xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ชี้การเมืองไทยไม่ทันโลกทำประเทศเจ๊งแน่ - ฟันธงทองพุ่งต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” ระบุเศรษฐกิจ การเงิน การค้า ภัยธรรมชาติ ภัยทางการเมือง สงคราม คือกติกาใหม่ของโลกที่พร้อมระเบิดตลอดเวลา ฟันธงราคาทองคำพุ่งต่อ ปีหน้ามีโอกาสแตะออนซ์ละ 3,000 เหรียญสหรัฐ ซัด กกต.ไร้ประสิทธิภาพ ต้นตอระบบการเมืองเสื่อม อัด พท.-ปชป.สันดานเหมือนกันมุ่งเล่นการเมืองหาเงินเข้ากระเป๋า แนะรบ.หยุดแนวคิดกองทุนมั่งคั่ง ส่งเสริมให้คนรู้จักพอเพียง

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “นายสนธิ ลิ้มทองกุล” ให้สัมภาษณ์  

วันที่ 14 ก.ย. เมื่อเวลา 20.30 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ร่วมพูดคุยวิเคราะห์สถานการณ์โลก เชื่อมโยงกับสถานการณ์ในประเทศ ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

โดยนายสนธิกล่าวว่า ประเทศไทยขณะนี้อันตรายและน่ากลัวมาก ไม่ใช่เพราะว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะกลับมา สำหรับตนแล้วกลับหรือไม่กลับไม่มีความหมาย เพราะว่าในระบบการเมืองปัจจุบัน กลับไม่กลับประเทศไทยเจ๊งแน่นอน มันรองรับไม่ได้กับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในโลกนี้ วันนี้เรามีระบบการเมืองที่ก้าวไม่ทันโลก โลกวันนี้อยู่ในสภาวะที่โครงสร้างจำเป็นต้องมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก  แต่โลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกทางตะวันตกยังไม่กล้าจะเปลี่ยนแปลง วิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้มันยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกเยอะ

ถ้าเราดูประเทศยุโรป วันนี้พันธบัตรกรีกมีมูลค่าสู้พันธบัตรของปากีสถาน-อัฟกานิสถานไม่ได้ ตลกมาก กรีกเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปมหาศาล มีความเจริญ มีรายได้จากการท่องเที่ยวที่สูงมาก และก็เป็นส่วนหนึ่งของยุโรป เป็นส่วนหนึ่งของอียู แต่วันนี้กรีกล่มสลายหมด และกรีกนี่เป็นตัวอย่างที่สำคัญที่สุด ที่สะท้อนให้เห็นความล้มเหลวของระบบเศรษฐกิจและระบบระบบการเงิน ที่บรรดานักการเงิน นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลก โดยเฉพาะโลกตะวันตก พยายามที่จะผลักดันให้มันเกิดขึ้น ทุกวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นผลพวงมาจากการปลดแอกในการผูกมัดเงื่อนไขของระบบการเงินของธนาคาร สมัยก่อนแบงก์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบงก์ทางตะวันตก ไม่สามารถทำอะไรเกินไปกว่าการปล่อยเงินกู้ รับเงินฝาก และขณะเดียวกัน ทำธุรกรรมทางการเงินเล็กๆ น้อยๆ

แต่นายอลัน กรีนสแปน ซึ่งเป็นอดีตประธานเฟด ปลดแอกตรงนี้ออกหมดเลย แล้วบอกว่า จากนี้ไปธนาคารในอเมริกาสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเงินกู้ ให้เล่นหุ้น ไม่ว่าจะทำสินเชื่อทางด้านรถยนต์  ทำในเรื่องของตลาดอนุพันธ์ล่วงหน้า หรือตั้งบริษัทลูกออกไปค้าเงินตราต่างประเทศ ทำได้หมด ครอบจักรวาล เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดเหตุนี้ขึ้นมา ลักษณะของการเพิ่มพูนผลผลิตทางการเงิน มันไม่เหมือนลักษณะการเพิ่มพูนผลผลิตทางการเกษตร หรืออุตสาหกรรม เพราะเพิ่มผลผลิตทางการเงิน มันเพิ่มด้วยการกดปุ่ม กดปุ๊บแลกเปลี่ยนเงินตรา กดปุ๊บซื้อหุ้นขายหุ้น เล่นตลาดอนุพันธ์ รับหนี้ก้อนนี้มาแล้วขายต่อด้วยการกดปุ่มให้อีกเจ้ารับซื้อไปแล้วกินส่วนต่างย่อยๆ จำนวนส่วนต่างย่อยๆ

