“ทรีซิกตี้ไฟว์” พร้อมปรับโครงสร้างใหม่ ปีหน้ามองหาธุรกิจแบบยั่งยืนสร้าง เล็งธุรกิจพลังงานสร้างรายได้หลักในอนาคต ส่วนปีนี้ล่าสุดคว้าสิทธิ์บริหารพื้นที่โฆษณาแอร์พอร์ตลิงค์ 10ปี จับมือ “โคอะ-ฉะ อิงค์” ผุดบริษัทร่วมทุน”โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย)” ดูแล มั่นใจ 10ปี โกยรายได้ร่วม 600ล้านบาท โฆษณาเข้า 10 ล้านบาทต่อเดือน
นายอรัญ อภิจารี ประธานกรรมการ บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSF ดำเนินธุรกิจด้านสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และจัดงานอีเว้นท์ เปิดเผยว่า ในปีหน้าทางบริษัทพร้อมปรับโครงสร้างทางธุรกิจเพื่อการพัฒนาธุรกิจให้สามารถสร้างรายได้ได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น จากเดิมที่จะอาศัยการสร้างรายได้จากการทำโฆษณาในรูปแบบของการทำสัมปทานเป็นหลัก
ดังนั้นในปีหน้าทางบริษัทจะมีการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ไปสู่ธุรกิจแบบยั่งยืน เพื่อเป็นการวางรากฐานหลักในการสร้างรายได้ให้แก่บริษัทต่อไป โดยเล็งไว้ว่าจะเป็นธุรกิจทางด้านพลังงาน ทั้งพลังงานทดแทนและพลังงานเสริม ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นบริษัทในประเทศไทย
ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจด้านสื่อโฆษณานั้น จะยังคงให้ความสำคัญอยู่ แต่จะมีการแตกเซกเม้นท์การทำงานมากขึ้น จากเดิมที่เน้นสื่อโฆษณาแบบรับทำสัมปทานเป็นหลัก ปีหน้าจะเห็นการเข้าไปรุกขายโฆษณาให้กับลูกค้าอย่าง ผู้ผลิตรายการ ผู้ผลิตภาพยนตร์และละครในสื่อโทรทัศน์ทางฟรีทีวีด้วย จากปัจจุบันบริษัทมีรายได้หลักมาจากสื่อโฆษณา 70% งานอีเว้นท์ 15% และการฝึกอบรม 15% ซึ่งรายได้ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พบว่าทำได้ร่วม 90 ล้านบาท มีกำไร 18 ล้านบาท ถึงสิ้นปีมั่นใจว่า จะสามารถล้างขาดทุนสะสม 26 ล้านบาท และพอเห็นกำไรได้อยู่บ้าง
ล่าสุดทางบริษัทได้รับสัมปทานสิทธิ์โครงการการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โฆษณาของโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตลิงค์ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานกรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ โดยบริษัทได้รับสิทธิ์พื้นที่เช่าโฆษณาในโครงการแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ รวมทั้งสิ้น 6,837 ตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่โฆษณาจำนวน 8 สถานี คือ พญาไท
ราชปรารภ มักกะสัน รามคำแหง หัวหมาก ลาดกะบัง ทับช้าง และสุวรรณภูมิ รวมพื้นที่ 5,004.21 ตารางเมตร และพื้นที่โฆษณาขบวนรถซิตี้ ไลน์ และเอ็กซ์เพรส ไลน์ อีก 1,832.79 ตารางเมตร รวมมูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 10ปี
ทั้งนี้ทางบริษัท ได้ร่วมกับทางบริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์ บริษัทด้านการผลิตสื่อโฆษณาระบบขนส่งมวลชนจากประเทศญี่ปุ่น ในการร่วมทุนกันจัดตั้งบริษัท โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นมาดูแลสัมปทานโครงการดังกล่าว ด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 10ล้านบาท จำนวน 100,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัททรีซิกตี้ไฟว์ ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และทางโคอะ-ฉะ อิงค์ ถือหุ้น 49% เชื่อว่าภายใน 10 ปีนี้ จะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนตลอดระยะเวลาสัมปทานน่าจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น การจัดซื้อจอแอลซีดี อุปกรณ์ระบบแอลซีดี ไลท์บ็อกซ์ เป็นต้น
เบื้องต้นมองว่าภายในปีที่ 6 จะสามารถคืนทุนได้ หรือแต่ละเดือนจะมีรายได้จากโฆษณาเข้ามาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรือภายในระยะเวลา 1 ปีแรกนี้คาดว่าจะมีรายได้ราว 50 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถขายโฆษณาได้เต็มไม่เกิน 3 ปีนี้ เนื่องจากพบว่าโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ กำลังมีประชาชนให้ความสนใจใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 6 เดือนที่ผ่านมานี้
มีผู้ใช้บริการไปแล้วกว่า 60,000 ราย ขณะที่ทั้งปี2553ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการ 40,000 ราย และจากการที่บริษัทได้สัมปทานครั้งนี้ เชื่อว่าจะส่งผลให้สื่อโฆษณาเคลื่อนที่และป้ายขนาดกลางและเล็ก เติบโตขึ้นเป็น 25% ต่อปีได้ จากตัวเลขล่าสุดตั้งแต่ม.ค.-ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามูลค่าสื่อโฆษณาเคลื่อนที่เติบโตขึ้น 20.62% หรือมีมูลค่าประมาณ 1,685 ล้านบาท
