xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ กสทช.เจองานหินเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภารกิจสำคัญของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในอนาคตว่า ปัญหาทั้งเรื่องกิจการโทรคมนาคม และกิจการวิทยุการจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ได้สะสมมาตลอด10 ปี ที่ไม่สามารถมี กสทช. กำกับดูแล จากความพยายามล้มและต่อต้านมาตั้งแต่กระบวนการร่างกฎหมาย ดังนั้น ภาระของ กสทช.ชุดนี้จึงหนักหนาพอสมควร โดยมี 3 เรื่องใหญ่ที่ กสทช. ต้องเข้ามาดูแลทันที คือ
1. การบริหารจัดการคลื่นความถี่ ซึ่งประกอบด้วย การบริหารวิทยุกระจายเสียงที่มีอยู่แล้ว อาทิ วิทยุของหน่วยงานรัฐ ซึ่งกฎหมาย กสทช. เขียนไว้ให้มีการจัดทำแผนบริหการคลื่นความถี่ของแต่ละหน่วยงาน โดยวิทยุที่หน่วยงานรัฐเป็นเจ้าของ ให้สัมปทานเอกชนในการผลิตรายการ โดยเฉพาะคลื่นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เจ้าของคลื่นต้องนำกลับมาทำเองทั้งหมด 2. การบริหารจัดการวิทยุชุมชน ที่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เครือข่ายวิทยุชุมชนได้เติบโต้ขึ้นมาก แม้จะเคยตั้งอนุกรรมการมากำกับดูแล แต่ก็เข้าไปทำไม่ได้ เพราะวิทยุชุมชนได้รวมตัวกันหนาแน่น ดังนั้น กสทช. ต้องเข้าไปจัดการทั้งหมด เพราะมีวิทยุชุมชนจำนวนมาก ที่ดำเนินการในทางพาณิชย์ ผิดวัตถุประสงค์นอกเหนือเจตนารมย์ของวิทยุเพื่อชุมชน
3. สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ซึ่งคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)เดิมได้ออกระเบียบไว้ แต่ไม่ได้ผลในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะทีวีของรัฐ เช่น ช่อง 9 และช่อง 3 ที่มีการเข้าไปรับสัมปทานผลิตรายการ ที่สำคัญตามกฎหมาย กสทช. ต้องเข้าไปควบคุมเนื้อหารายการ ไม่ให้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล องค์กร หรือผู้บริโภค
นอกจากนี้งานด้านกิจการโทรคมนาคม ก็มีความสำคัญ ซึ่งนอกจากจะต้องผลักดันเรื่องระบบ 3 จีแล้ว ยังต้องมองไปไกลกว่านั้นเรื่องระบบ 4 จี ด้วย เพราะประเทศอื่นกำลังจะไปถึง 4.5 จีแล้ว โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว และกัมพูชา ก็เดินหน้าไปไกลแล้ว รวมทั้งงานคุ้มครองผู้บริโภคจากกิจการโทรคมนาคม ซึ่งกสทช. จะต้องวางกฎระเบียบที่สำคัญในเรื่องนี้
สำหรับการเข้าไปจัดระเบียบปัญหาที่ค้างมากว่า10 ปี ของกสทช. กฎหมายได้เขียนอำนาจหน้าที่ และให้กลไกการทำงานกับ กสทช.ไว้ทั้งหมดแล้ว แต่เป็นห่วงเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย กสทช. ชุดใหม่นี้ต้องไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตัว เพราะจากที่มีความพยายามกดดัน กสทช. มาโดยตลอดตั้งแต่กระบวนการกฎหมายไปจนถึงการสรรหา กสทช. หากกสทช.ไม่บังคับใช้กฎหมายตรงไปตรงมา เขียนอำนาจหน้าที่ไว้ ก็ไร้ประโยชน์ กสทช. เป็นองค์กรอิสระตามเจตนารมย์รัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจมาจัดการปัญหาเหล่านี้โดยเฉพาะ ที่มีการดึงอำนาจบางส่วนของกรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงไอซีที และสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องมาให้ กสทช. ดำเนินการ
ทั้งนี้ แม้กฎหมายจะระบุกลไกในการปกป้องการทำงานที่เป็นอิสระของกสทช. เพื่อไม่ให้ฝ่ายบริหารเข้ามาแทรกแซง แต่ก็มีกลไกตรวจสอบการทำงานของกสทช.ได้เช่นกัน เพราะกฎหมายเขียนให้ยึดโยงกับกระบวนการตรวจสอบของรัฐสภา ในเรื่องการยื่นถอดถอน และกลไกตรวจสอบของ ป.ป.ช.
กำลังโหลดความคิดเห็น