เพราะฉะนั้น การเพิ่มผลผลิตทางการเงิน คือการขยันกดปุ่ม ขณะเดียวกัน ขยันสร้างนวัตกรรมทางการเงินบ้าๆ บอๆ เกิดขึ้นมา นี่คือข้อเสียของโลก เพราะว่าไม่มีอะไรที่จับต้องได้เลยแม้แต่นิดเดียว

นายสนธิกล่าวอีกว่า คำว่าทุนนิยมปัจจุบันสามานย์หมด อยู่บนความโลภ ดูธนาคารที่อเมริกามันโลภมากเลยล่ม พอล่มสลายแล้ว รัฐบาลอเมริกันต้องไปอุ้มโดยการเอาเงินของประชาชน ถ้าเป็นอเมริกา ก็เป็นเงินที่ตัวเองพิมพ์ขึ้นมา ใส่เข้าไปในธนาคาร เพื่อหวังว่าธนาคารจะเอาเงินก้อนนี้ไปช่วยคนซึ่งค้างการเช่าซื้อบ้าน ที่เกิดจากวิกฤตการณ์ซับไพรม์ตอนนั้น แต่ปรากฏว่าธนาคารไม่เอาไปช่วย กลับเอาออกไปปล่อยให้นักลงทุน นักลงทุนก็เอาเงินก้อนนี้ ซึ่งเป็นต้นทุนราคาถูก ดอกเบี้ยถูก ส่งไปที่เมืองนอกเพื่อมาเล่นหุ้น

เมื่อต้นทุนมันถูก เงินมันเข้ามาในประเทศมาก เงินท้องถิ่นที่นั่นก็จะแข็งขึ้น เงินบาทก็แข็งขึ้น จาก 34 บาท เหลือ 33 เหลือ 32 เหลือ 31 เหลือ 30 บางวันก็ลดเหลือ 29 บาทกว่า เมื่อเงินบาทแข็ง รอจังหวะ ก็กำไร 2 ต่อ ต่อหนึ่งจากหุ้นที่ตัวเองเล่น อีกต่อหนื่ง เมื่อเงินบาทมันอ่อนปั๊บ ก็สามารถจะแลกเป็นเงินบาท และกำไรเอาไป

ทีนี้มันเป็นกติกาของโลกที่ตะวันตกคิดขึ้นมา ทุกคนก็เล่นตาม คือประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าสงสารมาก แล้วคนไทยที่ไปเรียนจบเมืองนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรียนจบเศรษฐศาสตร์เมืองนอก แล้วคิดไม่เป็น เป็นคนที่น่าสงสารยิ่งกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเงิน นักเศรษฐศาสตร์ หลายคนที่ทำงานอยู่แบงก์ชาติ ทำงานอยู่ ก.ล.ต. ทำงานอยู่ตลาดหลักทรัพย์ หรือทำงานอยู่บริษัทฝรั่งที่เกี่ยวกับการเงินการทอง แล้วมีความรู้สึกว่า ถ้าคิดแบบฝรั่งแล้วมันเจริญก้าวหน้า คนพวกนี้น่าสงสารที่สุด เพราะว่าเราเป็นปลาตัวเล็กๆ เราชอบว่ายน้ำตามปลาฉลาม เรามีความรู้สึกว่านั่นเท่ห์ แต่เวลามันกิน เวลาฉลามมันกิน มันไม่ได้กินแบบประเภทเลือกกินปลาเล็กนี่ สังเกตหรือเปล่าเวลาฉลามมันกินปลา มันกินทั้งพวงเลยนะ ทั้งพวงเราก็โดนกินไปด้วย

