"สนธิ" วิเคราะห์การเมือง เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน ค้านตั้งกองทุนมั่งคั่งฯ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ชี้วิกฤติการเงินสหรัฐฯมีอาฟเตอร์ช็อคสถาบันการเงินจะล่มสลายอีก ขณะที่ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 2,000-2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีหน้า
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "คนเคาะข่าว" ทางเอเอสทีวี ว่า ขณะนี้ตนมองว่าประเทศไทย อยู่ในภาวะที่อันตรายและน่ากลัวมาก สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาหรือไม่กลับมา ตอนนี้จะกลับมาหรือไม่กลับมาไม่มีความหมาย เพราะระบบการเมืองปัจจุบัน ต้องเจ๊งแน่นอน เพราะประเทศไทยรองรับไม่ได้กับโลกในวันนี้ อะไรบ้างที่ต้องเปลี่ยนแปลง วันนี้ การเมืองเราก้าวไม่ทันโลก การเมืองในโลกตะวันตกก็ยังไม่กล้าเปลี่ยนแปลง
ผลพวงจากวิกฤติการเงินโลกยังมีอาฟเตอร์ช็อคตามมา วันนี้พันธบัตรของกรีซ มีมูลค่าสู้พันธบัตรปากีสถาน หรืออัฟกานิสถานไม่ได้ กรีซเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปหรืออียู วันนี้ล่มสลายแล้ว เป็นตัวอย่างสะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลพวงมาจาก การปลดแอกเงื่อนไขทางการเงิน หรือ ดีเรคกูเลชั่น จากการที่ธนาคารทำธุรกิจได้มากกว่าเดิมที่รับเงินฝากปล่อยเงินกู้ โดยธนาคารในสหรัฐฯสามารถปล่อยเงินกู้เล่นหุ้น เล่นอนุพันธ์ ปล่อยกู้ซื้อรถ เป็นการเพิ่มพูนผลผลิตทางการเงิน ซึ่งไม่เหมือนการเพิ่มพูนผลผลิตทางการเกษตร หรืออุตสาหกรรม ถ้าเป็นอุตสาหกรรมเพิ่มผลผลิตโดยเพิ่มสายพาน เพิ่มบุคคลากร เป็นภาคการผลิตจริง ส่วนการเกษตรก็เพิ่มผลผลิตโดยทำแปลงเพาะปลูกเพิ่มเติมขึ้น แต่การเพิ่มผลผลิตทางการเงินเป็นการเพิ่มด้วยการกดปุ่ม กดปุ่มแลกเปลี่ยนเงินตรา กดปุ่มสั่งซื้อขายหุ้น อนุพันธ์ แล้วก็กินส่วนต่าง การขยันกดปุ่ม การสร้างนวัตกรรมทางการเงิน ไม่มีอะไรจับต้องได้ เป็นการไปกินแรงผลผลิตภาคเกษตร อุตสาหกรรม สมมติโรงงานอุตสาหกรรมเข้าตลาดหลักทรัพย์ ก็กลายเป็นเหยื่อของคนเล่นหุ้น เกิดความโลภ สรุปได้สั้นๆ ทุนนิยมมีความสามานย์ในตัวเอง เพราะตั้งอยู่บนความโลภ
ที่ผ่านมาธนาคารในสหรัฐฯล่มสลาย รัฐบาลก็เข้าไปอุ้ม ไม่กล้าสั่งปิด แต่เอาเงินใส่เข้าไป หวังว่าธนาคารจะเอาเงินไปช่วยแก้ไขหนี้ซัพไพรม แต่ธนาคารกลับเอาไปปล่อยกู้ให้นักลงทุน มีการส่งเงินออกไปประเทศต่างๆ เพื่อเล่นหุ้น เพราะมีต้นทุนถูก เช่นเอาเงินมาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