นายอรัญ อภิจารี ประธานกรรมการ บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSF ดำเนินธุรกิจด้านสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และจัดงานอีเว้นท์ เปิดเผยว่า ในปีหน้าทางบริษัทพร้อมปรับโครงสร้างทางธุรกิจเพื่อการพัฒนาธุรกิจให้สามารถสร้างรายได้ได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น จากเดิมที่จะอาศัยการสร้างรายได้จากการทำโฆษณาในรูปแบบของการทำสัมปทานเป็นหลัก
ดังนั้นในปีหน้าทางบริษัทจะมีการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ไปสู่ธุรกิจแบบยั่งยืน เพื่อเป็นการวางรากฐานหลักในการสร้างรายได้ให้แก่บริษัทต่อไป โดยเล็งไว้ว่าจะเป็นธุรกิจทางด้านพลังงาน ทั้งพลังงานทดแทนและพลังงานเสริม ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นบริษัทในประเทศไทย
ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจด้านสื่อโฆษณานั้น จะยังคงให้ความสำคัญอยู่ แต่จะมีการแตกเซกเม้นท์การทำงานมากขึ้น จากเดิมที่เน้นสื่อโฆษณาแบบรับทำสัมปทานเป็นหลัก ปีหน้าจะเห็นการเข้าไปรุกขายโฆษณาให้กับลูกค้าอย่าง ผู้ผลิตรายการ ผู้ผลิตภาพยนตร์และละครในสื่อโทรทัศน์ทางฟรีทีวีด้วย จากปัจจุบันบริษัทมีรายได้หลักมาจากสื่อโฆษณา 70% งานอีเว้นท์ 15% และการฝึกอบรม 15% ซึ่งรายได้ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พบว่าทำได้ร่วม 90 ล้านบาท มีกำไร 18 ล้านบาท ถึงสิ้นปีมั่นใจว่า จะสามารถล้างขาดทุนสะสม 26 ล้านบาท และพอเห็นกำไรได้อยู่บ้าง
ล่าสุดทางบริษัทได้รับสัมปทานสิทธิ์โครงการการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โฆษณาของโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตลิงค์ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานกรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ โดยบริษัทได้รับสิทธิ์พื้นที่เช่าโฆษณาในโครงการแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ รวมทั้งสิ้น 6,837 ตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่โฆษณาจำนวน 8 สถานี คือ พญาไท
ราชปรารภ มักกะสัน รามคำแหง หัวหมาก ลาดกะบัง ทับช้าง และสุวรรณภูมิ รวมพื้นที่ 5,004.21 ตารางเมตร และพื้นที่โฆษณาขบวนรถซิตี้ ไลน์ และเอ็กซ์เพรส ไลน์ อีก 1,832.79 ตารางเมตร รวมมูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 10ปี
ทั้งนี้ทางบริษัท ได้ร่วมกับทางบริษัท โคอะ-ฉะ อิงค์ บริษัทด้านการผลิตสื่อโฆษณาระบบขนส่งมวลชนจากประเทศญี่ปุ่น ในการร่วมทุนกันจัดตั้งบริษัท โคอะ-ฉะ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นมาดูแลสัมปทานโครงการดังกล่าว ด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 10ล้านบาท จำนวน 100,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัททรีซิกตี้ไฟว์ ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และทางโคอะ-ฉะ อิงค์ ถือหุ้น 49% เชื่อว่าภายใน 10 ปีนี้ จะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนตลอดระยะเวลาสัมปทานน่าจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น การจัดซื้อจอแอลซีดี อุปกรณ์ระบบแอลซีดี ไลท์บ็อกซ์ เป็นต้น
เบื้องต้นมองว่าภายในปีที่ 6 จะสามารถคืนทุนได้ หรือแต่ละเดือนจะมีรายได้จากโฆษณาเข้ามาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรือภายในระยะเวลา 1 ปีแรกนี้คาดว่าจะมีรายได้ราว 50 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถขายโฆษณาได้เต็มไม่เกิน 3 ปีนี้ เนื่องจากพบว่าโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ กำลังมีประชาชนให้ความสนใจใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 6 เดือนที่ผ่านมานี้
มีผู้ใช้บริการไปแล้วกว่า 60,000 ราย ขณะที่ทั้งปี2553ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการ 40,000 ราย และจากการที่บริษัทได้สัมปทานครั้งนี้ เชื่อว่าจะส่งผลให้สื่อโฆษณาเคลื่อนที่และป้ายขนาดกลางและเล็ก เติบโตขึ้นเป็น 25% ต่อปีได้ จากตัวเลขล่าสุดตั้งแต่ม.ค.-ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามูลค่าสื่อโฆษณาเคลื่อนที่เติบโตขึ้น 20.62% หรือมีมูลค่าประมาณ 1,685 ล้านบาท
