ปลัด ศธ.เล็งรื้อระบบวัดประเมินผลใหม่ทั้งระบบ เพื่อให้ผลประเมินของเด็กแม่นยำ หลังพบเด็ก ม.3 บางแห่งยังอ่าน เขียน คิดไม่ได้ แนะเอาระบบลงทะเบียนเรียนใหม่แบบมหา’ลัยมาปรับใช้ พร้อมเตรียมเสนอเว้นการคืนอัตราเกษียณเป็นการจัดสรรอัตรากำลังคนทดแทนที่ออกไป เผย เตรียมทำหลักสูตรผู้สูงอายุ ระบุ จะนำเรื่องนี้สรุปเพื่อเสนอ รบ.ใหม่
ที่โรงแรมเอสดีอเวนิว นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานรับฟังความคิดเห็น เรื่อง “ยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) ว่า ในฐานะปลัด ศธ.จะเตรียมเรื่องเร่งด่วน 2-3 ประเด็น เพื่อรอเสนอให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเรื่องสำคัญที่สุด คือ การแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ และคิดเลขไม่ได้ เพราะปัจจุบันพบว่ามีเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางแห่งยังมีปัญหาดังกล่าวนี้ ซึ่งในทัศนคติของคนที่เคยเป็นครูมาก่อนถือว่าเป็นเรื่องอัปยศมาก มองว่าส่วนหนึ่งของปัญหานี้มาจากเรื่องการวัดผลและประเมินผลในภาพรวมน่าจะมีปัญหา
อย่างไรก็ตาม ระเบียบของ ศธ.มีการผ่อนผันให้เด็กที่สอบตกหากมาสอบซ่อมผ่านก็จะได้เกรด 1 โดยอัตโนมัติทั้งที่บางครั้งเด็กยังมีปัญหาอยู่และก็ผ่านการเลื่อนชั้นไปโดยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา ซึ่งแม้แต่การเรียนในศูนย์การเรียนของ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ก็ใช้ระบบเดียวกัน ดังนั้น อาจจะต้องปรับรื้อระบบประเมินและวัดผลใหม่ให้สามารถประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กในแต่ละวิชาได้อย่างแม่นยำ และต้องมีระบบเรียนซ้ำชั้นได้เหมือนระบบการเรียนในมหาวิทยาลัย หากผู้เรียนสอบไม่ผ่านวิชาใดก็จะต้องไปลงทะเบียนใหม่ในปีการศึกษาหน้า ซึ่งตรงนี้อาจจะขอให้ รมว.ศธ.คนใหม่เป็นประธานในเรื่องนี้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาหารือ
นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า ประเด็นรองลงมา คือ เรื่องอัตรากำลังครูที่ขาดแคลน ศธ.จะหารือกับรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ใหม่เสนอให้รัฐบาลยกเว้นการใช้มาตรการจำกัดกำลังคนภาครัฐกับกระทรวงเพื่อเปิดช่องให้ ศธ.ขออัตรากำลังเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ ศธ.ต้องเผชิญกับปัญหาขาดครูต่อเนื่องมาหลายปีที่สำคัญครูประจำการที่มีอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นครูที่สูงอายุใกล้เกษียณอายุราชการ เกิดปัญหาขาดแคลนครูรุ่นใหม่ แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนครูให้ด้วยการคืนอัตราเกษียณอายุราชการมาต่อเนื่อง 3 ปีแล้ว แม้ว่าจะทำให้ ศธ.มีครูสอนแต่ก็ได้อัตราครูเท่าเดิมที่เกษียณไป ไม่สามารถชดเชยอัตราที่ขาดแคลนได้ ซึ่งต่อไปน่าจะมีการคุยกับทุกองค์กรหลักเพื่อหาข้อมูลให้ได้ว่าต้องครูเพิ่มเท่าไรและเสนอรัฐบาล เพื่อขออัตราครูเพิ่มเติมในจำนวนที่ขาดแคลน ส่วนครูที่ประจำการอยู่จะต้องอบรมให้ความรู้
“เรื่องสุดท้าย คือ การจัดการศึกษาตลอดชีวิตโดยปัจจุบันอัตราการเกิดของประชากรลดลง ขณะที่ผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้น ดังนั้น การจัดการศึกษาตลอดชีวิตจึงมีความจำเป็นซึ่งไม่ได้หมายความเพียงแค่การเรียนการสอน กศน.เท่านั้นแต่หมายถึการสอนในระดับอาชีวศึกษา อุดมศึกษา ที่จะต้องคิดว่าจะทำเช่นไรจึงจะพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นซึ่งต้องร่วมมือกับภาคเอกชนและสถานประกอบการ ในการเพิ่มจำนวนผู้จบระดับอาชีวะให้มากขึ้น นอกจากนี้ ต้องจัดการศึกษาสำหรับผู้สูงอายุ เพราะตามกฎหมายกำหนดให้ ศธ.ต้องจัดการศึกษาให้ผู้สูงอายุด้วยโดยต้องศึกษาวิธีการ เรื่องราวที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ศธ.ต้องทำหน้าที่ขยายสถานที่จัดการศึกษา ขณะที่จะต้องมาพิจารณาด้วยว่าโรงเรียนขนาดเล็กแห่งใดบ้างควรจะยุบหรือคงไว้เพื่อพัฒนาให้ได้คุณภาพ” ปลัด ศธ.