นายสนธิกล่าวว่า ตอนนี้ ทำไมทองคำราคาขึ้นมาตลอด เพราะคนไม่เชื่อมั่นในดอลลาร์ ดอลลาร์ตอนนี้ไม่ต่างจากแบงก์กงเต็ก แต่ก็ยังมีคนไว้ใจดอลลาร์อยู่ จีนเป็นเจ้าหนี้สหรัฐฯ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แต่มูลค่าดอลลาร์ที่ลดลงตอนนี้หายไป 30% จีนต้องการขยายเอาเงินดอลลาร์ออกไปลงทุนต่างประเทศ ขณะนี้ทองคำอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตนทำนายว่าภายในปีหน้าต้องเกิน 2,000-2,500 และมีโอกาสถึง 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตอนนี้หลายๆประเทศเริ่มหันมาซื้อทอง จีนก็เริ่มมาซื้อทอง อินเดียเริ่มซื้อ ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท. ก็เริ่มสั่งซื้อทองแล้ว มาเลเซียซื้อทอง ในสายตาชาวเอเซียถือว่าทองคำมีมูลค่าสูงมาก คนเก็บสะสมทองคำมาเป็นพันๆปีแล้ว เพราะทองคำมีมูลค่าในตัวเอง
ขณะนี้สหรัฐฯมีโอกาสชักดาบหนี้สูง สหรัฐฯเป็นหนี้จากพันธบัตร 14 ล้านล้านดอลลาร์ โดยกำลังออกมาตรการภายใน 10 ปีข้างหน้าจะลดยอดหนี้ลงให้เหลือ 4 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ลืมคิดไปว่านอกจากหนี้พันธบัตรแล้วยังมีหนี้ต่อประชาชนชาวสหรัฐฯ เช่น สวัสดิการสังคม บำเน็จบำนาญต่างๆ สรุปรวมหนี้ในอนาคตของสหรัฐฯ 5-10 ปี รวมแล้วประมาณ 140 ล้านล้านดอลลาร์ วันนี้มูลค่าดอลลาร์หายไป 30% ในอนาคตสินค้าของสหรัฐฯจะราคาถูกลง
คนสหรัฐฯ ตกงานมากสุดอายุ 22-32 ปี ตกงาน 20% อัตราการว่างงานทั้งประเทศ 9% ถ้าสหรัฐฯจะเลือกเอางานกลับมาในประเทศเพื่อเอาใจคนตกงาน ธุรกิจที่ไปลงทุนในต่างชาติให้กลับมาที่สหรัฐฯช่วยลดการว่างงาน จะเริ่มมีการปกป้องการค้า เริ่มตั้งกำแพง เริ่มเอาตัวรอด ตอนนี้โลกมีทิศทางไปทางนี้อยู่แล้ว ทางด้านการเมืองโลกขณะนี้ก็มีความไม่แน่นอน ทั้งในตะวันออกกลาง ในทะเลจีนตอนใต้ความขัดแย้งต่างๆยังไม่จบ
เรื่องภัยธรรมชาติน้ำท่วมประเทศไทย ทุกปีน้ำต้องท่วมเมืองไทยแบบนี้ เมื่อห้าปีที่แล้วไม่มี เดี๋ยวนี้ พอหน้าน้ำน้ำก็ท่วม เรื่องแผ่นดินไหว สึนามิ ที่ญี่ปุ่นตอนนี้ยังฟื้นฟูอะไรไม่ได้ พายุเฮอริเคนที่สหรัฐฯ มีภัยพิบัติเกิดขึ้นทั่วโลก
นายสนธิกล่าวว่า ตนทำนายว่าไม่เกินสิ้นปีนี้ ธนาคารใหญ่ๆในสหรัฐฯจะล่มสลายลงอีก จากการที่อัดฉีดเงินเข้าไปแต่ไม่ยอมรับการขาดทุน กลับเอาไปทำกำไรต่อ ตอนนี้กติกาใหม่ของโลก ในแต่ละจุดพร้อมระเบิดตลอดเวลา จากภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป สังคม การเงิน การเมืองในโลกที่พร้อมรบกันได้ทุกเมื่อ ภัยพิบัติต่างๆ การรู้จักพอเพียงเป็นคำตอบดีที่สุด เราไม่ควรตั้งกองทุนมั่งคั่ง เพราะมีความไม่มั่นคงไม่แน่นอนของโลก จะเอาไปลงทุนที่ไหน ไปซื้อไปร่วมทุนคนที่ไปซื้อก็ได้แค่ค่าคอมมิชชั่นกลับมา ตอนนี้ควรเพิ่มความมั่งคั่งให้กองทุน โดยการลดค่าใช้จ่าย ไม่ใช่จับจ่ายใช้สอยเพื่อหาเสียงแบบนี้ ตอนนี้ทำกันหมด ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้คิดเพื่อส่วนรวม คิดแต่อยากได้คะแนนเสียงมากขึ้น
