xs
xsm
sm
md
lg

ปูสั่งฟัน ขรก.ทิ้งน้ำท่วม ทัวร์บาหลี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูมิภาค - นายกฯ ปูสั่งสอบ ขรก.พิจิตรทัวร์นอก หลังชาวบ้านร้องเมินความเดือดร้อนประชาชน รับห่วงน้ำก้อนใหญ่มา 19 กันยาฯนี้ หลายพื้นที่ทั่วไทยน้ำยังท่วมอยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่ชาวน้ำปาด เมืองลับแลทุกข์หนักขาดแคลนเสบียงอาหาร ขณะที่ "มาร์ค" ไปสิงห์บุรี หลวงพ่อจรัญทักจะกลับมาเป็น นายกฯรอบ 2

วานนี้ (16 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมที่นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตร ในฐานะภริยาผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นำคณะหัวหน้าส่วนราชการไปท่องเที่ยวที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงที่ประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.พิจิตร กำลังมีภัยพิบัติน้ำท่วม ถึงแม้จะใช้เงินส่วนตัวไปท่องเที่ยวก็ตามว่า รับตรงนี้ไปตรวจสอบ ซึ่งตั้งแต่ตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยังไม่เคยอนุมัติให้ข้าราชการคนใดไปประเทศเลย อันนี้น่าจะเป็นของเก่า ก็ต้องเห็นใจข้าราชการที่ได้รับอนุมัติไปแล้ว ในส่วนของเก่าที่มีการวางแผนและนัดหมายกับต่างประเทศแล้ว บางครั้งอาจจะยกเลิกไม่ได้ แต่เราได้มีการขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนแล้ว อะไรที่ไม่มีความจำเป็นก็ขอให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่

อย่างไรก็ตาม ตนจะขอรับไปตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เท่าที่ในส่วนของตนไม่เคยอนุมัติให้ใครเดินทาง ถ้าจะเดินทางไปต่างประเทศก็เฉพาะที่จำเป็นของประเทศเท่านั้นจริงๆ เพราะอย่างไรก็ต้องให้ความสำคัญกับน้ำท่วมอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าได้เตรียมความพร้อมในการรับน้ำก้อนใหญ่ที่จะมาวันที่ 19ก.ย.นี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นปัญหาที่เราเป็นห่วงอยู่ ก็อย่างที่เราได้มีการแจ้งไว้แล้วว่า เราเองจะไปดูในเรื่องของระดับน้ำทะเลล้น และเราเองจะใช้วิธีการนำเรือมาต่อกับคอสะพานเพื่อเร่งกระแสน้ำ คงจะทำก่อนเท่าที่ทำได้ ซึ่งได้กำชับข้าราชการทุกจังหวัดแล้วในการประสานงานที่จะทำแนวดินกั้นขึ้นไป และวันเสาร์-อาทิตย์นี้จะลงพื้นที่ตรวจพื้นที่ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ละพื้นที่จังหวัดได้มีกันน้ำไว้ไม่ให้เข้าพื้นที่นาเพื่อรอเกี่ยวข้าว แต่ก็บางทีแนวเขตก็รองรับน้ำไว้ไม่ไหว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มี แต่บางพื้นที่เองเขาเองก็ต้องพยายามประสานกับประชาชนในพื้นที่ เพราะบางพื้นที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งอีกไม่กี่วันจะเกี่ยวข้าวแล้วและรัฐบาลเองก็พร้อมที่ชดเชยอยู่แล้ว ตรงนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะลงไปทำในรายละเอียด และรัฐบาลก็ขอกำลังไปยังกระทรวงกลาโหม ในส่วนของกำลังทหาร ช่างทหาร และทหารพัฒนาในการประสานแล้ว ซึ่งตรงนี้ทหารจะลงพื้นที่ทุกจังหวัดในการทำแนวเขื่อนกันน้ำ เมื่อถามว่า กองทัพถือว่าทำงานเต็มที่แล้วหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า วันนี้กองทัพเข้ามาทำเต็มที่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าเบื้องต้นได้มีการรายงานแล้วหรือยังว่าพบมีกี่จังหวัดที่เข้าขั้นวิกฤตแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็มีหลายจังหวัด วันนี้กรมชลประทานก็ทำงาน ต้องขอความกรุณาประชาชนรัฐบาลเองก็ทำงานเต็มที่ทุกหน่วยงานทำงานเต็มที่จริงๆ แต่วันนี้เราเจอพายุเข้าซ้ำซาก 2-3 ครั้ง ทำให้เราไม่มีพื้นที่ระบายน้ำ ถ้าเมื่อก่อนเวลามีพายุไม่ติดต่อกันสามารถระบายน้ำไปได้ ภูมิศาสตร์ของประเทศเรายังไม่ได้ดำเนินการในเรื่องน้ำท่วมในระยะยาวก็เลยเป็นปัญหาที่เราเองไม่ว่า จะระบายทางไหนก็มีผลกระทบทั้งนั้น นี้ก็จะพยายามเร่งแก้ไขปัญหานี้ และให้ทุกหน่วยงานทำหน้าที่อย่างเต็มที่

**เตรียมรับมือน้ำท่วมลามกรุง

ด้าน พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส.กล่าวถึงการช่วยเหลือผุ้ประสบภัยน้ำท่วมว่า กองทัพเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการสนับสนุน อุปกรณ์ในการช่วยเหลือ ขณะนี้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของกองทัพไทย นำหน่วยงานต่างๆ มาร่วมงานกันอย่างเต็มที่ โดยตนได้ให้แนวทาง คือ กรมแผนที่ทหาร กรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ มาร่วมกันคิดถึงแนวทางปริมาณน้ำไหล รวมถึงในอนาคตจะเกิดผลกระทบอย่างไร

