฝ่ายบริหารอย่างเป็นทางการของรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ที่ดูเหมือน “ครม.ปูจ๋า” จะไม่ได้ดื่มด่ำบรรยากาศในช่วง “ฮันนีมูน” อย่างที่คาดการณ์กันไว้ตั้งแต่ต้น
เพราะโดนมรสุมกระหน่ำจากรอบทิศ ทั้งจากปัจจัยภายนอก หรือภัยจากปากคนในรัฐบาลเอง โดยเฉพาะตัว “ผู้นำรัฐบาล” ที่พลั้งปากหลุดสคริปต์ จนลิ่วล้อต้องตามล้างตามเช็ดให้เห็นอยู่บ่อยๆ เป็นเหตุให้ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำงานครบรอบ 1 เดือนของ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ต่ำกว่าธรรมชาติของรัฐบาลใหม่ที่มาจากการ “เลือกตั้ง” หมาดๆ
โดยศูนย์วิจัยและติดตามนโยบายภาครัฐ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เปิดเผยว่า ผลงานของรัฐบาลชุดนี้มีคะแนนอยู่ในเกณฑ์ 5 - 6 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 มีเพียงบางเรื่องที่โดดเด่นขึ้นมาอย่างการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน ที่ได้เฉลี่ยอยู่ที่ 6.494 คะแนน ถือว่าสูงที่สุดของผลงานหลายสิบด้านที่ทำการสำรวจ เช่นเดียวกับคะแนนความสามารถในการทำงานของนายกรัฐมนตรีที่ได้ 6.341 คะแนน เรียกว่าผ่านเกณฑ์ “สอบตก” มาอย่างฉิวเฉียด
ที่สำคัญกับ “ปัญหาเฉพาะหน้า” อย่างเรื่องน้ำท่วมที่กินพื้นที่หลายสิบจังหวัด บางจังหวัดที่กำลังเจอกับปัญหาน้ำท่วมอย่างหนัก จนพูดได้ว่าหนักที่สุดในรอบ 100 ปี ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 2 ล้านคน พืชสวนไร่นาเสียหายเป็นสิบล้านไร่ และมีผู้เสียชีวิตเฉียด 200 รายเข้าให้แล้ว ล่าสุดที่ จ.เชียงใหม่ บ้านเกิดของนายกฯยิ่งลักษณ์ก็เป็นพื้นที่ล่าสุดที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างรุนแรง
ขณะที่มาตรการการช่วยเหลือของภาครัฐกลับทำได้อย่างไม่ทันท่วงที และดูเหมือนจะให้ “น้ำหนัก” ในการแก้ไขปัญหาน้อยกว่างานด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าโครงการประชานิยมต่างๆ ที่ได้สัญญาไว้ว่าจะ “ทำทันที” การโยกย้ายจัดแถวข้าราชการ ออนทัวร์เมืองนอกกระชับสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน หรือประเด็นร้อนๆที่เกี่ยวกับคดีความของคนใน “ตระกูลชินวัตร”
จนชาวบ้านรู้สึกกันว่ารัฐบาลไม่ได้มาดูดำดูดีอะไรเลย และด่ากันขรมว่ารัฐบาลทำงานไม่ได้เรื่อง
จังหวะนี้จึงถือเป็นช่วงที่ “ฝ่ายค้าน” น่าจะยิ้มหวาน และร่วมสหบาทารุมยำ เจาะยางฝ่ายรัฐบาลได้อย่างถนัดถนี่
แต่การณ์กลับเป็นเช่นนั้นไม่
เพราะดูเหมือนว่าฟากฝั่งของพรรคร่วมฝ่ายค้านเองก็ยังจัดทัพจัดแถวกันไม่แล้วเสร็จ ทั้งที่เห็นหน้าค่าตารู้ตัวกันก่อนการนับคะแนนเมื่อวันที่ 3 ก.ค.จะแล้วเสร็จเสียอีก
โดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน 5 พรรค ที่ประกอบด้วย “ประชาธิปัตย์ – ภูมิใจไทย – รักประเทศไทย – รักษ์สันติ - มาตุภูมิ” ที่แพ็คทีมมาร่วม 3 เดือน แต่ยังไม่มีงานที่เป็นมรรคเป็นผลออกมาให้เห็นเลย ทั้งที่ก่อนหน้าที่หากดูจากรายนาม “ขุนพล” ของแต่ละพรรคแล้ว
**จะขนานนามให้เป็น “ดรีมทีมฝ่ายค้าน” ก็คงไม่ผิดนัก
ไล่ตั้งแต่พรรคแกนนำ “ประชาธิปัตย์” คงไม่ต้องพูดถึงเพราะผลงานการันตีความเป็น “มืออาชีพ” ด้านการเป็นฝ่ายค้านนั้นประจักษ์อยู่แล้ว “รักประเทศไทย” ก็หายห่วงกับบทบาท “จอมแฉ” ของ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ด้าน “รักษ์สันติ” ก็คับแก้วไปด้วยคุณภาพของ “ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์” ขณะที่ยี่ห้อ “สนธิ บุญยรัตกลิน” ก็น่าจะรับประกันความแกร่งของ “มาตุภูมิ” ได้ไม่แพ้ใคร
ส่วน “ภูมิใจไทย” นั้นต้องยอมรับว่าจำใจก้มหน้ารับชะตากรรมมาร่วมวงในฝั่งที่ไร้อำนาจนี้ด้วยเท่านั้น บทบาทก็อาจด้อยไปตามสภาพ
