วานนี้ (25 ส.ค.) พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยว่า ตนได้จัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารในส่วนของกองทัพเรือเสร็จเรียบร้อยแล้ว และส่งให้ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดไปแล้ว
ทั้งนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหมได้ย้ำในนโยบายแล้วว่าจะไม่ยุ่งหากผู้บัญชาการเหล่าทัพว่าอย่างไร ก็ว่าตามนั้น ท่านบอกว่าจะไม่ล้วงลูก และไม่อะไรทั้งสิ้น สำหรับการเลือกผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่ ก็ต้องพิจารณาหลายแง่มุม ต้องมีอาวุโส มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ดี
" เราทำงานกันมาตั้งแต่เด็ก รู้ว่าใครเป็นใคร ถ้าเก่งเท่ากันก็ต้องดูเรื่องอื่นประกอบ เช่น การเข้าสังคม มนุษยสัมพันธ์ เรื่องสุขภาพ มันประกอบกันหมด หมายความว่าดูทุกเรื่อง ไม่ได้มองเรื่องอาวุโสอย่างเดียว ถ้ามองอาวุโสอย่างเดียว มันก็ง่าย ถ้าเราจะเลือกคนที่ดีในหมู่ของคนที่ดีมากอยู่แล้ว เราก็ต้องเลือกคนที่ดีมากที่สุด หรืออาจจะดีมากเท่าๆ กัน แต่เหมาะสมที่สุด ยกตัวอย่างว่า ถ้าดีมากที่สุดแต่ว่าปกครองไม่ได้ ซึ่งผมไม่ได้หมายความว่า ในจำนวนแคนดิเดตจะเป็นคนแบบนี้ สรุปแล้วผมต้องมองทุกด้าน ทุกเรื่อง ถ้าบอกว่าดีเท่ากัน แล้วเลือกคนที่อาวุโสกว่า ผมก็เลือกง่าย และไม่ใช่ผมคนเดียวที่เลือก คณะกรรมการฯ ของกองทัพเรือ 5 คน ดูอย่างละเอียดทุกแง่ทุกมุม ผมไม่ต้องล็อบบี้เลย เขาเสนอกันมาและมาคุยกัน" ผบ.ทร. กล่าว
เมื่อถามว่ากังวลที่มีแคนดิเดตที่หลุดโผ ไปวิ่งเต้นกับการเมืองหรือไม่ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า คงจะให้ถูกใจทุกคนยาก แต่การวิ่งเต้นไม่ดีหรอก ทั้งนี้ ยอมรับว่าลำบากใจเป็นธรรมดาในการเลือก แต่เรารู้จักกันมาแต่เด็กๆ เป็นนักเรียนนายเรือด้วยกัน ทำงานด้วยกันมา รู้ว่าที่ดีมากกับดีมากที่สุดคือใคร เราต้องมองด้วยความยุติธรรม และเห็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ การเมืองเขาไม่มาเกี่ยวข้องหรอก เพราะใครจะรู้ดีกว่าทหารเรือด้วยกัน อีกทั้ง ตนก็ไม่ได้พิจารณาคนเดียว บอร์ด 5 คน ได้ร่วมกันพิจารณาในทุกแง่ทุกมุมของทุกคน เชื่อว่าเมื่อประกาศออกมาแล้ว คงไม่ทำให้ผิดใจกัน และปีนี้ที่ว่างหลายตำแหน่ง
ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวด้วยว่า อยากฝากให้ผบ.ทร. คนใหม่สานต่อ 2 เรื่อง คือ การย้ายโรงเรียนนายเรือ จาก อ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ ไปอยู่ในพื้นที่ใกล้การฝึกเช่น อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนนายเรือ อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล จึงต้องเตรียมแผนรองรับในอนาคต เพราะเป็นโครงการที่ต้องใช้งบประมาณมาก รวมถึงโครงการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการในกองเรือดำน้ำที่ได้ตั้งขึ้น พร้อมจัดกำลังพลเข้าบรรจุตามอัตราที่กำหนด ขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อรมว.กลาโหม จะเดินทางมาเยี่ยมกองทัพเรือในวันที่ 5 ก.ย.