นายสนธิกล่าวต่อว่า ในขณะนี้มองดูเหตุการณ์แล้ว ทำไมทองคำราคาขึ้น ขึ้นมาตลอด ก็เพราะว่าคนไม่มีความเชื่อมั่นในเงินสกุลดอลลาร์ วันนี้ถ้าเทียบกันแล้วไม่ได้ต่างกับแบงก์กงเต็กเท่าไหร่ สมัยก่อนประเทศใดมีเงินเหลือก็เอาเงินก้อนนี้ไปซื้อพันธบัตรอเมริกัน ให้ดอกเบี้ยเท่าไรก็จำยอม เพราะคิดว่ามั่นคงที่สุด วันนี้ประเทศจีนเป็นเจ้าหนี้อเมริกันอยู่ประมาณ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

แต่ว่ามูลค่าของดอลลาร์ที่ตกไป ประเทศจีนหายไปแล้ว 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ จีนตอนนี้กำลังกลุ้มใจมาก จีนต้องการส่งออกดอลลาร์บ้าง เพราะฉะนั้นถึงเร่งออกไปขยายงานที่ต่างประเทศ ทีนี้เกมมันก็เริ่มเปลี่ยนแล้ว หลายคนมองว่าซื้อทองเก็บเอาไว้ดีกว่า เพราะถือว่าเป็นปราการด่านสุดท้ายที่อยากจะเก็บ

นายสนธิกล่าวว่า นักวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นตะวันตก หรือนักที่เรียน Phd เรียนอะไรก็ตามจากเมืองนอกเมืองนา ที่อยู่ทั่วโลก รวมทั้งในเมืองไทยด้วย ก็มองว่าทองคำเป็นปัญหาของอเมริกา ทองคำเดี๋ยวขึ้นแล้วมันก็ลง ไม่ลงแล้วครับจากนี้ไป ผมเคยทำนายทองคำเอาไว้เมื่อปี 2547-48 ว่าจะขึ้นตลอด แล้ววันนี้ก็ขึ้นไม่ผิด และผมเคยทำนายเมื่อต้นปี ว่าทองคำวันนี้จะต้องถึง 25,000 บาท หรือ 26,000 ก็ถึงเรียบร้อยแล้ว

ตนจะทำนายต่อ ทองคำออนซ์หนึ่งตอนนี้ประมาณ 1,800 เหรียญสหรัฐฯ จะบอกให้ว่าภายในปีหน้าต้องเกิน 2,000-2,5000 และมีโอกาสขึ้นถึงออนซ์ละ 3,000 ทำไมเพราะว่าจิตวิทยาการซื้อทอง ฝรั่งไม่ค่อยชอบซื้อทอง แต่ขนาดไม่ค่อยชอบซื้อทอง อเมริกาก็มีทองคำมากที่สุดในโลกตอนนี้ มีอยู่ 8,000 ตัน ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของทองคำทั่วโลก ที่น่าสนใจคือตอนนี้จีนเริ่มมาซื้อทองแล้ว อินเดียเริ่มมาซื้อทองแล้ว แบงก์ชาติไทย ซึ่งดื้อและด้าน อวดดี ผมเคยบอกไว้ตั้งนานแล้วว่า เงินดอลลาร์ที่เราขายออก และเรามีสั่งสมมาทุกปี ปีละเท่านี้ๆ แทนที่จะไปซื้อพันธบัตรอเมริกา ไปซื้อทองคำมาเก็บเอาไว้ ไม่เชื่อ สนธิจะไปรู้เรื่องอะไร สนธิจบประวัติศาสตร์ อวดดี สู้ผมไม่ได้ และวันนี้ ปีนี้ สั่งซื้อทองแล้วซิ ถ้าคุณดื้อจริงคุณดื้อตลอดซิ ประเทศชาติจะได้ฉิบหายไป ประเทศไทยก็ซื้อทอง มาเลเซียก็ซื้อทอง ทองมันจะไม่ขึ้นได้อย่างไร

