ASTVผู้จัดการรายวัน-ปตท.รับสนใจร่วมทุนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 3.6 พันเมกะวัตต์ที่ทวาย สหภาพพม่า แต่รอกฟผ.ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าก่อน แย้มเฟสแรกจะผลิตไฟ 1.4 พันเมกะวัตต์ มองเป็นโอกาสที่ปตท.จะขายถ่านหินจากอินโดนีเซียเข้าโครงการนี้
แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าไปร่วมลงทุนธุรกิจไฟฟ้าถ่านหินขนาดกำลังผลิต 3.6 พันเมกะวัตต์ที่นิคมอุตสาหกรรมทวาย สหภาพพม่า หากโครงการดังกล่าวมีความชัดเจน ซึ่งขณะนี้โครงการดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนการรับซื้อไฟฟ้า (PPA) กับไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หลังจากอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
ในฐานะได้รับสิทธิในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและท่าเทียบเรือที่ทวาย ได้มีการเสนอราคาขายไฟฟ้าไปให้กฟผ.แล้ว รวมทั้งอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรร่วมทุนในโครงการนี้
“อิตาเลียนไทยฯ เขากำลังหาผู้ร่วมทุน ซึ่งเขาคุยหลายราย และเราก็สนใจเพียงแต่โครงการนี้ยังไม่มีความชัดเจนPPA เพราะยังไปไม่ถึงจุดนั้น และรัฐบาลพม่าก็ไม่มีปัญหา ติดอยู่ที่กฟผ.จะซื้อไฟฟ้าหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากโครงการดังกล่าวมีความชัดเจน ปตท.ก็คงมีโอกาสเข้าไปร่วมลงทุนได้”
โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 3.6 พันเมกะวัตต์ที่ทวาย จะแบ่งการลงทุนออกเป็น 3 ระยะ โดยแฟสแรกจะสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 1.4 พันเมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า โดยปตท.ก็มีความสามารถในการขายถ่านหินคุณภาพดีให้กับโครงการดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันปตท.มีเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซียแล้ว 2 เหมือง ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อเหมืองถ่านหินใหม่เพิ่มเติม รวมทั้งพัฒนาเหมืองถ่านหินเดิมให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ทวายจะเน้นขายไฟให้กฟผ.เป็นส่วนใหญ่ เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าของไทยทดแทนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและนิวเคลียร์ที่เลื่อนออกไป รวมทั้งโครงการนี้ยังมีแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติม 6 พันเมกะวัตต์ เพื่อใช้ในโครงการต่างๆที่ทวาย คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1.5 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งข่าวกล่าวว่า ปตท.มีความสนใจซื้อเหมืองถ่านหินเพิ่มเติมในอินโดนีเซีย โดยเน้นเหมืองถ่านหินที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่าเหมืองถ่านหินที่มีการผลิตอยู่แล้ว โดยอยู่ระหว่างการเจรจา 2-3 โครงการ และมีแผนพัฒนาเหมืองถ่านหินที่มาดากัสการ์และบรูไน
ก่อนหน้านี้ ทางอิตาเลียนไทยฯ จัดตั้งบริษัท ทวาย ดีเวล้อปเมนต์ จำกีด เพื่อพัฒนาโครงการทาเรือน้ำลึกและนิคมฯที่ทวาย บนพื้นที่2 แสนไร่ ภายใต้สัญญาเช่าที่ดิน 75 ปี โดยมีแผนพัฒนาโครงการโรงเหล็กรีดร้อน โรงงานผลิตปุ๋ย โรงกลั่นน้ำมัน และปิโตรเคมี รวมไปถึงโรงไฟฟ้าถ่านหิน 3,600 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาอัตราค่าไฟฟ้าและเงื่อนไขต่างๆ โดยจะเชิญชวนบริษัทต่างๆเข้ามาร่วมทุนต่อไป ซึ่งมีหลายบริษัทให้ความสนใจ เช่น บริษัท ปตท. อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน)หรือเอ็กโก บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือน้ำลึกและนิคมฯ ทวายนี้ อยู่ในกรอบความร่วมมือของอาเซียน และยังเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาการลงทุนจากไทยที่จะสามารถสร้างศักยภาพในการแข่งขันในอนาคต โดยงบประมาณที่รัฐสนับสนุน
แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าไปร่วมลงทุนธุรกิจไฟฟ้าถ่านหินขนาดกำลังผลิต 3.6 พันเมกะวัตต์ที่นิคมอุตสาหกรรมทวาย สหภาพพม่า หากโครงการดังกล่าวมีความชัดเจน ซึ่งขณะนี้โครงการดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนการรับซื้อไฟฟ้า (PPA) กับไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หลังจากอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
ในฐานะได้รับสิทธิในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและท่าเทียบเรือที่ทวาย ได้มีการเสนอราคาขายไฟฟ้าไปให้กฟผ.แล้ว รวมทั้งอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรร่วมทุนในโครงการนี้
“อิตาเลียนไทยฯ เขากำลังหาผู้ร่วมทุน ซึ่งเขาคุยหลายราย และเราก็สนใจเพียงแต่โครงการนี้ยังไม่มีความชัดเจนPPA เพราะยังไปไม่ถึงจุดนั้น และรัฐบาลพม่าก็ไม่มีปัญหา ติดอยู่ที่กฟผ.จะซื้อไฟฟ้าหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากโครงการดังกล่าวมีความชัดเจน ปตท.ก็คงมีโอกาสเข้าไปร่วมลงทุนได้”
โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 3.6 พันเมกะวัตต์ที่ทวาย จะแบ่งการลงทุนออกเป็น 3 ระยะ โดยแฟสแรกจะสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 1.4 พันเมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า โดยปตท.ก็มีความสามารถในการขายถ่านหินคุณภาพดีให้กับโครงการดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันปตท.มีเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซียแล้ว 2 เหมือง ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อเหมืองถ่านหินใหม่เพิ่มเติม รวมทั้งพัฒนาเหมืองถ่านหินเดิมให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ทวายจะเน้นขายไฟให้กฟผ.เป็นส่วนใหญ่ เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าของไทยทดแทนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและนิวเคลียร์ที่เลื่อนออกไป รวมทั้งโครงการนี้ยังมีแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติม 6 พันเมกะวัตต์ เพื่อใช้ในโครงการต่างๆที่ทวาย คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1.5 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งข่าวกล่าวว่า ปตท.มีความสนใจซื้อเหมืองถ่านหินเพิ่มเติมในอินโดนีเซีย โดยเน้นเหมืองถ่านหินที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่าเหมืองถ่านหินที่มีการผลิตอยู่แล้ว โดยอยู่ระหว่างการเจรจา 2-3 โครงการ และมีแผนพัฒนาเหมืองถ่านหินที่มาดากัสการ์และบรูไน
ก่อนหน้านี้ ทางอิตาเลียนไทยฯ จัดตั้งบริษัท ทวาย ดีเวล้อปเมนต์ จำกีด เพื่อพัฒนาโครงการทาเรือน้ำลึกและนิคมฯที่ทวาย บนพื้นที่2 แสนไร่ ภายใต้สัญญาเช่าที่ดิน 75 ปี โดยมีแผนพัฒนาโครงการโรงเหล็กรีดร้อน โรงงานผลิตปุ๋ย โรงกลั่นน้ำมัน และปิโตรเคมี รวมไปถึงโรงไฟฟ้าถ่านหิน 3,600 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาอัตราค่าไฟฟ้าและเงื่อนไขต่างๆ โดยจะเชิญชวนบริษัทต่างๆเข้ามาร่วมทุนต่อไป ซึ่งมีหลายบริษัทให้ความสนใจ เช่น บริษัท ปตท. อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน)หรือเอ็กโก บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือน้ำลึกและนิคมฯ ทวายนี้ อยู่ในกรอบความร่วมมือของอาเซียน และยังเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาการลงทุนจากไทยที่จะสามารถสร้างศักยภาพในการแข่งขันในอนาคต โดยงบประมาณที่รัฐสนับสนุน