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "คนเคาะข่าว" ทางเอเอสทีวี ว่า ขณะนี้ตนมองว่าประเทศไทย อยู่ในภาวะที่อันตรายและน่ากลัวมาก สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาหรือไม่กลับมา ตอนนี้จะกลับมาหรือไม่กลับมาไม่มีความหมาย เพราะระบบการเมืองปัจจุบัน ต้องเจ๊งแน่นอน เพราะประเทศไทยรองรับไม่ได้กับโลกในวันนี้ อะไรบ้างที่ต้องเปลี่ยนแปลง วันนี้ การเมืองเราก้าวไม่ทันโลก การเมืองในโลกตะวันตกก็ยังไม่กล้าเปลี่ยนแปลง
ผลพวงจากวิกฤติการเงินโลกยังมีอาฟเตอร์ช็อคตามมา วันนี้พันธบัตรของกรีซ มีมูลค่าสู้พันธบัตรปากีสถาน หรืออัฟกานิสถานไม่ได้ กรีซเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปหรืออียู วันนี้ล่มสลายแล้ว เป็นตัวอย่างสะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลพวงมาจาก การปลดแอกเงื่อนไขทางการเงิน หรือ ดีเรคกูเลชั่น จากการที่ธนาคารทำธุรกิจได้มากกว่าเดิมที่รับเงินฝากปล่อยเงินกู้ โดยธนาคารในสหรัฐฯสามารถปล่อยเงินกู้เล่นหุ้น เล่นอนุพันธ์ ปล่อยกู้ซื้อรถ เป็นการเพิ่มพูนผลผลิตทางการเงิน ซึ่งไม่เหมือนการเพิ่มพูนผลผลิตทางการเกษตร หรืออุตสาหกรรม ถ้าเป็นอุตสาหกรรมเพิ่มผลผลิตโดยเพิ่มสายพาน เพิ่มบุคคลากร เป็นภาคการผลิตจริง ส่วนการเกษตรก็เพิ่มผลผลิตโดยทำแปลงเพาะปลูกเพิ่มเติมขึ้น แต่การเพิ่มผลผลิตทางการเงินเป็นการเพิ่มด้วยการกดปุ่ม กดปุ่มแลกเปลี่ยนเงินตรา กดปุ่มสั่งซื้อขายหุ้น อนุพันธ์ แล้วก็กินส่วนต่าง การขยันกดปุ่ม การสร้างนวัตกรรมทางการเงิน ไม่มีอะไรจับต้องได้ เป็นการไปกินแรงผลผลิตภาคเกษตร อุตสาหกรรม สมมติโรงงานอุตสาหกรรมเข้าตลาดหลักทรัพย์ ก็กลายเป็นเหยื่อของคนเล่นหุ้น เกิดความโลภ สรุปได้สั้นๆ ทุนนิยมมีความสามานย์ในตัวเอง เพราะตั้งอยู่บนความโลภ
ที่ผ่านมาธนาคารในสหรัฐฯล่มสลาย รัฐบาลก็เข้าไปอุ้ม ไม่กล้าสั่งปิด แต่เอาเงินใส่เข้าไป หวังว่าธนาคารจะเอาเงินไปช่วยแก้ไขหนี้ซัพไพรม แต่ธนาคารกลับเอาไปปล่อยกู้ให้นักลงทุน มีการส่งเงินออกไปประเทศต่างๆ เพื่อเล่นหุ้น เพราะมีต้นทุนถูก เช่นเอาเงินมาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
