xs
xsm
sm
md
lg

สมรภูมิโรงเรียนดนตรีคึก ยามาฮ่า-จีเอ็มเอ็มสยายปีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “ยามาฮ่า” กุมขมับขาดแคลนครูสอนดนตรี ฟาดแผนขยายสาขาล่าช้า เปิดโครงการให้ทุนเรียนพร้อมรับทำงานขั้นต่ำ 4 ปี รับแผนขยายสาขาเป็น 150 แห่งภายใน ปี 2556 หวังสัดส่วนรายได้จากโรงเรียนจะมากขึ้น ฟากแกรมมี่ทุ่ม 10 ล. ผุดสถาบัน GRVS พัฒนาศิลปิน-ครูสอนร้องเพลง

นางสุวรรณา วังโสภณ กรรมการบริหาร บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องดนตรีและบริหารโรงเรียนสอนดนตรี “ยามาฮ่า” กล่าวว่า บริษัทฯวางแผนขยายสาขาในปีหน้า (2554) ประมาณ 12 แห่ง ลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 10 ล้านบาท คาดสิ้นปีหน้าจะครบ100 สาขา และคาดว่าในปี 2556 จะขยายสาขาอีก 50 สาขารวมเป็น 150 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาเปิดบริการ 88 สาขา และมียอดนักเรียนประมาณ 10,000 คน ซึ่งถือเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วมากในช่วง 2 ปีจากนี้

อย่างไรก็ตามแม้ว่าขณะนี้จะมีรายชื่อผู้สนใจที่จะลงทุนเปิดโรงเรียนสอนดนตรี “ยามาฮ่า” มากกว่า 50 รายก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามความต้องการ เนื่องจากติดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรครูผู้สอนดนตรีในรูปแบบของยามาฮ่าเป็นอย่างมาก จึงทำให้การขยายสาขาค่อนข้างช้า

ทั้งนี้บริษัทได้แก้ปัญหาเพื่อรับมือกับการขยายสาขาในระยะยาว ด้วยการเปิดตัวโครงการให้ทุนสนับสนุนการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่มีการสอนวิชาดนตรีทั่วประเทศ รวมมากกว่า 20 แห่ง ตั้งแต่ ปี 1 – ปี 4 โดยใช้งบประมาณ 5 ล้นบาทต่อปี เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคลากร โดยผู้ที่ได้รับทุนของบริษัทเมื่อจบการศึกษาออกมาแล้ว จะได้เข้าฝึกงานที่โรงเรียนดนตรียามาฮ่า รวมทั้งสัญญาการเป็นครูสอนที่โรงเรียนฯอีก 4 ปีด้วย

ขณะที่แผนการตลาดจากนี้บริษัทจะเน้นทางด้านการเป็นผู้สนับสนุนภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับดนตรีอย่างจริงจัง ตั้งเป้าหมายอย่างต่ำ 1 เรื่องต่อปี ด้วยงบประมาณขั้นต่ำ 5 ล้านบาทต่อปี เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์และกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายสนใจที่จะมาเรียนดนตรี ถือเป็นการขยายฐานตลาดได้ด้วย ล่าสุดได้เข้าเป็นสปอนเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง เดอะเมโลดี้ ซึ่งเนื้อหาของภาพยนตร์นั้น พระเอกและนางเอก เป็นนักเปียโน ซึ่งจะเข้าฉายวันที่ 3 พฤศจิกายนศกนี้ ตั้งเป้าหมายยอดขายเพิ่มจากเรื่องนี้ 30-40% ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เพิ่งเป็นสปอนเซอร์เรื่องซัคซีสห่วยขั้นเทพ ซึ่งช่วงนั้นมียอดขายที่มาจากกลุ่มเด็กนักเรียนเพิ่มขึ้น 10%

สำหรับงบประมาณการตลาดตั้งไว้ประมาณ 30 ล้านบาทต่อปี จะมีการจัดอีเวนต์ เทศกาลต่างๆตลอดทั้งปี ล่าสุดยามาฮ่าประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดโชว์การประพันธ์เพลงนานาชาติ “Asia Pacific Junior Original Concert 2011” วันที่ 8 ตุลาคมศกนี้ ที่โรงละครอักษรา ซ.รางน้ำ โดยจะมีการเชิญยุวทูตดนตรีจาก 8 ประเทศและอีก 2 เขตบริหารพิเศษ มีอายุไม่เกิน 15 ปี มาร่วมงาน โดยประเทศไทยได้ส่งเข้าร่วม 3 คน ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการโชว์บทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นมาจากตัวแทนยุวทูตดนตรีแต่ละประเทศเพื่อมาแสดงต่อสาธารณชน

ส่วนผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% แบ่งสัดส่วนรายได้มาจาก การขายเครื่องดนตรี 80% และรายได้จากโรงเรียนสอนดนตรี 20% และคาดว่าภายในปี 2557 จะมีรายได้เพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จากโรงเรียนสอนดนตรีจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

***แกรมมี่ทุ่ม 10 ล.เปิดสถาบัน GRVS***
นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานกรรมการบริหารร่วม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กล่าวว่า การแข่งขันของธุรกิจโรงเรียนดนตรี สอนร้องเพลงค่อนข้างรุนแรง และเน้นคุณภาพมากขึ้น จากการเกิดขึ้นของเวทีการประกวดมากมายในปัจจุบัน สำหรับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้หยุดดำเนินการโรงเรียนสอนดนตรีมีฟ้าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเปิดสถาบัน GRVS หรือ Grammy Krurodj Vocal Studio ร่วมกับ ครูโรจน์ หรือ นายรุ่งโรจน์ ดุลลาพันธ์

โดยใช้งบลงทุน 10 ล้านบาทเพื่อพัฒนาคุณภาพนักร้องในสังกัดเป็นอันดับแรก เพราะนอกจากสถาบันจะสอนทักษะ พื้นฐานเรื่องการร้องเพลงแล้ว และแก้ปัญหาเรื่องการร้องเพลง การใช้เสียงของนักร้องให้ดีขึ้น เพื่อทำให้สามารถคงสไตล์การร้องเพลงในแบบฉบับของนักร้องแต่ละคนได้ยาวนานขึ้น แต่ในอนาคตจะขยายรูปแบบแฟรนไชส์ต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าสถาบัน GRVS จะคุ้มทุนภายใน 1 ปี

นอกจากสถาบันจะสอนเรื่องการร้องเพลงแล้ว ยังมีหลักสูตรสอนการเป็นครูสอนร้องเพลงอีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน
บุคลากรด้านนี้ขาดแคลนมาก โดยหลักสูตรพัฒนาครูสอนร้องเพลงมีระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี ค่าใช้จ่ายต่อหลักสูตรประมาณ 6 หมื่นบาท เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เข้าเรียนประมาณ 400-500 คนต่อปี ทั้งนี้ สถาบัน GRVS ใช้หลักสูตร SLS จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งครูโรจน์ ถือเป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยสอนนักร้องอย่างเบิร์ด - ธงไชย แมคอินไตย, ชิน-ชินวุฒิ, ป๊อด-โมเดิร์น ด็อกและไอซ์-ศรัณยู เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น