ASTV ผู้จัดการรายวัน - "ทรีซิกตี้ไฟว์" คว้าสัมปทานบริหารพื้นที่แอร์พอร์ตลิงค์ ล่าสุดดึง "โคอะ-ฉะ อิงค์”หรือ Koa-sha Inc. พันธมิตรญี่ปุ่น ลงขันตั้งบริษัทร่วมทุน "โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย)" ดูแลโครงการเต็มตัว มั่นใจสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท ภายในเวลาสัมปทาน 10 ปี พร้อมหวังปูทางสร้างชื่อรับงานอื่นๆ อีกในอนาคต คาดปีนี้ล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง พร้อมเล็งลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน
นายอรัญ อภิจารี ประธานกรรมการ บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSF ผู้ประกอบธุรกิจประเภทสื่อโฆษณา และประชาสัมพันธ์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับสัมปทานสิทธิ์โครงการการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โฆษณาของโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตลิงค์ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานกรุงเทพฯ (Suvarnabhumi Airport Rail Link and BangkokCity Air Terminal Project) หลังจากได้ผ่านการคัดเลือกด้วยวิธีประกวดราคาพร้อมผลตอบแทนทางการเงินตามเงื่อนไขที่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้กำหนดไว้ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ ได้รับสิทธิ์พื้นที่เช่าโฆษณาในโครงการ Airport Rail Link รวมทั้งสิ้น 6,837 ตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่โฆษณาจำนวน 8 สถานี ได้แก่ พญาไท, ราชปรารภ, มักกะสัน, สุวรรณภูมิ, รามคำแหง, หัวหมาก, ลาดกระบัง และทับช้าง รวมพื้นที่ 5,004.21 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึงพื้นที่โฆษณาขบวนรถ City Line และขบวนรถ Express Line รวมพื้นที่อีก 1,832.79 ตารางเมตร
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าบริหารโครงการดังกล่าว ขณะนี้บริษัทฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นผู้ประกอบการรับออกแบบจัดสร้างงานโฆษณาทุกประเภท และบริหารพื้นที่สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น คือ บริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์ เปิดบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าวร่วมกันภายใต้ชื่อ "บริษัท โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด" มีทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 10 ล้านบาท จำนวน 100,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 และบริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49
"การดึงเอาโคอะ-ฉะ อิงค์ เข้ามาร่วมทุน เป็นเพราะเขาเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการบริหารพื้นที่และสื่อโฆษณาในระบบขนส่งยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ที่มีทั้งสุดยอดเทคโนโลยีด้านสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน เครือข่ายลูกค้าที่เป็นอินเตอร์แบรนด์รายใหญ่จากทั่วโลก และเงินทุนที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ TSF เองถือเป็นผู้คร่ำหวอดและมีประสบการณ์ในธุรกิจผลิตสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ในประเทศไทยมานาน ดังนั้นจึงเชื่อว่าเมื่อนำเอาความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทฯมาไว้ด้วยกันจะทำให้ "โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย)" สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัวและเหนือชั้น ขึ้นสู่เป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้ได้ โดยเรามั่นใจว่าในระยะเวลาสัมปทาน 10 ปี จะสามารถสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท"
นายอรัญ กล่าวอีกว่า การมุ่งขยายธุรกิจด้านสื่อโฆษณาของ TSF ในครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า ธุรกิจด้านสื่อโฆษณา และประชาสัมพันธ์ ยังเป็นธุรกิจหลักที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญและเดินหน้าขยายฐานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ในขณะเดียวกันก็ยังมองหาธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ ด้วย เพื่อสานต่อปณิธานของคณะกรรมการและผู้บริหารทุกคนที่มุ่งขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับทั้งผู้ถือหุ้น พนักงานบริษัท และนักลงทุนอย่างเท่าเทียมกัน
