ASTVผู้จัดการรายวัน - รับสร้างบ้านไตรมาส 3 อ่วม น้ำท่วม 2 เดือนยอดขายวูบทันที 30% แต่มั่นใจไม่กระทบมากเหตุมีสต๊อกจองสร้างบ้านในมือรอเซ็นสัญญากว่า 200 หลัง เชื่อหลังน้ำลดตลาดตจว.กลับมาฟื้นตัว เล็งเปิดสาขาที่ 24 จังหวัดนครสรรค์ปลายเดือนตุลาคมนี้ พร้อมติงรัฐบาลออกมาตรการมากระตุ้นหรือกระตุกกันแน่
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า ตลาดรวมรับสร้างบ้านช่วงเริ่มต้นครึ่งปีหลังดูคึกคักดี แต่เมื่อประสบกับปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดซบลงทันที ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับสาขาแฟรนไชส์ต่างจังหวัด ในขณะที่ลูกค้าอีกส่วนหนึ่งเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อรายได้และเศรษฐกิจในอนาคต จึงทำให้ชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยหลังใหม่ออกไป โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า หรือผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ เช่น พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ลพบุรี อ่างทอง อยุธยา ฯลฯ เป็นต้น
“เดือนเมษายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายจากสาขา 23 สาขาทั่วประเทศเดือนละ 100 ล้านบาทเศษ แต่ในช่วง 2 เดือนมานี้ (สค.-กย.) ยอดขายลดลงเหลือเพียงเดือนละ 70-80 ล้านบาท หรือลดลงถึง 20-30% เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง 4 เดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบมาจากปัญหาน้ำท่วม พื้นที่จังหวัดภาคเหนือและภาคกลางในวงกว้าง ทำให้ยอดขายบ้านในพื้นที่ดังกล่าวหายไป อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ประเมินว่าเมื่อปัญหาน้ำท่วมคลี่คลายลง โอกาสที่ตลาดรับสร้างบ้านจะฟื้นกลับมาก็ยังมี โดยเฉพาะจังหวัดที่โดนน้ำท่วมและบ้านเรือนเสียหายมาก เช่น จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ พิจิตร เป็นต้น”
ทั้งนี้ แม้ว่ายอดขายบ้านใน 2 เดือนที่ผ่านมาจะลดลง แต่บริษัทยังมีบ้านที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างประมาณ 160-170 หลังต่อเดือน และมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกว่า 50 หลัง ดังนั้น เพื่อเป็นการเร่งานก่อสร้างในช่วงนี้จึงให้น้ำหนักกับงานก่อสร้างเป็นหลัก เพื่อเร่งรัดงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จและส่งมอบลูกค้าได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนเดิมตามปกติ โดยเฉพาะการขยายสาขาให้ครบ 28 สาขาตามที่กำหนดไว้ ซึ่งในปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เตรียมเปิดศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์สาขานครสวรรค์เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง เพื่อรองรับความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภค และการเติบโตของตลาดภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ทั้งนี้สาขานครสวรรค์จะสามารถให้บริการครอบคลุม 5 จังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ กำแพงเพชร พิจิตร ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี
“สำหรับมาตรทางภาษีของรัฐบาล ในโครงการบ้านหลังแรกที่ออกมาก รู้สึกว่าผิดหวังอย่างมาก โดยเฉพาะมาตรการดังกล่าว ไม่ได้เอื้อแก่ผู้บริโภคที่สร้างบ้านเอง หรือใช้บริการกับบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งเป็นผลทำให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจนี้ ไม่ได้รับอานิสงค์เหมือนธุรกิจบ้านจัดสรร ทั้งๆ ที่รับสร้างบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงอยากเห็นรัฐบาลออกมาตรการมากระตุ้นผู้บริโภค ที่ใช้บริการรับสร้างบ้านให้ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน เพราะมาตรการที่ออกมาครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นการ “กระตุ้น” หรือ “กระตุก” ธุรกิจรับสร้างบ้านกันแน่” นายพิศาล กล่าว
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า ตลาดรวมรับสร้างบ้านช่วงเริ่มต้นครึ่งปีหลังดูคึกคักดี แต่เมื่อประสบกับปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดซบลงทันที ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับสาขาแฟรนไชส์ต่างจังหวัด ในขณะที่ลูกค้าอีกส่วนหนึ่งเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อรายได้และเศรษฐกิจในอนาคต จึงทำให้ชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยหลังใหม่ออกไป โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า หรือผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ เช่น พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ลพบุรี อ่างทอง อยุธยา ฯลฯ เป็นต้น
“เดือนเมษายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายจากสาขา 23 สาขาทั่วประเทศเดือนละ 100 ล้านบาทเศษ แต่ในช่วง 2 เดือนมานี้ (สค.-กย.) ยอดขายลดลงเหลือเพียงเดือนละ 70-80 ล้านบาท หรือลดลงถึง 20-30% เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง 4 เดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบมาจากปัญหาน้ำท่วม พื้นที่จังหวัดภาคเหนือและภาคกลางในวงกว้าง ทำให้ยอดขายบ้านในพื้นที่ดังกล่าวหายไป อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ประเมินว่าเมื่อปัญหาน้ำท่วมคลี่คลายลง โอกาสที่ตลาดรับสร้างบ้านจะฟื้นกลับมาก็ยังมี โดยเฉพาะจังหวัดที่โดนน้ำท่วมและบ้านเรือนเสียหายมาก เช่น จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ พิจิตร เป็นต้น”
ทั้งนี้ แม้ว่ายอดขายบ้านใน 2 เดือนที่ผ่านมาจะลดลง แต่บริษัทยังมีบ้านที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างประมาณ 160-170 หลังต่อเดือน และมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกว่า 50 หลัง ดังนั้น เพื่อเป็นการเร่งานก่อสร้างในช่วงนี้จึงให้น้ำหนักกับงานก่อสร้างเป็นหลัก เพื่อเร่งรัดงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จและส่งมอบลูกค้าได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนเดิมตามปกติ โดยเฉพาะการขยายสาขาให้ครบ 28 สาขาตามที่กำหนดไว้ ซึ่งในปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เตรียมเปิดศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์สาขานครสวรรค์เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง เพื่อรองรับความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภค และการเติบโตของตลาดภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ทั้งนี้สาขานครสวรรค์จะสามารถให้บริการครอบคลุม 5 จังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ กำแพงเพชร พิจิตร ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี
“สำหรับมาตรทางภาษีของรัฐบาล ในโครงการบ้านหลังแรกที่ออกมาก รู้สึกว่าผิดหวังอย่างมาก โดยเฉพาะมาตรการดังกล่าว ไม่ได้เอื้อแก่ผู้บริโภคที่สร้างบ้านเอง หรือใช้บริการกับบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งเป็นผลทำให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจนี้ ไม่ได้รับอานิสงค์เหมือนธุรกิจบ้านจัดสรร ทั้งๆ ที่รับสร้างบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงอยากเห็นรัฐบาลออกมาตรการมากระตุ้นผู้บริโภค ที่ใช้บริการรับสร้างบ้านให้ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน เพราะมาตรการที่ออกมาครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นการ “กระตุ้น” หรือ “กระตุก” ธุรกิจรับสร้างบ้านกันแน่” นายพิศาล กล่าว
