ที่กองบัญชาการกองทัพบก วานนี้ (21 ก.ย.) พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปีที่ยังไม่แล้วเสร็จว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่มีการเมือง และไม่มีใครมาแทรกแซง ทุกคนมีความเข้าใจ ทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพและคณะกรรมการทุกท่านอยู่กับกำลังพลในกองทัพมาเป็นเวลานาน ทราบว่าท่านใดที่มีความพร้อม มีความรู้ความสามารถ ซึ่งในช่วงเวลาที่แตกต่างกันบางท่านอาจจะเหมาะในเวลาหนึ่ง หรือบางท่านอาจเหมาะอีกเวลาหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาเพราะความเหมาะสมในแต่ละห้วงเวลาไม่เหมือนกัน บางครั้งสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างหนึ่งก็ต้องการคนประเภทใดประเภทหนึ่งเข้ามาเป็นผู้นำ แต่โดยมาตรฐานในเรื่องความพร้อมทุกท่านมีความใกล้เคียงกัน ขอให้อย่ากังวลใจ รับรองว่าองค์กรต้องเข้มแข็ง ซึ่งในสมัยหนึ่งคนที่จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทร.มีถึง 4 คน แต่ใครจะขึ้นมานั้นก็ต้องทำเหมือนกันหมด ทั้งนี้ รมว.กห. ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลของ กห. ได้เชิญคณะกรรมการไปประชุมกันในวันที่ 22 ก.ย. และเมื่อประชุมเสร็จทุกอย่างก็จบ คงเรียบร้อย และ รมว.กห.จะลงนามและนำเรียนนายกฯ ต่อไป
เมื่อถามว่าในส่วนของตำแหน่ง รอง ผบ.สส.ที่เป็นโควต้าของ ทบ.และได้เสนอชื่อ พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ ประธานที่ปรึกษาพิเศษ กห. ไปดำรงตำแหน่งนั้นได้มีการพูดคุยเรื่องการปรับเปลี่ยนกับ ผบ.ทบ.หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า เรื่องนี้จบไปตั้งนานแล้ว จบตั้งแต่มีการประชุมที่กองทัพไทย เราพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นประเด็นไหนก็มีคนทดแทนได้ตลอดเวลา เมื่อถามว่าในวันที่ 22 ก.ย.นี้จะมีการพูดถึงคนที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นปลัด กห.หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า แล้วแต่จะยกประเด็นไปไหนขึ้นมา อย่ากังวลใจและเชื่อมั่นว่าผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่ ทั้งส่วนของ ปลัด กห. ผบ.สส. ผบ.ทร.คนใหม่ก็จะรวมกันเดินหน้าช่วยสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือ ประชาชนต่อไป
เมื่อถามว่ายังยืนยันจะเสนอชื่อ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย เข้ามาดำรงตำแหน่งปลัด กห.เช่นเดิมหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่มีใครทราบว่าตนเสนอใคร และตนไม่เคยบอกว่าตนเสนอใคร แต่มีคนอยากจะเขียนเป็นนวนิยาย 3 ฉบับติดต่อกันว่าคนนั้นเสนอคนโน้น คนโน้นเสนอคนนั้น อยากถามว่าในที่ประชุมมีคณะกรรมการอยู่ 6 คน แล้วคนที่ 7 มาพูดได้อย่างไร หรือมีการส่งสายลับไปแอบดู เมื่อถามว่ายืนยันว่าโผโยกย้ายนายทหารจะเสร็จทันภายใน 30 ก.ย.นี้หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า คณะกรรมการในการประชุมสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ และไม่มีปัญหาใดๆ ตนขอยืนยัน
เมื่อถามว่าหากคณะกรรมการมีความเห็นไม่ตรงกันจะต้องใช้การโหวตหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่มีการโหวต อยากถามสื่อว่าที่สื่อนั่งอยู่คือเก้าอี้หรือไม่ คงไม่มีใครมองเป็นโต๊ะ ซึ่งวิจารณญาณของผู้ใหญ่ที่ทำงานมาด้วยกันจนถึงขณะนี้ได้มองเห็นว่าแต่ละคน เป็นอย่างไร รวมถึงประสิทธิภาพในการทำงาน และการทำงานร่วมกับผู้อื่นที่จะมาประกอบด้วยกัน เราพูดคุยกันก็จบตรงนั้น เราไม่ใช่สภา ไม่ต้องโหวต
