00 เสร็จไปอีกหนึ่งแล้วครับพี่น้อง ก็เป็นไปตามคาดหมายเช่นเดิม นั่นคือตำแหน่ง ปลัดมท.ล่าสุด มท.1 “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” กับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็สมคบกันโยก วิเชียร ชวลิต ปลัดคนปัจจุบันมาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ แต่มาในลักษณะ “ลอย” เอาไว้ชั่วคราว เพราะต้องรอให้คนเก่าเกษียณในวันที่ 30 ก.ย.เสียก่อน จากนั้นเมื่อตำแหน่งว่างจึงเข้าไป “เสียบ” แทน ส่วนคนที่จะมานั่งปลัดมท.คนใหม่ก็ไม่ผิดเพี้ยนคือ “พระนาย สุวรรณรัฐ” จากรองปลัดขึ้นมานั่งแทน แต่ตอนนี้ยังเป็น “รักษาการ” ไปก่อนด้วยเหตุผลตำแหน่งที่สำนักนายกฯยังไม่ว่างดังกล่าว
00 แต่ประเด็นสำคัญและเป็นสาเหตุที่ต้องรีบแต่งตั้งก็เพราะต้องให้ ปลัดมท.เป็นคนแต่งตั้งข้าราชการระดับรองลงมา เพื่อทดแทนคนที่เกษียณอายุ โดยเฉพาะระดับผู้ว่าฯที่มีการเกษียณอายุ ล็อตใหญ่เกือบ 40 คน งานนี้ไม่ต้องหลับตาก็มองเห็นแล้วว่าจะมีการฉวยโอกาส “ล้าง” กันขนานใหญ่หรือไม่
00 อย่างไรก็ดีหากดูตาม “เนื้อผ้า” แล้วการโยกย้ายที่มท.เท่าที่เห็นก็ถือว่า “พอรับได้” เมื่อเทียบกับ “ยุคยี้ห้อย” เอากันให้เห็นภาพเฉพาะตำแหน่งของ วิเชียร คนนี้แหละที่กระโดดค้ำถ่อพรวดพราดเข้ามาอย่าง “น่าเกลียด” ดังนั้นเมื่อหวยออกที่ พระนาย บรรยากาศจึงไม่เครียดมากนัก ขณะเดียวกันคนที่ถูกเด้งดูเหมือนจะยอมรับชะตากรรมเสียด้วย ไม่มีเสียงบ่นออกมาให้ข้างนอกได้ยินเท่าไหร่
00 นอกจากนี้การได้ พระนาย มาเป็นปลัดมท.มันยังส่งผลในทางบวกอีกหลายต่อนั่นคือ นามสกุล “สุวรรณรัฐ” ก็ย่อมมีภาพเป็นเครือข่าย “อำมาตย์” ปะปนอยู่ด้วยแน่นอน อีกทั้งยังได้จังหวะความเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุดในหน่วยงาน ซึ่งจะด้วยมาตรฐานแบบไหนก็ตามแค่ก็คงไม่น่าเกลียดแน่นอน แต่ที่น่าจับตาก็คือการโยกย้ายระดับ 10 เช่น ผู้ว่าฯทั่วประเทศ อธิบดีกรมหาเสียงสำคัญ ที่จะตามมา ที่ “นายใหญ่-นายหญิง” คอยกำกับอยู่ด้านหลังกันมาเป็นทอดๆนี่ซิน่าสนใจกว่า ว่ากันว่าจังหวัดใหญ่ๆที่เป็นฐานเสียงหลักจะต้องเกิดขึ้นแน่ “ขึ้นบัญชี” แปะข้างฝาไว้ก่อนได้เลย เชียงใหม่ อุดรฯ บุรีรัมย์ หรือแม้แต่ สุราษฎร์ธานี บ้านยงยุทธ ฐานเสียง “เทพเทือก” ก็ไม่น่าจะรอด !!
00 ที่น่าจับตาและมาแรงกว่าที่คิดก็คือ กลาโหม เพราะดูแล้วเริ่มทำท่า “กระเพื่อม”ขึ้นมาจนได้ และต้นตอกลายเป็นว่ามีรายการ “หักหน้า” กันระหว่างคนกันเอง ก็คือ “นายใหญ่” ที่ไม่แฮปปี้กับตำแหน่งปลัดกลาโหมคนใหม่ รวมไปถึงการไม่ยอมไฟเขียว “ต่ออายุ”ตำแหน่งประธานที่ปรึกษากลาโหม กดดันให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ต้องมาขยับกันใหม่ และยังทำท่ากินแหนงแคลงใจกันกับ ผบ.ทร.พล.ร.อ.กำธร พุ่งหิรัญ ประดังเข้ามาอีก กรณีตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความโปร่งใสการจัดซื้อ “เรือดำน้ำมือสอง” จากเยอรมันนี ทำเอา ผบ.ทร.ควันออกหู งานนี้ถ้าไม่รีบเคลียร์น่าจะยุ่งเหมือนกัน !!