นายสนธิกล่าวต่อว่า เป็นไปได้ที่อเมริกาจะชักดาบหนี้ มีโอกาสสูง ตอนนี้อเมริกาติดหนี้โลก ติดหนี้ประเทศไทย จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ที่มีดอลลาร์จากการค้าขาย และเอาเงินดอลลาร์ไปซื้อพันธบัตรอเมริกา ติดอยู่ประมาณ 14 ล้านล้านเหรียญ ฟังดูก็เยอะ แต่อเมริกากำลังออกมาตรการระหว่างพรรคเดโมแครตกับรีพับลิกัน ว่าภายใน 10 ปี ข้างหน้า เขาจะลดยอดเงิน 14 ล้านล้านเหรียญ ให้เหลือเพียง 4 ล้านล้านเหรียญ เขาพูดได้ แต่อเมริกาลืมคิดไปเรื่องหนึ่ง ว่านอกจากเงินที่ติดหนี้ปัจจุบันนี้คนไปซื้อเป็นพันธบัตรรัฐบาล มันยังมีเงินที่ติดหนี้ประชาชนอเมริกัน เป็นการติดหนี้ระยะยาว เช่น สวัสดิการสังคมสงเคราะห์ โซเซียลซิคิวริตี้ สวัสดิการสุขภาพ บำนาญประชาชน เบ็ดเสร็จรวมหนี้ที่รัฐบาลอเมริกันต้องรับผิดชอบต่อไปในอนาคต 5 ปี 10 ปี ข้างหน้า เขาคำนวณออกมาแล้วมากถึง 140 ล้านล้านเหรียญ

หนี้ในประเทศเขาแก้ได้ แต่หนี้นอกประเทศ ตนคิดว่าแม้วันนี้ไม่ชักดาบก็เหมือนชักดาบ เพราะการที่ทำให้มูลค่าเงินดอลลาร์ตกหายไป 30 % เท่ากับชักดาบไปแล้ว 30 %

วันนี้คนอเมริกันตกงานเยอะมาก หากคนที่ตกงานมาประท้วงกัน วุฒิสมาชิกก็ต้องรับเรื่อง ก็จะต้องหาทางจะเอาธุรกิจอเมริกันที่ไปลงทุนต่างชาติ ที่ตั้งโรงงานในเมืองไทย จีน เกาหลี เขมร ให้กลับมาตั้งโรงงานที่อเมริกา เพื่อลดปัญหาการว่างงาน แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นคือการเริ่มปกป้องการค้าเสรี ทุกคนจะเริ่มตั้งกำแพง

มาที่เรื่องภัยธรรมชาติ วันนี้ยังไม่ทันไร เราเห็นแล้วน้ำท่วมประเทศไทย มีใครพูดสักแอะไหม มีแต่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กับสมเด็จพระนางเจ้าฯ เท่านั้นเอง ที่มัวแต่เหน็ดเหนื่อย วุ่นวายกับการส่งเงินไปช่วย จากการเอาถุงยังชีพไปช่วย รัฐบาลชุดของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากสั่งการให้ช่วย รัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์ ก็เกิดขยันขึ้นมา ช่วยแข่งเพราะไม่ต้องการให้ยิ่งลักษณ์ได้คะแนน แต่สมัยตัวเองเป็นรัฐบาลตัวเองไม่ได้ทำอะไรเช่นกัน

ประเด็นอยู่ที่ว่า คนพวกนี้อยู่ในระบบการเมืองแบบนี้มีแต่ทำให้ชาติฉิบหายวายป่วง ตนได้คุยกับคนหาดใหญ่ บอกน้ำทะลักมาจากเขา 2 เส้นแล้วเข้าเมืองหาดใหญ่ วิธีแก้ต้องทำแก้มลิงดักเอาไว้ จากวันนั้นถึงวันนี้ ไม่มี ส.ส.ใต้พรรคประชาธิปัตย์คนไหน คิดจะช่วยคนใต้  ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.สงขลา ส.ส.หาดใหญ่ ไม่เคยคิดเลยน้ำท่วมหาดใหญ่เพราะอะไร ต้องสร้างแก้มลิง ไม่มีการขยับทำ แล้วถ้าน้ำท่วม ฝนตกหนักอีกครั้ง หาดใหญ่จะท่วมเหมือนเดิม