นี้ จะมีการบรรยายสรุปให้ทราบในเบื้องต้นเคยพูดกับท่านเล็กน้อยว่า กองทัพเรือมีความจำเป็น โดยก่อนหน้านี้ได้มีการส่งกลับมาทบทวนใหม่ ทางกองทัพเรือก็ได้ทบทวนแล้ว เรายังยืนยันเหมือนเดิม ในการจัดหาเรือดำน้ำจากเยอรมนี ส่วนท่านจะเห็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน ทั้งนี้ คิดว่ามีเวลาเสนอครม.ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อให้ทันต่อปีงบประมาณ ถ้าโครงการได้รับการอนุมัติ ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของกองทัพเรือที่จะได้เรียนรู้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.อ. กำธร ได้เสนอ"ครูหรุ่น" พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ (ตท.13) ที่ปรึกษาพิเศษทร. เป็นผบ.ทร. พล.ร.อ.ดำรงศักดิ์ ห้าวเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษทร. เป็น รอง ผบ.ทร. พล.ร.อ.วีรพล กิจสมบัติ หน.คณะฝสธ.ประจำ ผบช. เป็น ประธานคณะที่ปรึกษา ทร. ( อัตราจอมพล ) พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง ผู้ทรงวุฒิพิเศษ เป็น ผช.ผบ.ทร. พล.ร.ท.พลวัฒน์ สิโรดม รอง เสธ.ทร. เป็น เสธ.ทร. พล.ร.อ.อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทร.เป็น ผบ.กองเรือยุทธการ ในขณะที่ส่ง “ครูโอ๋” พล.ร.อ.ยุทธนา ฟักผลงาม (ตท.12) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทร.คู่ชิง ผบ.ทร. คนใหม่ไปเป็นรอง ผบ.สส.
ด้านพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมสภากลาโหมนัดแรกว่าตนจะรอให้การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา เสร็จสิ้นก่อนจึงจะมีการมอบนโยบาย กับ ผบ.เหล่าทัพ เพื่อให้ไปปฏิบัติได้ ดังนั้นตนอาจจะฝากนโยบายไว้ก่อน เพื่อให้เกิดผล ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป
ส่วนความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีรายชื่อปรับย้ายนายทหารประจำปี 2554 พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ได้บอกกับปลัดกระทรวงกลาโหมไปแล้วว่า ให้มาพูดคุยกันก่อน เพื่อขอดูบัญชีรายชื่อโยกย้าย และในการประชุมเพื่อปรับย้ายไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็จบ คิดว่าเป็นเรื่องง่าย เพียงให้ตนได้เห็น ได้รับทราบก่อน ส่วนบางตำแหน่งอย่าง ผบ.ทหารสูงสุด ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่มีข่าวว่า ตกลงกันไม่ได้นั้น คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะตนรู้แล้วว่าจะมีการตั้งใคร และตนก็เห็นด้วยทั้งหมด ซึ่งได้คุยกันเข้าใจแล้วด้วยวาจา
เมื่อถามว่า แสดงว่า เห็นชอบทุกตำแหน่งที่ ผบ.เหล่าทัพ เสนอมา ใช่หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า อาจจะไม่ทุกตำแหน่ง แต่ทุกคนสามารถจะประสานประโยชน์ด้วยกันได้ ทั้งนี้ตนได้ตกลงกับ ผบ.เหล่าทัพว่า จะส่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2554 ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก่อนวันที่ 15 ก.ย.นี้ โดยจะทำให้เร็วยิ่งขึ้น ตามกฎระเบียบของกระทรวงกลาโหม
เมื่อถามว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ มีเด็กฝากจากนักการเมืองหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เก็บไว้พิจารณาทีหลัง แต่ขณะนี้บัญชีรายชื่อทั้งหมด ยังไม่ได้ส่งมายังตน ยังอยู่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งตนจะเรียกประชุมปรับย้ายในสัปดาห์หน้า