**'อำลาทบ.มั่นใจ'ประยุทธ์'ป้องสถาบัน
ก่อนหน้านั้น เวลา 11.00 น. พล.อ.ทรงกิตติ จั ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและอำลากองทัพบกในโอกาสก่อนเกษียณอายุราชการ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพให้การต้อนรับ โดย พล.อ.ทรงกิตติ ได้ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ และมีการสวนสนามเทิดเกียรติจากทหารจำนวน 3 กองพัน
จากกองทัพทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร 1 พัน 1 รอ.) กองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ (ม.พัน 1 รอ.) กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 (ปตท.พัน 4) หลังจากนั้นได้เข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานของกองทัพบกในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พล.อ.ทรงกิตติ ได้กล่าวให้โอวาทกำลังพล โดยขอให้กำลังพลปฏิบัติงานด้วยเกียรติยศ และศักดิ์ศรี มีความสง่างาม และสร้างความสง่างามให้กับกองทัพ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาต่อประชาชน
พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวอีกว่า พื้นที่แห่งนี้ได้สร้างคนขึ้นมาหมุนเวียนกันทำหน้าที่ ซึ่งกำลังพลทุกนายมีหน้าที่ที่จะทำกองทัพให้มีความสงบสุขมีศักดิ์ศรี และเป็นความหวังของคนไทยทั้งชาติ เชื่อว่าความอดทนอดกลั้นและการต่อสู้ที่ผ่านมากองทัพได้สร้างพวกเราให้หมุนเวียนเข้ามารับใช้ชาติ และผนึกกำลังร่วมกันทำหน้าที่เพื่อชาติ และส่วนรวมของประเทศชาติ เพื่อประเทศชาติโดยไม่หวังประโยชน์ส่วนตัว มีความมั่นใจข้าราชการของกองทัพบก
โดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ยึดมั่นในความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เหนือสิ่งอื่นใด และจะร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ย่อท้อ เชื่อว่าทุกคนจะทำหน้าที่เพื่อศักดิ์ศรีของประเทศชาติและร่วมกันพัฒนากองทัพให้มีความก้าวหน้าพร้อมรบ แสดงถึงความเป็น 3 เหล่าทัพ 1 กองทัพไทย ซึ่งจะส่งผลให้บรรลุภารกิจในการปกป้องแผ่นดินไทย และรักษาอธิปไตยสืบไป
เมื่อถามว่าในส่วนของตำแหน่ง รอง ผบ.สส.ที่เป็นโควต้าของ ทบ.และได้เสนอชื่อ พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ ประธานที่ปรึกษาพิเศษ กห. ไปดำรงตำแหน่งนั้นได้มีการพูดคุยเรื่องการปรับเปลี่ยนกับ ผบ.ทบ.หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า เรื่องนี้จบไปตั้งนานแล้ว จบตั้งแต่มีการประชุมที่กองทัพไทย เราพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นประเด็นไหนก็มีคนทดแทนได้ตลอดเวลา เมื่อถามว่าในวันที่ 22 ก.ย.นี้จะมีการพูดถึงคนที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นปลัด กห.หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า แล้วแต่จะยกประเด็นไปไหนขึ้นมา อย่ากังวลใจและเชื่อมั่นว่าผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่ ทั้งส่วนของ ปลัด กห. ผบ.สส. ผบ.ทร.คนใหม่ก็จะรวมกันเดินหน้าช่วยสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือ ประชาชนต่อไป