ด้าน มร.โทรุ อิชิกะวะ กรรมการผู้จัดการตัวแทนการตลาดและโฆษณา บริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์ กล่าวว่า บริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์ เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านโฆษณา เปิดมาเป็นเวลายาวนานกว่า 70 ปีในช่วงที่ผ่านมา บริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์ ได้ทุ่มเทพัฒนาการผลิตสื่อโฆษณา โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชน และบริษัทได้รับความร่วมมือจากบริษัทการรถไฟของญี่ปุ่นมานานกว่า 76 ปี ในปัจจุบันเครือข่ายของการรถไฟในญี่ปุ่นทั้งประเทศมีประมาณ 520 สาย จำนวนสถานีมากกว่า 10,500 สถานี บริษัทของเราจึงถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการโฆษณากับขนส่งมวลชน ตามสถานีและเส้นทางรถไฟฟ้าต่าง ๆ
ที่ผ่านมาบริษัทมีเป้าหมายจะขยายกิจการในภูมิภาคเอเชียให้กว้างขวางขึ้น ทั้งในประเทศไทยและเวียดนามและการได้ร่วมธุรกิจกับผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณากลางแจ้ง บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาการโฆษณากับสื่อเคลื่อนที่ในประเทศไทยในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการสานต่อนโยบายการขยายเครือข่ายธุรกิจออกสู่ภูมิภาคนี้ โดยบริษัทจะนำเอา know-how จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาพัฒนาการทำโฆษณากับโครงการ แอร์พอร์ตเรล ลิ้ง ซึ่งเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวจะสนับสนุนให้บริษัท โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย) ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ได้เป็นอย่างดี
สำหรับTSFคาดว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมด 26 ล้านบาท และมีกำไรเหลือบางส่วน แต่คงไม่สามารถจ่ายปันผลได้สำหรับผลประกอบการงวดปีนี้ ภาพรวมบริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีนี้เติบโต 100% จากปีก่อนที่มีรายได้ 179 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักจากธุรกิจโฆษณาบนแอร์พอร์ตลิงค์ และรายได้จากอบรมด้านคอมพิวเตอร์ แต่ในปี 2555 สัดส่วนรายได้จะเพิ่มเติมเข้ามาจากธุรกิจใหม่ ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนด้านสื่อโฆษณาในฟรีทีวีและเคเบิ้ลทีวี คาดจะสามารถสรุปภายในไตรมาส 4/54 คาดว่าจะสร้างรายได้อย่างชัดเจนในปีหน้า รวมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งจะมีความชัดเจนในปีนี้
นายอรัญ อภิจารี ประธานกรรมการ บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSF ผู้ประกอบธุรกิจประเภทสื่อโฆษณา และประชาสัมพันธ์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับสัมปทานสิทธิ์โครงการการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โฆษณาของโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตลิงค์ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานกรุงเทพฯ (Suvarnabhumi Airport Rail Link and BangkokCity Air Terminal Project) หลังจากได้ผ่านการคัดเลือกด้วยวิธีประกวดราคาพร้อมผลตอบแทนทางการเงินตามเงื่อนไขที่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้กำหนดไว้ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ ได้รับสิทธิ์พื้นที่เช่าโฆษณาในโครงการ Airport Rail Link รวมทั้งสิ้น 6,837 ตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่โฆษณาจำนวน 8 สถานี ได้แก่ พญาไท, ราชปรารภ, มักกะสัน, สุวรรณภูมิ, รามคำแหง, หัวหมาก, ลาดกระบัง และทับช้าง รวมพื้นที่ 5,004.21 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึงพื้นที่โฆษณาขบวนรถ City Line และขบวนรถ Express Line รวมพื้นที่อีก 1,832.79 ตารางเมตร
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าบริหารโครงการดังกล่าว ขณะนี้บริษัทฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นผู้ประกอบการรับออกแบบจัดสร้างงานโฆษณาทุกประเภท และบริหารพื้นที่สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น คือ บริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์ เปิดบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าวร่วมกันภายใต้ชื่อ "บริษัท โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด" มีทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 10 ล้านบาท จำนวน 100,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 และบริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49