งานอย่างเป็นทางการของฝ่ายค้านก็เริ่มตั้งแต่เดือนก่อนในการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภาที่กินเวลา 2 วันกว่า ซึ่งบทบาทส่วนใหญ่ก็เป็นหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ส่งทีมกว่า 40 คนร่วมวงชำแหละ ขณะที่พรรคอื่นๆดูจะนิ่งเงียบไม่ออกแอคติ้งมากมายนัก
มีเพียง “เฮียชูวิทย์” ที่ใช้เวลาไม่กี่นาทีงัดไม้เด็ดเปิด “คลิปลับ” กลางที่ประชุมสภาฯแฉ “บ่อนกลางกรุง” เรียกเสียงฮือฮาได้ตามสไตล์
หลังจากนั้นบทบาทของพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เงียบกริบ มีก็แต่เพียงการวิวาทะโต้ตอบกันรัฐบาลพรรคเพื่อไทยของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ส่วน “ชูวิทย์” ก็หลบเข้ากลีบเมฆไปอย่างน่าสงสัย จนถูกค่อนขอดว่า “รับงาน” มาแฉเพื่อเคลียร์ “รันเวย์” ส่ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นกุมอำนาจเบอร์ 1 ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กลายเป็นจุดหักเหให้เกิดความกินแหนงแคลงใจนะหว่าง พรรคประชาธิปัตย์ กับ “ชูวิทย์” ที่เกิดความหวาดระแวงว่า “อดีตเจ้าพ่ออ่างทองคำ” ถือหางข้างไหนกันแน่
ทั้งยังเป็น “ชนวน” หมางใจระหว่าง “ชูวิทย์” กับ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ประวิปฝ่ายค้าน เหตุเพราะในวันแถลงนโยบายนั้นพรรคประชาธิปัตย์มอบหมายให้ “จุรินทร์” เป็นผู้สรุปการอภิปราย ซึ่งตลอดเวลากว่า 20 นาทีที่ใช้ไปนั้น ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นการสรุปที่ดีมากจากผู้ที่ได้รับฟัง แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในการเปิดพื้นที่ให้เท่าที่ควร
**เพราะต่างมุ่งไปตามประเด็นที่ “เสี่ยชูวิทย์” เปิดไว้ก่อนหน้านั้นมากกว่า
นั่นคือจุดเริ่มต้นของการทำงานฝ่ายค้านที่ไม่ราบรื่น เห็นได้จากการประชุม คณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มีการประชุมเป็นประจำในวันจันทร์ของทุกสัปดาห์ เพื่อสรุปวาระการประชุมสภาฯในวันพุธ – พฤหัสฯ ที่จนบัดนี้ได้กลายเป็นการประชุมของทีมงานพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น จะมีก็แต่เพียง ศุภชัย ใจสมุทร ตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้าร่วม
ส่วน “ชูวิทย์” นั้นแม้แต่การแจ้งหมายชวนเข้าร่วมประชุมก็ยังไม่มี ขณะที่ “ปุระชัย-สนธิ” ก็ดูเหมือนจะ “หมกมุ่น” อยู่กับการหา “ที่นั่ง” ในคณะกรรมาธิการให้สมศักดิ์ศรีตัวเองเท่านั้น
จนเห็นได้ว่างานของฝ่ายค้านในช่วงแรกจึงออกลูกสะเปะสะปะ ทำงานไม่เป็นสับปะรด กระทู้ถามทั้งสดทั้งแห้งก็มีของ ส.ส.ค่ายประชาธิปัตย์เท่านั้น ส่วนผู้แทนค่ายอื่นที่จะขอสอดแทรกยื่นกระทู้ถามฝ่ายบริหารบ้าง อย่าง “ชูวิทย์” กลับได้รับการปฏิเสธกับข้ออ้างนิ่มว่า “เต็มแล้ว” ของประธานวิปฝ่ายค้าน
**แถมยังยัดเยียดสมญานาม “ฝ่ายค้านอิสระ” ให้กับ “ชูวิทย์” อีกต่างหาก
คงเพราะเห็นว่าการทำงานของ “ชูวิทย์” ไม่สนใจคนอื่น ทำงานแบบ “วันแมนโชว์” ไม่เหมาะกับการทำงานสไตล์พรรคประชาธิปัตย์ หรือจะเป็น “แผลใจ” ที่ประธานวิปฝ่ายค้านจะขุ่นเคืองใจไม่หาย จากที่ถูก “แย่งซีน” กลางที่ประชุมสภาฯ พอหัวหน้าพรรครักประเทศไทยจะไปฟ้อง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ก็ดูจะหันไปเอาจริงเอาจังกับการลงพื้นที่แจกสิ่งของพื้นที่ประสบภัยร้ำท่วมมากกว่า พร้อมอ้างว่าได้มอบสิทธิ์ตัดสินใจให้กับ “จุรินทร์” ไปแล้ว
ด้าน พรรคภูมิใจไทย ก็พยายามผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ล้างมลทิน เนื่องจากวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา วันที่ 5 ธ.ค.54 แต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์เท่าที่ควร กลายเป็นว่าการทำงานของ ฝ่ายค้าน ในสภาฯวันนี้เป็นไปแบบ “ต่างคนต่างทำ” และยังมี “ลูกแถม” เตะตัดขากันเอง เพราะกลัวพวกจะเด่นกว่าอีกต่างหาก
**เมื่อฝ่ายค้านเล่นบท “แค้น” กันเองแบบนี้ ฝ่ายรัฐบาลที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จก็คง “ยิ้มกริ่ม” ทำงานสบาย
กำลังโหลดความคิดเห็น