ASTVผู้จัดการรายวัน - ตลาดอนุพันธ์เตรียมเปิดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า (Oil Futures) ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ เผยอยู่ระหว่างเจรจาหามาร์เก็ตเมกเกอร์เพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขาย เชื่อมั่นช่วยบริหารต้นทุนน้ำมัน กระจายความเสี่ยงของพอร์ตหุ้น เพิ่มทางเลือกทำกำไรให้ผู้ลงทุน
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดอนุพันธ์มีกำหนดเริ่มเปิดซื้อขาย Oil Futures ในวันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 นี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบระบบงานร่วมกับสำนักหักบัญชีและสมาชิก ไปจนถึงปลายเดือนกันยายนนี้
สำหรับOil Futures ที่จะซื้อขายใน TFEX นี้ จะอ้างอิงกับราคาน้ำมันดิบ Brent ซึ่งเป็นราคาน้ำมันดิบอ้างอิงที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทั่วโลก โดยในการซื้อขายจะไม่มีการส่งมอบน้ำมันดิบจริง แต่จะใช้วิธีชำระกำไรขาดทุนเป็นเงินสด (Cash Settlement) โดย Oil Futures 1 สัญญาจะมีขนาด 100 บาร์เรล (ประมาณ 15,898.7 ลิตร) หรือคิดเป็นเป็นมูลค่าประมาณ 330,000 บาท โดยจะมี Oil Futures ให้เลือกซื้อขาย 3 series ตลอดเวลา โดยจะมีเดือนที่สัญญาครบอายุเป็นเดือนปฏิทินที่ใกล้สุด 3 เดือนเรียงลำดับกัน เช่น series เดือนพฤศจิกายน ธันวาคม และมกราคม ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย Oil Futures ได้จนถึงเวลาสี่ทุ่มครึ่ง ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นโบรกเกอร์อนุพันธ์ซึ่งให้บริการซื้อขายสินค้าทุกประเภทใน TFEX เบื้องต้นคาดว่าอัตราหลักประกันสำหรับผู้ลงทุนรายย่อยจะอยู่ที่ประมาณ 33,500 บาทต่อสัญญา ทั้งนี้ จะมีการทบทวนและประกาศอัตราหลักประกันอย่างเป็นทางการในต้นเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้ได้อัตราที่เหมาะสมกับสภาพตลาดมากที่สุด
“ตลาดอนุพันธ์อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมน้ำมันและบริษัทสมาชิกตลาดอนุพันธ์เพื่อให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) สำหรับการซื้อขาย Oil Futures เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย Oil Futures ได้อย่างมั่นใจและใช้บริหารความเสี่ยงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยคาดว่าจะสรุปผลได้ในเร็วๆ นี้”
ทั้งนี้ ตลาดอนุพันธ์เชื่อมั่นว่า Oil Futures จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน เนื่องจากน้ำมันเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผู้ลงทุนรู้จักและให้ความสนใจอย่างมาก และสำหรับตลาดทุนไทยนั้น Oil Futures นับเป็นเครื่องมือใหม่ที่ผู้ลงทุนสามารถใช้สร้างโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันได้สะดวก รวดเร็ว ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่า ราคาน้ำมันดิบโลกมีความผันผวนมาก และราคาน้ำมันดิบยังมีการเคลื่อนไหวที่ไม่สัมพันธ์กับราคาหุ้นมากนัก จึงทำให้ผู้ลงทุนที่มีพอร์ตหุ้นอยู่ สามารถซื้อขาย Oil Futures เพื่อลดความเสี่ยงให้กับพอร์ตหุ้นได้อีก สำหรับในภาคธุรกิจนั้น ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีต้นทุนด้านพลังงานในสัดส่วนสูง เช่น ขนส่ง โลจิสติกส์ เป็นต้น ก็สามารถใช้ Oil futures เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการต้นทุนด้านพลังงานได้เช่นกัน นางเกศรา กล่าวเสริม
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดอนุพันธ์มีกำหนดเริ่มเปิดซื้อขาย Oil Futures ในวันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 นี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบระบบงานร่วมกับสำนักหักบัญชีและสมาชิก ไปจนถึงปลายเดือนกันยายนนี้
สำหรับOil Futures ที่จะซื้อขายใน TFEX นี้ จะอ้างอิงกับราคาน้ำมันดิบ Brent ซึ่งเป็นราคาน้ำมันดิบอ้างอิงที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทั่วโลก โดยในการซื้อขายจะไม่มีการส่งมอบน้ำมันดิบจริง แต่จะใช้วิธีชำระกำไรขาดทุนเป็นเงินสด (Cash Settlement) โดย Oil Futures 1 สัญญาจะมีขนาด 100 บาร์เรล (ประมาณ 15,898.7 ลิตร) หรือคิดเป็นเป็นมูลค่าประมาณ 330,000 บาท โดยจะมี Oil Futures ให้เลือกซื้อขาย 3 series ตลอดเวลา โดยจะมีเดือนที่สัญญาครบอายุเป็นเดือนปฏิทินที่ใกล้สุด 3 เดือนเรียงลำดับกัน เช่น series เดือนพฤศจิกายน ธันวาคม และมกราคม ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย Oil Futures ได้จนถึงเวลาสี่ทุ่มครึ่ง ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นโบรกเกอร์อนุพันธ์ซึ่งให้บริการซื้อขายสินค้าทุกประเภทใน TFEX เบื้องต้นคาดว่าอัตราหลักประกันสำหรับผู้ลงทุนรายย่อยจะอยู่ที่ประมาณ 33,500 บาทต่อสัญญา ทั้งนี้ จะมีการทบทวนและประกาศอัตราหลักประกันอย่างเป็นทางการในต้นเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้ได้อัตราที่เหมาะสมกับสภาพตลาดมากที่สุด
“ตลาดอนุพันธ์อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมน้ำมันและบริษัทสมาชิกตลาดอนุพันธ์เพื่อให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) สำหรับการซื้อขาย Oil Futures เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย Oil Futures ได้อย่างมั่นใจและใช้บริหารความเสี่ยงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยคาดว่าจะสรุปผลได้ในเร็วๆ นี้”
ทั้งนี้ ตลาดอนุพันธ์เชื่อมั่นว่า Oil Futures จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน เนื่องจากน้ำมันเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผู้ลงทุนรู้จักและให้ความสนใจอย่างมาก และสำหรับตลาดทุนไทยนั้น Oil Futures นับเป็นเครื่องมือใหม่ที่ผู้ลงทุนสามารถใช้สร้างโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันได้สะดวก รวดเร็ว ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่า ราคาน้ำมันดิบโลกมีความผันผวนมาก และราคาน้ำมันดิบยังมีการเคลื่อนไหวที่ไม่สัมพันธ์กับราคาหุ้นมากนัก จึงทำให้ผู้ลงทุนที่มีพอร์ตหุ้นอยู่ สามารถซื้อขาย Oil Futures เพื่อลดความเสี่ยงให้กับพอร์ตหุ้นได้อีก สำหรับในภาคธุรกิจนั้น ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีต้นทุนด้านพลังงานในสัดส่วนสูง เช่น ขนส่ง โลจิสติกส์ เป็นต้น ก็สามารถใช้ Oil futures เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการต้นทุนด้านพลังงานได้เช่นกัน นางเกศรา กล่าวเสริม