ในขณะเดียวกันก็โยกย้ายทรัพยากรในแต่ละเหล่าทัพเข้าไปช่วยประชาชนในพื้นที่ที่มีความรุนแรง หรือถ้าน้ำลงมาถึง กทม.หรือภาคใต้ตอนล่างก็จะมีการปรับกำลังลงไป ในส่วนของกำลังพลถึงแม้จะทำงานหนักแต่ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย ทุกคนฟันฝ่าในการช่วยเหลือประชาชน

**"ลพ.จรัญ" ทักมาร์คนั่งนายกฯรอบ2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สิงห์บุรีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้านมัสการพระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) ที่วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พร้อมกับสนทนาสถานการณ์น้ำท่วม โดยระหว่างการสนทนา เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน ได้ฝากให้นายอภิสิทธิ์ ช่วยติดตามเรื่องการก่อสร้างโรงพยาบาลที่ได้รับการอนุมัติงบจากรัฐบาลที่ผ่านมา 200 กว่าล้านบาท โดยขอร้องว่าอย่าให้มีการยกเลิกและไม่ควรมีการย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาล โดยนายอภิสิทธ์ รับปากติดตามงบประมาณให้ ส่วนการโยกย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลเป็นอำนาจของรัฐบาล

หลังการสนทนา หลวงพ่อจรัญ กล่าวกับนายอภิสิทธิ์ และกลุ่มสื่อมวลชนที่เข้านมัสการว่า เคยได้อ่านคำทนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ รู้ใช่ไหมว่าที่ท่านได้เคยทำนายว่า ถ้าประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย จึงขอให้นายอภิสิทธิ์ รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี เพราะจะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหนึ่งแน่นอน ให้ดูแลทุกข์สุขชาวบ้านไว้

**น้ำทะลักสันตาเพียต้องหนีขึ้นเขา

ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดยังอยู่ในขั้นวิกฤต เช่นที่ จ.เพชรบุรี หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องบนเขาสันตาเพีย ซึ่งอยู่ในเทือกเขาเดียวกับเทือกเพชรบูรณ์ ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากลงจากเขาพร้อมพัดเอาดินโคลนรวมทั้งต้นไม้ลงมาถล่มใส่หมู่บ้านสันตาเพีย หมู่ 12 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ในขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกว่า 200 คน ซึ่งทราบการแจ้งเตือนภัยก่อน 1 ชั่วโมงต่างพากันอพยพขึ้นไปอยู่บนที่สูง ส่วนทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นบ้านพักหรือสัตว์เลี้ยงรวมทั้งพืชสวนทางการเกษตร ต่างได้รับความเสียหาย

**ชาวน้ำปาดขาดแคลนอาหาร

ที่ศูนย์ประสานการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินโคลนถล่ม วัดห้วยคอม หมู่ 4 ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ชาวบ้านจากบ้านห้วยเนียม หมู่ 5 และบ้านเพีย หมู่ 6 ต.น้ำไผ่ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยดินโคลนถล่มต้องใช้รถอีต๊อกซึ่งเป็นรถที่ชาวบ้านประดิษฐ์เองเพื่อใช้ในการเกษตรนำมารับและขนส่งสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคไปรับประทาน เนื่องจากสะพานและถนนที่เชื่อมระหว่างบ้านห้วยคอม หมู่ 4 กับบ้านห้วยเนียม หมู่ 5 และบ้านเพีย หมู่ 6 ถูกตัดขาด ขณะเดียวกันผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์แล้วสะพานแบรีย์ที่หน่วยงานสร้างก็ยังไม่เสร็จการช่วยเหลือยังไปไม่ถึง

นางละมัย สอนปิน อายุ 48 บ้านเลขที่ 47 บ้านเพีย หมู่ 6 กล่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนหนักเพราะเสบียงที่เตรียมไว้ก่อนเกิดเหตุหมดลงแล้ว ผู้ใหญ่ยังพอทนแต่ที่น่าสงสารคือเด็กเล็กที่เพิ่งเกิดและหย่านมแม่แล้วแต่ยังต้องดื่มนมไม่มีนมดื่มแล้ว ตามร้านค้าในหมู่บ้านก็หมดตั้งใจจะมาขอรับการช่วยเหลือจากศูนย์ฯห้วยคอมก็ไม่มีจึงต้องออกไปซื้อที่ตัวตลาด อ.น้ำปาด แต่ก็ไม่สามารถเดินทางไปได้เนื่องจากถนนยังขาดอยู่หลายจุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ได้นำเต้นท์จากศูนย์ ปภ.เขต 9 จ.พิษณุโลก 30 หลังมาตั้งเป็นที่พักชั่วคราวให้กับประชาชนที่บ้านเรือนเสียหายบ้านห้วยคอมหมู่ 4 ได้พักอาศัยอยู่ที่บริเวณวัดห้วยคอม อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ได้ทำการเชื่อมต่อสะพานแบรีย์เรียบร้อยหลังจากการสำรวจพบว่าที่บ้านห้วยเนียม มีบ้านพังเสียหายบางส่วน 20 หลังและเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง หน่วยงานทางราชการยังไม่ช่วยเหลือแต่อย่างใด.
กำลังโหลดความคิดเห็น