ภัยธรรมชาติแบบนี้มันไม่ผิดปกติ มันเป็นธรรมดาไปแล้ว ว่าทุกปีน้ำจะต้องท่วมเมืองไทยแบบนี้ คอยดู จะฉิบหายเพราะภัยธรรมชาติ

อีกทั้งตอนนี้ภัยพิบัติมันเกิดขึ้นทั่วโลก ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก เสถียรภาพทางการเงิน กระทั่งการเมืองที่พร้อมจะรบกันอีกครั้งหนึ่งได้ทุกเมื่อ คาดเดาอะไรไม่ได้ เพราะว่าขณะนี้ถ้าทายไม่ผิด ไม่เกินสิ้นปีนี้จะมีธนาคารใหญ่ๆ หลายแห่งในอเมริกาจะต้องล่มสลายอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ล่มสลายแล้ว นี่คืออาฟเตอร์ช็อก ภายในปีนี้ หรือเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่เกินเดือน มิถุนายนปีหน้า ต้องล่มอีก

นายสนธิกล่าวว่า เศรษฐกิจ การเงิน การค้า ภัยธรรมชาติ ภัยทางการเมือง สงคราม คือกติกาใหม่ของโลกในขณะนี้ที่แต่ละจุดพร้อมจะระเบิดขึ้นตลอดเวลา

นายสนธิกล่าวต่อว่า ปัญหาของประเทศไทยเกิดเพราะนักการเมืองไทยยังไม่เข้าใจปัญหา แก้ไขด้วยวิธีเดิมๆ หากยังมุ่งเดินในแนวทางเดิมต่อให้จะกี่ทักษิณ หรือกี่อภิสิทธิ์ ก็แก้ปัญหาไม่้ได้ นักการเมืองไม่มีความคิดสร้างสรรค์คิดแต่จะหาเสียง ตนถึงได้บอกว่าประชาธิปัตย์ กับ เพื่อไทยสันดานเดียวกัน ดังนั้นหากพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อไทยหรือประชาธิปัตย์ ฝ่ายไหนจะเป็นรัฐบาลก็เจ๊ง เพราะนักการเมืองไม่รู้ว่าไทยได้รับผลกระทบ ทั้งเศรษฐกิจ การเงิน จากเพื่อนบ้านในรอบด้าน ประเทศไทยต้องการการปฎิรูปอย่างยิ่งใหญ่ ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะตั้งกองทุนมั่งคั่งในขณะนี้ เพราะทั่วโลกไม่มั่นคงมีเสี่ยงสูง ทางที่ดีควรเพิ่มความมั่งคั่งให้กองทุนดีกว่า ด้วยการลดค่าใช้จ่าย เดินตามหลักความพอเพียง

“หากเปรียบประชาชนเป็นผู้หญิง ภาพของพรรคเพื่อไทยก็เป็นแบบดิบๆ เถื่อนๆ ไปถึงก็จับผู้หญิงข่มขืนเลย ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็ใส่สูท เข้าไปจีบผู้หญิง แต่พอผู้หญิงเผลอก็จับข่มขืน สุดท้ายประชาชนคือผู้หญิงไม่ว่าใครจะเข้ามาก็เจ็บตัวทั้งคู่ นิสัยคนไทยเสียอยู่อย่างไหนจะโดนข่มขืนแล้ว หากพูดดีๆ หน่อยก็ยอม ประเด็นก็คือที่น่าจะเป็น นักการเมืองไม่ควรมาข่มขืนประชาชน ควรทำงานให้ประชาชน”

นายสนธิกล่าวต่อว่า ที่บอกประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยไม่ต่างกันดูได้อีกอย่าง คือ กิจการธนาคาร ซึ่งถือเป็นกิจการที่ได้กำไรมากที่สุด ตั้งส่วนต่างดอกเบี่้ยมากถึง 7% แต่ทั้งสองพรรคการเมืองไม่เคยมีนโยบายลดส่วนต่างดอกเบี้ยไม่ให้เกิน 3% เป็นเพราะไม่ว่าระบอบนายอภิสิทธิ์ หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่างตกอยู่ในระบบทุนเป็นใหญ่ เอาทุนเป็นตัวตั้งแล้วเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในสัมปทานที่จะได้