00 แต่ประเด็นสำคัญและเป็นสาเหตุที่ต้องรีบแต่งตั้งก็เพราะต้องให้ ปลัดมท.เป็นคนแต่งตั้งข้าราชการระดับรองลงมา เพื่อทดแทนคนที่เกษียณอายุ โดยเฉพาะระดับผู้ว่าฯที่มีการเกษียณอายุ ล็อตใหญ่เกือบ 40 คน งานนี้ไม่ต้องหลับตาก็มองเห็นแล้วว่าจะมีการฉวยโอกาส “ล้าง” กันขนานใหญ่หรือไม่
00 อย่างไรก็ดีหากดูตาม “เนื้อผ้า” แล้วการโยกย้ายที่มท.เท่าที่เห็นก็ถือว่า “พอรับได้” เมื่อเทียบกับ “ยุคยี้ห้อย” เอากันให้เห็นภาพเฉพาะตำแหน่งของ วิเชียร คนนี้แหละที่กระโดดค้ำถ่อพรวดพราดเข้ามาอย่าง “น่าเกลียด” ดังนั้นเมื่อหวยออกที่ พระนาย บรรยากาศจึงไม่เครียดมากนัก ขณะเดียวกันคนที่ถูกเด้งดูเหมือนจะยอมรับชะตากรรมเสียด้วย ไม่มีเสียงบ่นออกมาให้ข้างนอกได้ยินเท่าไหร่
00 นอกจากนี้การได้ พระนาย มาเป็นปลัดมท.มันยังส่งผลในทางบวกอีกหลายต่อนั่นคือ นามสกุล “สุวรรณรัฐ” ก็ย่อมมีภาพเป็นเครือข่าย “อำมาตย์” ปะปนอยู่ด้วยแน่นอน อีกทั้งยังได้จังหวะความเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุดในหน่วยงาน ซึ่งจะด้วยมาตรฐานแบบไหนก็ตามแค่ก็คงไม่น่าเกลียดแน่นอน แต่ที่น่าจับตาก็คือการโยกย้ายระดับ 10 เช่น ผู้ว่าฯทั่วประเทศ อธิบดีกรมหาเสียงสำคัญ ที่จะตามมา ที่ “นายใหญ่-นายหญิง” คอยกำกับอยู่ด้านหลังกันมาเป็นทอดๆนี่ซิน่าสนใจกว่า ว่ากันว่าจังหวัดใหญ่ๆที่เป็นฐานเสียงหลักจะต้องเกิดขึ้นแน่ “ขึ้นบัญชี” แปะข้างฝาไว้ก่อนได้เลย เชียงใหม่ อุดรฯ บุรีรัมย์ หรือแม้แต่ สุราษฎร์ธานี บ้านยงยุทธ ฐานเสียง “เทพเทือก” ก็ไม่น่าจะรอด !!
00 ที่น่าจับตาและมาแรงกว่าที่คิดก็คือ กลาโหม เพราะดูแล้วเริ่มทำท่า “กระเพื่อม”ขึ้นมาจนได้ และต้นตอกลายเป็นว่ามีรายการ “หักหน้า” กันระหว่างคนกันเอง ก็คือ “นายใหญ่” ที่ไม่แฮปปี้กับตำแหน่งปลัดกลาโหมคนใหม่ รวมไปถึงการไม่ยอมไฟเขียว “ต่ออายุ”ตำแหน่งประธานที่ปรึกษากลาโหม กดดันให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ต้องมาขยับกันใหม่ และยังทำท่ากินแหนงแคลงใจกันกับ ผบ.ทร.พล.ร.อ.กำธร พุ่งหิรัญ ประดังเข้ามาอีก กรณีตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความโปร่งใสการจัดซื้อ “เรือดำน้ำมือสอง” จากเยอรมันนี ทำเอา ผบ.ทร.ควันออกหู งานนี้ถ้าไม่รีบเคลียร์น่าจะยุ่งเหมือนกัน !!