เมื่อถามว่ายังยืนยันจะเสนอชื่อ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย เข้ามาดำรงตำแหน่งปลัด กห.เช่นเดิมหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่มีใครทราบว่าตนเสนอใคร และตนไม่เคยบอกว่าตนเสนอใคร แต่มีคนอยากจะเขียนเป็นนวนิยาย 3 ฉบับติดต่อกันว่าคนนั้นเสนอคนโน้น คนโน้นเสนอคนนั้น อยากถามว่าในที่ประชุมมีคณะกรรมการอยู่ 6 คน แล้วคนที่ 7 มาพูดได้อย่างไร หรือมีการส่งสายลับไปแอบดู เมื่อถามว่ายืนยันว่าโผโยกย้ายนายทหารจะเสร็จทันภายใน 30 ก.ย.นี้หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า คณะกรรมการในการประชุมสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ และไม่มีปัญหาใดๆ ตนขอยืนยัน
เมื่อถามว่าหากคณะกรรมการมีความเห็นไม่ตรงกันจะต้องใช้การโหวตหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่มีการโหวต อยากถามสื่อว่าที่สื่อนั่งอยู่คือเก้าอี้หรือไม่ คงไม่มีใครมองเป็นโต๊ะ ซึ่งวิจารณญาณของผู้ใหญ่ที่ทำงานมาด้วยกันจนถึงขณะนี้ได้มองเห็นว่าแต่ละคน เป็นอย่างไร รวมถึงประสิทธิภาพในการทำงาน และการทำงานร่วมกับผู้อื่นที่จะมาประกอบด้วยกัน เราพูดคุยกันก็จบตรงนั้น เราไม่ใช่สภา ไม่ต้องโหวต
**'อำลาทบ.มั่นใจ'ประยุทธ์'ป้องสถาบัน
ก่อนหน้านั้น เวลา 11.00 น. พล.อ.ทรงกิตติ จั ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและอำลากองทัพบกในโอกาสก่อนเกษียณอายุราชการ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพให้การต้อนรับ โดย พล.อ.ทรงกิตติ ได้ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ และมีการสวนสนามเทิดเกียรติจากทหารจำนวน 3 กองพัน
จากกองทัพทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร 1 พัน 1 รอ.) กองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ (ม.พัน 1 รอ.) กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 (ปตท.พัน 4) หลังจากนั้นได้เข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานของกองทัพบกในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พล.อ.ทรงกิตติ ได้กล่าวให้โอวาทกำลังพล โดยขอให้กำลังพลปฏิบัติงานด้วยเกียรติยศ และศักดิ์ศรี มีความสง่างาม และสร้างความสง่างามให้กับกองทัพ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาต่อประชาชน
พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวอีกว่า พื้นที่แห่งนี้ได้สร้างคนขึ้นมาหมุนเวียนกันทำหน้าที่ ซึ่งกำลังพลทุกนายมีหน้าที่ที่จะทำกองทัพให้มีความสงบสุขมีศักดิ์ศรี และเป็นความหวังของคนไทยทั้งชาติ เชื่อว่าความอดทนอดกลั้นและการต่อสู้ที่ผ่านมากองทัพได้สร้างพวกเราให้หมุนเวียนเข้ามารับใช้ชาติ และผนึกกำลังร่วมกันทำหน้าที่เพื่อชาติ และส่วนรวมของประเทศชาติ เพื่อประเทศชาติโดยไม่หวังประโยชน์ส่วนตัว มีความมั่นใจข้าราชการของกองทัพบก
โดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ยึดมั่นในความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เหนือสิ่งอื่นใด และจะร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ย่อท้อ เชื่อว่าทุกคนจะทำหน้าที่เพื่อศักดิ์ศรีของประเทศชาติและร่วมกันพัฒนากองทัพให้มีความก้าวหน้าพร้อมรบ แสดงถึงความเป็น 3 เหล่าทัพ 1 กองทัพไทย ซึ่งจะส่งผลให้บรรลุภารกิจในการปกป้องแผ่นดินไทย และรักษาอธิปไตยสืบไป