ASTVผู้จัดการรายวัน - พีดีเฮ้าส์เกาะกระแสโลกร้อน ขนแบบกรีนเฮ้าส์การันตีด้วย "ฉลากบ้านอนุรักษ์พลังงาน" ถึง 21 รางวัล ลงสู้ศึกตลาดรับสร้างบ้าน เชื่อช่วยกวาดยอดขายไตรมาส 3 ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 1,200 ล้านบาท
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ปีนี้นับเป็นอีกปีที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกประสบปัญหาภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง และได้รับความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงประเทศไทยเองก็เผชิญกับภัยนำท่วมในหลายๆ พื้นที่ของประเทศ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมากเช่นกัน ภัยะรรมชาติที่นับวันรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่งผลให้เกิดกระแสการตื่นตัวของผู้คนทั่วโลกหันมาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและช่วยกันลดการใช้พลังงานในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ผู้บริโภคเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการซื้อสินค้าที่ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดหรือไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เว้นแม้แต่ที่อยู่อาศัยหรือการสร้างบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหรือผู้บริโภคที่เลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน ในช่วงไตรมาส 1-2 ที่ผ่านมา ต่างให้ความสนใจสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับบ้านอนุรักษ์พลังงานเข้ามายัง ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ทุกสาขาทั่วประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจาก พีดีเฮ้าส์ มีความชัดเจนและเน้นทำตลาดบ้านประหยัดพลังงานมาเกือบ 10 ปี โดยการันตีด้วยรางวัล "ฉลากบ้านอนุรักษ์พลังงาน" จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เมื่อปี 2552 และปี 2554 รวม 21 รางวัล
ทั้งนี้แนวโน้มความต้องการสร้างบ้านอนุรักษ์พลังงานหรือกรีนเฮ้าส์ในประเทศไทย คาดว่าจะได้รับความนิยมจากลูกค้าและผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง 4-5 ปีก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านมีเพียงไม่กี่ราย ที่ชูเรื่องบ้านอนุรักษ์พลังงานเป็นจุดขายที่แตกต่าง จึงทำให้การแข่งขันในตลาดนี้ไม่รุนแรงและยังขยายตัวได้อีกมาก
นายพิศาล กล่าวต่อว่า สำหรับในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ประเมินว่ายอดจองหรือยอดขายบ้านจากศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮาส์ทุกสาขาทั่วประเทศ คาดจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากปัจจัยบวกหลายประการ เช่น 1.หลังการเลือกตั้งผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อการเมืองและเศรษฐกิจ 2.บริษัทฯ เองมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 4-5 สาขา 3.ความนิยมใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดมีมากขึ้น โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไตรมาส 3 นี้ไว้ประมาณ 300 ล้านบาทจากเป้าทั้งปี 1,000 ล้านบาท ในส่วนของสาขาที่จะเปิดใหม่ครึ่งปีหลัง ได้แก่ สาขาอุบลราชธานี สกลนคร และนครสวรรค์ เป็นต้น
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ปีนี้นับเป็นอีกปีที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกประสบปัญหาภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง และได้รับความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงประเทศไทยเองก็เผชิญกับภัยนำท่วมในหลายๆ พื้นที่ของประเทศ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมากเช่นกัน ภัยะรรมชาติที่นับวันรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่งผลให้เกิดกระแสการตื่นตัวของผู้คนทั่วโลกหันมาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและช่วยกันลดการใช้พลังงานในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ผู้บริโภคเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการซื้อสินค้าที่ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดหรือไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เว้นแม้แต่ที่อยู่อาศัยหรือการสร้างบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหรือผู้บริโภคที่เลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน ในช่วงไตรมาส 1-2 ที่ผ่านมา ต่างให้ความสนใจสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับบ้านอนุรักษ์พลังงานเข้ามายัง ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ทุกสาขาทั่วประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจาก พีดีเฮ้าส์ มีความชัดเจนและเน้นทำตลาดบ้านประหยัดพลังงานมาเกือบ 10 ปี โดยการันตีด้วยรางวัล "ฉลากบ้านอนุรักษ์พลังงาน" จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เมื่อปี 2552 และปี 2554 รวม 21 รางวัล
ทั้งนี้แนวโน้มความต้องการสร้างบ้านอนุรักษ์พลังงานหรือกรีนเฮ้าส์ในประเทศไทย คาดว่าจะได้รับความนิยมจากลูกค้าและผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง 4-5 ปีก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านมีเพียงไม่กี่ราย ที่ชูเรื่องบ้านอนุรักษ์พลังงานเป็นจุดขายที่แตกต่าง จึงทำให้การแข่งขันในตลาดนี้ไม่รุนแรงและยังขยายตัวได้อีกมาก
นายพิศาล กล่าวต่อว่า สำหรับในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ประเมินว่ายอดจองหรือยอดขายบ้านจากศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮาส์ทุกสาขาทั่วประเทศ คาดจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากปัจจัยบวกหลายประการ เช่น 1.หลังการเลือกตั้งผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อการเมืองและเศรษฐกิจ 2.บริษัทฯ เองมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 4-5 สาขา 3.ความนิยมใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดมีมากขึ้น โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไตรมาส 3 นี้ไว้ประมาณ 300 ล้านบาทจากเป้าทั้งปี 1,000 ล้านบาท ในส่วนของสาขาที่จะเปิดใหม่ครึ่งปีหลัง ได้แก่ สาขาอุบลราชธานี สกลนคร และนครสวรรค์ เป็นต้น
