“พล.ร.อ.กำธร” ฉุน รมว.กลาโหม กล่าวหาซื้อเรือดำน้ำไม่โปร่งใส ไม่คุ้มค่า จนต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทบทวนใหม่อีกรอบ ท้าไปถามพวกพ่อค้าแม่ค้าอาวุธได้ทุกคน เคยเคาะกะลาขอเงินใน 3 ปี ที่เป็น ผบ.ทร.หรือไม่ ยันทำดีที่สุดแล้วให้กับกองทัพเรือ และประเทศชาติ
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการเรือดำน้ำมือสองยู 206 เอ จากประเทศเยอรมนี ว่า คณะกรรมการกลั่นกรองของกระทรวงกลาโหม ที่มี 7 คนกำลังพิจารณา ส่วนผลสรุปจะออกมาอย่างไรตนไม่ทราบ แต่คิดว่า กองทัพเรือชี้แจงด้วยเหตุด้วยผลทุกอย่าง ส่วนที่กองทัพเรือเยอรมนีขอคำตอบไทยจะซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ ในวันที่ 30 ก.ย.นี้นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ทราบถึงข้อนี้ดี ซึ่งเราคิดว่ากระบวนการพิจารณาน่าจะทัน ส่วนผลออกมาจะเป็นบวกหรือลบก็ไม่ว่ากัน เพราะเราได้แสดงเจตจำนงได้ชี้แจงเหตุผลให้คณะกรรมการตอบได้ทุกคำถาม
ส่วนจะขอให้กองทัพเรือเยอรมนี ยืดเวลาซื้อออกไปได้หรือไม่นั้น พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า เคยคุยอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยอย่างเป็นทางการ เพราะเราต้องรักษาคำพูด แต่หากเหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ ก็ต้องว่ากันอีกที แต่ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีหากเรื่องยังไม่จบน่าจะพูดคุยกันได้ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าโครงการเรือดำน้ำน่าจะผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนสิ้นเดือนนี้ เพราะกระทรวงกลาโหมทราบข้อจำกัดของเรา
ส่วนที่ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่าข้อมูลของกองทัพเรือที่ส่งไปยังไม่เป็นที่พอใจเรื่องงบประมาณและความโปร่งใส พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า มีข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใสด้วยหรือ เมื่อถามว่า มีข้อสงสัยเรื่องการซ่อมปรับสภาพเรือ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ตนไม่ว่าอะไรหรอก ได้บอกข้อเท็จจริงไปหมดแล้ว ว่า เราโปร่งใส สะอาด บริสุทธิ์ คุ้มค่า หรือไม่คุ้มค่า ดูแค่การผ่าเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่คงไม่พอ ซึ่งการดำเนินการผ่าแบตเตอรี่ในกรณีเดียวกันทางประเทศอินโดนีเซียที่มีการ ซ่อมที่ประเทศเกาหลีใต้ ก็ต้องผ่าเหมือนกัน เป็นเรื่องปกติในการผ่าแบตเตอรี่ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด เราก็ตอบคำถามทุกอย่างไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รมว.กลาโหม ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา ผลสรุปที่ออกมาอาจจะต้องจัดหาเรือดำน้ำจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่เยอรมนี พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า คณะกรรมการหลายชุดได้พิจารณาทบทวนมาแล้วก็คิดเหมือนกัน ใครจะรู้ดีเท่าทหารเรือ ใครถามอะไรตอบได้หมด เราทำดีที่สุดแล้ว ผลจะออกมาอย่างไรตนคงไปว่าอะไรไม่ได้ ประเทศชาติไม่ใช่ของผมคนเดียว
เมื่อถามว่า สงสัยหรือไม่เหตุใดการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ ทางกระทรวงกลาโหมจึงต้องตั้งคณะกรรมการทบทวน ไม่เหมือนโครงการของเหล่าทัพอื่น พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน ซึ่งเรื่องที่คนอื่นไม่มีความรู้มาก่อนไม่สามารถตัดสินใจได้ และต้องเชื่อทหารเรือเพราะไม่มีใครมีความรู้ ดีเท่าทหารเรือ ก็ต้องถามทหารเรือ แต่เมื่ออ่านแล้วไม่เข้าใจก็ต้องมีคณะกรรมการพิจารณาและต้องตอบคำถามให้เข้าใจ เมื่อเราชี้แจงโดยทำความเข้าใจเต็มที่แล้ว ก็จบหน้าที่กองทัพเรือ ผลจะออกมาอย่างไรตนก็ไม่ว่าอะไร
“ผมพยายามทำดีที่สุด ทำให้กองทัพเรือ ให้ประเทศชาติ และถ้าพูดว่าทบทวนเพื่อความโปร่งใสก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าบอกว่ามีความไม่โปร่งใส ก็อย่ามาพูดเรื่องนี้กับผมดีกว่า ลองไปถามพ่อค้า แม่ค้าอาวุธที่รู้จักกับผมทุกคน ว่า ผบ.ทร.คนนี้เป็นอย่างไรก็จะรู้ว่าโปร่งใสแค่ไหน จะไปถามกี่บริษัทก็ถามเลย ดูว่าเขาจะตอบอย่างไร เรื่องสตางค์แดงเดียวผมเคยเกี่ยวข้อง หรือเคยเคาะกะลาไหมใน 3 ปี ที่ผมเป็น ผบ.ทร.แต่ถ้ายังสงสัยเรื่องความโปร่งใสผมก็ช่วยไม่ได้แล้ว” พล.ร.อ.กำธร กล่าว