---------------
ทั้งนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหมได้ย้ำในนโยบายแล้วว่าจะไม่ยุ่งหากผู้บัญชาการเหล่าทัพว่าอย่างไร ก็ว่าตามนั้น ท่านบอกว่าจะไม่ล้วงลูก และไม่อะไรทั้งสิ้น สำหรับการเลือกผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่ ก็ต้องพิจารณาหลายแง่มุม ต้องมีอาวุโส มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ดี
" เราทำงานกันมาตั้งแต่เด็ก รู้ว่าใครเป็นใคร ถ้าเก่งเท่ากันก็ต้องดูเรื่องอื่นประกอบ เช่น การเข้าสังคม มนุษยสัมพันธ์ เรื่องสุขภาพ มันประกอบกันหมด หมายความว่าดูทุกเรื่อง ไม่ได้มองเรื่องอาวุโสอย่างเดียว ถ้ามองอาวุโสอย่างเดียว มันก็ง่าย ถ้าเราจะเลือกคนที่ดีในหมู่ของคนที่ดีมากอยู่แล้ว เราก็ต้องเลือกคนที่ดีมากที่สุด หรืออาจจะดีมากเท่าๆ กัน แต่เหมาะสมที่สุด ยกตัวอย่างว่า ถ้าดีมากที่สุดแต่ว่าปกครองไม่ได้ ซึ่งผมไม่ได้หมายความว่า ในจำนวนแคนดิเดตจะเป็นคนแบบนี้ สรุปแล้วผมต้องมองทุกด้าน ทุกเรื่อง ถ้าบอกว่าดีเท่ากัน แล้วเลือกคนที่อาวุโสกว่า ผมก็เลือกง่าย และไม่ใช่ผมคนเดียวที่เลือก คณะกรรมการฯ ของกองทัพเรือ 5 คน ดูอย่างละเอียดทุกแง่ทุกมุม ผมไม่ต้องล็อบบี้เลย เขาเสนอกันมาและมาคุยกัน" ผบ.ทร. กล่าว
เมื่อถามว่ากังวลที่มีแคนดิเดตที่หลุดโผ ไปวิ่งเต้นกับการเมืองหรือไม่ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า คงจะให้ถูกใจทุกคนยาก แต่การวิ่งเต้นไม่ดีหรอก ทั้งนี้ ยอมรับว่าลำบากใจเป็นธรรมดาในการเลือก แต่เรารู้จักกันมาแต่เด็กๆ เป็นนักเรียนนายเรือด้วยกัน ทำงานด้วยกันมา รู้ว่าที่ดีมากกับดีมากที่สุดคือใคร เราต้องมองด้วยความยุติธรรม และเห็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ การเมืองเขาไม่มาเกี่ยวข้องหรอก เพราะใครจะรู้ดีกว่าทหารเรือด้วยกัน อีกทั้ง ตนก็ไม่ได้พิจารณาคนเดียว บอร์ด 5 คน ได้ร่วมกันพิจารณาในทุกแง่ทุกมุมของทุกคน เชื่อว่าเมื่อประกาศออกมาแล้ว คงไม่ทำให้ผิดใจกัน และปีนี้ที่ว่างหลายตำแหน่ง
ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวด้วยว่า อยากฝากให้ผบ.ทร. คนใหม่สานต่อ 2 เรื่อง คือ การย้ายโรงเรียนนายเรือ จาก อ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ ไปอยู่ในพื้นที่ใกล้การฝึกเช่น อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนนายเรือ อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล จึงต้องเตรียมแผนรองรับในอนาคต เพราะเป็นโครงการที่ต้องใช้งบประมาณมาก รวมถึงโครงการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการในกองเรือดำน้ำที่ได้ตั้งขึ้น พร้อมจัดกำลังพลเข้าบรรจุตามอัตราที่กำหนด ขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อรมว.กลาโหม จะเดินทางมาเยี่ยมกองทัพเรือในวันที่ 5 ก.ย.นี้ จะมีการบรรยายสรุปให้ทราบในเบื้องต้นเคยพูดกับท่านเล็กน้อยว่า กองทัพเรือมีความจำเป็น โดยก่อนหน้านี้ได้มีการส่งกลับมาทบทวนใหม่ ทางกองทัพเรือก็ได้ทบทวนแล้ว เรายังยืนยันเหมือนเดิม ในการจัดหาเรือดำน้ำจากเยอรมนี ส่วนท่านจะเห็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน ทั้งนี้ คิดว่ามีเวลาเสนอครม.ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เพื่อให้ทันต่อปีงบประมาณ ถ้าโครงการได้รับการอนุมัติ ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของกองทัพเรือที่จะได้เรียนรู้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.อ. กำธร ได้เสนอ"ครูหรุ่น" พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ (ตท.13) ที่ปรึกษาพิเศษทร. เป็นผบ.ทร. พล.ร.อ.ดำรงศักดิ์ ห้าวเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษทร. เป็น รอง ผบ.ทร. พล.ร.อ.วีรพล กิจสมบัติ หน.คณะฝสธ.ประจำ ผบช. เป็น ประธานคณะที่ปรึกษา ทร. ( อัตราจอมพล ) พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง ผู้ทรงวุฒิพิเศษ เป็น ผช.ผบ.ทร. พล.ร.ท.พลวัฒน์ สิโรดม รอง เสธ.ทร. เป็น เสธ.ทร. พล.ร.อ.อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทร.เป็น ผบ.กองเรือยุทธการ ในขณะที่ส่ง “ครูโอ๋” พล.ร.อ.ยุทธนา ฟักผลงาม (ตท.12) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทร.คู่ชิง ผบ.ทร. คนใหม่ไปเป็นรอง ผบ.สส.
ด้านพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมสภากลาโหมนัดแรกว่าตนจะรอให้การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา เสร็จสิ้นก่อนจึงจะมีการมอบนโยบาย กับ ผบ.เหล่าทัพ เพื่อให้ไปปฏิบัติได้ ดังนั้นตนอาจจะฝากนโยบายไว้ก่อน เพื่อให้เกิดผล ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป
ส่วนความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีรายชื่อปรับย้ายนายทหารประจำปี 2554 พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ได้บอกกับปลัดกระทรวงกลาโหมไปแล้วว่า ให้มาพูดคุยกันก่อน เพื่อขอดูบัญชีรายชื่อโยกย้าย และในการประชุมเพื่อปรับย้ายไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็จบ คิดว่าเป็นเรื่องง่าย เพียงให้ตนได้เห็น ได้รับทราบก่อน ส่วนบางตำแหน่งอย่าง ผบ.ทหารสูงสุด ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่มีข่าวว่า ตกลงกันไม่ได้นั้น คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะตนรู้แล้วว่าจะมีการตั้งใคร และตนก็เห็นด้วยทั้งหมด ซึ่งได้คุยกันเข้าใจแล้วด้วยวาจา
เมื่อถามว่า แสดงว่า เห็นชอบทุกตำแหน่งที่ ผบ.เหล่าทัพ เสนอมา ใช่หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า อาจจะไม่ทุกตำแหน่ง แต่ทุกคนสามารถจะประสานประโยชน์ด้วยกันได้ ทั้งนี้ตนได้ตกลงกับ ผบ.เหล่าทัพว่า จะส่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2554 ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก่อนวันที่ 15 ก.ย.นี้ โดยจะทำให้เร็วยิ่งขึ้น ตามกฎระเบียบของกระทรวงกลาโหม
เมื่อถามว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ มีเด็กฝากจากนักการเมืองหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เก็บไว้พิจารณาทีหลัง แต่ขณะนี้บัญชีรายชื่อทั้งหมด ยังไม่ได้ส่งมายังตน ยังอยู่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งตนจะเรียกประชุมปรับย้ายในสัปดาห์หน้า
---------------