"การดึงเอาโคอะ-ฉะ อิงค์ เข้ามาร่วมทุน เป็นเพราะเขาเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการบริหารพื้นที่และสื่อโฆษณาในระบบขนส่งยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ที่มีทั้งสุดยอดเทคโนโลยีด้านสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน เครือข่ายลูกค้าที่เป็นอินเตอร์แบรนด์รายใหญ่จากทั่วโลก และเงินทุนที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ TSF เองถือเป็นผู้คร่ำหวอดและมีประสบการณ์ในธุรกิจผลิตสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ในประเทศไทยมานาน ดังนั้นจึงเชื่อว่าเมื่อนำเอาความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทฯมาไว้ด้วยกันจะทำให้ "โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย)" สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัวและเหนือชั้น ขึ้นสู่เป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้ได้ โดยเรามั่นใจว่าในระยะเวลาสัมปทาน 10 ปี จะสามารถสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท"
นายอรัญ กล่าวอีกว่า การมุ่งขยายธุรกิจด้านสื่อโฆษณาของ TSF ในครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า ธุรกิจด้านสื่อโฆษณา และประชาสัมพันธ์ ยังเป็นธุรกิจหลักที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญและเดินหน้าขยายฐานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ในขณะเดียวกันก็ยังมองหาธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ ด้วย เพื่อสานต่อปณิธานของคณะกรรมการและผู้บริหารทุกคนที่มุ่งขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับทั้งผู้ถือหุ้น พนักงานบริษัท และนักลงทุนอย่างเท่าเทียมกัน
ด้าน มร.โทรุ อิชิกะวะ กรรมการผู้จัดการตัวแทนการตลาดและโฆษณา บริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์ กล่าวว่า บริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์ เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านโฆษณา เปิดมาเป็นเวลายาวนานกว่า 70 ปีในช่วงที่ผ่านมา บริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์ ได้ทุ่มเทพัฒนาการผลิตสื่อโฆษณา โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชน และบริษัทได้รับความร่วมมือจากบริษัทการรถไฟของญี่ปุ่นมานานกว่า 76 ปี ในปัจจุบันเครือข่ายของการรถไฟในญี่ปุ่นทั้งประเทศมีประมาณ 520 สาย จำนวนสถานีมากกว่า 10,500 สถานี บริษัทของเราจึงถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการโฆษณากับขนส่งมวลชน ตามสถานีและเส้นทางรถไฟฟ้าต่าง ๆ
ที่ผ่านมาบริษัทมีเป้าหมายจะขยายกิจการในภูมิภาคเอเชียให้กว้างขวางขึ้น ทั้งในประเทศไทยและเวียดนามและการได้ร่วมธุรกิจกับผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณากลางแจ้ง บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาการโฆษณากับสื่อเคลื่อนที่ในประเทศไทยในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการสานต่อนโยบายการขยายเครือข่ายธุรกิจออกสู่ภูมิภาคนี้ โดยบริษัทจะนำเอา know-how จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาพัฒนาการทำโฆษณากับโครงการ แอร์พอร์ตเรล ลิ้ง ซึ่งเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวจะสนับสนุนให้บริษัท โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย) ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ได้เป็นอย่างดี
สำหรับTSFคาดว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมด 26 ล้านบาท และมีกำไรเหลือบางส่วน แต่คงไม่สามารถจ่ายปันผลได้สำหรับผลประกอบการงวดปีนี้ ภาพรวมบริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีนี้เติบโต 100% จากปีก่อนที่มีรายได้ 179 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักจากธุรกิจโฆษณาบนแอร์พอร์ตลิงค์ และรายได้จากอบรมด้านคอมพิวเตอร์ แต่ในปี 2555 สัดส่วนรายได้จะเพิ่มเติมเข้ามาจากธุรกิจใหม่ ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนด้านสื่อโฆษณาในฟรีทีวีและเคเบิ้ลทีวี คาดจะสามารถสรุปภายในไตรมาส 4/54 คาดว่าจะสร้างรายได้อย่างชัดเจนในปีหน้า รวมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งจะมีความชัดเจนในปีนี้