นายสนธิกล่าวว่า ตอนนี้ ทำไมทองคำราคาขึ้นมาตลอด เพราะคนไม่เชื่อมั่นในดอลลาร์ ดอลลาร์ตอนนี้ไม่ต่างจากแบงก์กงเต็ก แต่ก็ยังมีคนไว้ใจดอลลาร์อยู่ จีนเป็นเจ้าหนี้สหรัฐฯ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แต่มูลค่าดอลลาร์ที่ลดลงตอนนี้หายไป 30% จีนต้องการขยายเอาเงินดอลลาร์ออกไปลงทุนต่างประเทศ ขณะนี้ทองคำอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตนทำนายว่าภายในปีหน้าต้องเกิน 2,000-2,500 และมีโอกาสถึง 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตอนนี้หลายๆประเทศเริ่มหันมาซื้อทอง จีนก็เริ่มมาซื้อทอง อินเดียเริ่มซื้อ ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท. ก็เริ่มสั่งซื้อทองแล้ว มาเลเซียซื้อทอง ในสายตาชาวเอเซียถือว่าทองคำมีมูลค่าสูงมาก คนเก็บสะสมทองคำมาเป็นพันๆปีแล้ว เพราะทองคำมีมูลค่าในตัวเอง
ขณะนี้สหรัฐฯมีโอกาสชักดาบหนี้สูง สหรัฐฯเป็นหนี้จากพันธบัตร 14 ล้านล้านดอลลาร์ โดยกำลังออกมาตรการภายใน 10 ปีข้างหน้าจะลดยอดหนี้ลงให้เหลือ 4 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ลืมคิดไปว่านอกจากหนี้พันธบัตรแล้วยังมีหนี้ต่อประชาชนชาวสหรัฐฯ เช่น สวัสดิการสังคม บำเน็จบำนาญต่างๆ สรุปรวมหนี้ในอนาคตของสหรัฐฯ 5-10 ปี รวมแล้วประมาณ 140 ล้านล้านดอลลาร์ วันนี้มูลค่าดอลลาร์หายไป 30% ในอนาคตสินค้าของสหรัฐฯจะราคาถูกลง
คนสหรัฐฯ ตกงานมากสุดอายุ 22-32 ปี ตกงาน 20% อัตราการว่างงานทั้งประเทศ 9% ถ้าสหรัฐฯจะเลือกเอางานกลับมาในประเทศเพื่อเอาใจคนตกงาน ธุรกิจที่ไปลงทุนในต่างชาติให้กลับมาที่สหรัฐฯช่วยลดการว่างงาน จะเริ่มมีการปกป้องการค้า เริ่มตั้งกำแพง เริ่มเอาตัวรอด ตอนนี้โลกมีทิศทางไปทางนี้อยู่แล้ว ทางด้านการเมืองโลกขณะนี้ก็มีความไม่แน่นอน ทั้งในตะวันออกกลาง ในทะเลจีนตอนใต้ความขัดแย้งต่างๆยังไม่จบ
เรื่องภัยธรรมชาติน้ำท่วมประเทศไทย ทุกปีน้ำต้องท่วมเมืองไทยแบบนี้ เมื่อห้าปีที่แล้วไม่มี เดี๋ยวนี้ พอหน้าน้ำน้ำก็ท่วม เรื่องแผ่นดินไหว สึนามิ ที่ญี่ปุ่นตอนนี้ยังฟื้นฟูอะไรไม่ได้ พายุเฮอริเคนที่สหรัฐฯ มีภัยพิบัติเกิดขึ้นทั่วโลก
นายสนธิกล่าวว่า ตนทำนายว่าไม่เกินสิ้นปีนี้ ธนาคารใหญ่ๆในสหรัฐฯจะล่มสลายลงอีก จากการที่อัดฉีดเงินเข้าไปแต่ไม่ยอมรับการขาดทุน กลับเอาไปทำกำไรต่อ ตอนนี้กติกาใหม่ของโลก ในแต่ละจุดพร้อมระเบิดตลอดเวลา จากภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป สังคม การเงิน การเมืองในโลกที่พร้อมรบกันได้ทุกเมื่อ ภัยพิบัติต่างๆ การรู้จักพอเพียงเป็นคำตอบดีที่สุด เราไม่ควรตั้งกองทุนมั่งคั่ง เพราะมีความไม่มั่นคงไม่แน่นอนของโลก จะเอาไปลงทุนที่ไหน ไปซื้อไปร่วมทุนคนที่ไปซื้อก็ได้แค่ค่าคอมมิชชั่นกลับมา ตอนนี้ควรเพิ่มความมั่งคั่งให้กองทุน โดยการลดค่าใช้จ่าย ไม่ใช่จับจ่ายใช้สอยเพื่อหาเสียงแบบนี้ ตอนนี้ทำกันหมด ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้คิดเพื่อส่วนรวม คิดแต่อยากได้คะแนนเสียงมากขึ้น