ส่วนเรื่องน้ำท่วม รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เข้ามาก็แก้ไม่ได้ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์อยู่ก็ท่วมเหมือนเดิม เป็นเพราะนักการเมืองเข้ามาต่างทำนโยบายแบบเร่งด่วน หวังแต่คิดโครงการอะไรก็ได้เพื่อทำให้ตัวเองได้เงินเร็วที่สุด ปัญหาน้ำของไทยมีอยู่แค่สองอย่าง คือ น้ำมากเกินไป กับน้ำไม่พอใช้ จะแก้ปัญหานี้ต้องใช้เวลาระยะยาว ที่สำคัญใครจะเป็นคนทำเพราะตามที่บอกรัฐบาลไหนเข้ามาก็ต้องการ ใช้ตำแหน่งหน้าที่ทำเงินทันทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน อย่างไรก็ดีสำหรับตนมองว่าปัญหาเรื่องน้ำท่วม ทางแก้ควรศึกษาให้ละเอียดว่า น้ำไหลมาจากตรงไหน ควรทำแก้มลิงตรงไหนบ้าง หากเป็นไปได้เสนอให้ชาวบ้านขุดสระทุกหมู่บ้าน แล้วเชื่อมสระเข้าสู่คูคลอง เชื่อมคลองเข้าสู่แม้น้ำ ให้น้ำทุกสายมีทางระบายเชื่อมต่อกัน

“ชาวไร่ เกษตรกร บ้านเราถือว่าซวย เป็นเพราะด้วยปัญหาการศึกษาต่ำ ความรู้เทคนิคทางวิชาการน้อย จึงต้องพึงกรมวิชาการเกษตร แต่หารู้ไม่ว่ากระมวิชาการเหล่านี้หากจะคิดโครงการอะไรจะสุมหัวกับบรรดาพ่อค้า ท้ายที่สุดโครงการเหล่านั้นก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะไม่ได้มีการทดลองก่อน หนี้สินตกอยู่กับเกษตรกร ชาวไร่ชาวนา ส่วนน้ักการเมือง พ่อค้า ได้กำไร”

นายสนธิกล่าวอีกว่า ตนจะเลิกถูกฝีมือนักการเมืองปัจจุบันที่บริหารประเทศล้มเหลว หากเปรียนกระบวนทัศน์เป็นแบบพอเพียงได้ แต่คงยากเพราะไปสวนกับคำมั่นสัญญาที่ให้กับประชาชนทุกวันนี้พระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง มีบทบาทเป็นเหมือนการเทศบทหนึ่ง นักการเมืองน้อมใส่เกล้าฯแต่ไม่เคยทำ เอากิเลสนำหน้าเข้ามาลงทุนทางการเมืองเพื่อแสวงหากำไร ไม่ได้เป็นผู้นำที่เป็นตัวอย่างให้กับประชาชนเห็น เศรษฐกิจโลกสั่นคลอนไม่มีเสถียรภาพ ไม่มีความแน่นอนทางการเงิน สงครามไม่รู้จะเกิดขึ้นเมือไร หากพรุ่งนี้อเมริกาชักดาบไม่ชำระหนี้ หรือแบงค์ในอเมริกาล่มสลายอีกสัก 2-3 แห่ง อยากถามว่าแล้วประเทศไทยจะอยู่ตรงไหน ในเมื่อยังส่งเสริมให้คนไทยใช้เงินตลอดเวลา ที่จริงสถานภาพเมืองไทยต้องส่ิงเสริมให้คนประหยัด

“ปัญหาของประเทศที่ฉิบหายทุกวันนี้ ตนจะยังไม่โทษพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตยฺ์เลยเสียทีเดียว หากจะโทษต้องโทษที่ 5 เสือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ที่ควรทำ การเลือกตั้งที่ผ่านมามีการหาเสียง สัญญาจะให้ ซื้อเสียงกันมากมาย แต่ กกต.จัดการไม่ได้” นายสนธิกล่าว





กำลังโหลดความคิดเห็น