xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ค"ไล่บี้"ปู"จับแม้ว เจอสวน2ปีไม่ทำอะไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"อภิสิทธิ์"ไล่บี้รัฐบาลดำเนินการนำตัว"ทักษิณ"กลับมารับโทษ หากเจอตัวที่เขมร พร้อมให้"ยิ่งลักษณ์" ประกาศจุดยืนพื้นที่ 4.6 ตร.กม.บริเวณปราสาทพระวิหารเป็นของไทยก่อนเดินทางไปเยือน ด้านโฆษกรัฐบาลสวน "มาร์ค" ปาหี่ล่า"แม้ว" ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีกำหนดการเดินทางไปประเทศกัมพูชาว่า เรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศต้องแจ้งไปให้ชัดเจนว่า สถานะของพ.ต.ท.ทักษิณ คืออะไร โดยรัฐบาลไม่ใช่ผู้ที่จะไปบอกว่าใครผิดหรือไม่ผิด แต่รัฐบาลมีหน้าที่ต้องปฏิบัติเพื่อให้คำพิพากษาของศาลบังคับใช้ได้

เมื่อถามว่า หากนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ไม่ได้ดำเนินการอะไร จะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางหน่วยงานต้องทำ และต้องแจ้งไป ส่วนกัมพูชาจะมีท่าทีอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ อัยการ กระทรวงยุติธรรม ต้องมีการทำงานร่วมกันในเรื่องนี้

เมื่อถามว่ากำหนดการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปประเทศกัมพูชาในวันที่ 15 ก.ย. และพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปในวันที่ 16 ก.ย. ถือเป็นช่วงเวลาที่ใกล้กัน จะมีการไปแอบเจรจาที่อาจจะส่งผลต่อประโยชน์ของประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ไปรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ตนเห็นสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ให้ตนไปพูดเรื่องกัมพูชานั้น คงเป็นไปไม่ได้ เพราะสิ่งที่ตนพูดไม่ได้มีอะไรกับกัมพูชา แต่ตนปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทย เพราะคนไทยก็มีสิทธิปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทย นายกฯ ฮุนเซน ก็มีสิทธิปกป้องผลประโยชน์ของประเทศกัมพูชา ซึ่งถ้ารัฐบาลจะหยิบยกเรื่องผลประโยชน์ทางทะเลขึ้นมาเจรจา ก็ต้องมาทบทวนมติครม.อีกครั้งหนึ่ง เพราะถ้าจะมีการพูดคุยกันก็ต้องมีการทำกรอบใหม่ เพราะกรอบเดิมถูกแขวนอยู่ แต่ถ้าหากจะยืนยันตามกรอบเดิม ก็ต้องมีการไปแก้มติครม.เสียก่อน

ทั้งนี้ การเจรจาในเรื่องผลประโยชน์ทางทะเลนั้น สุดท้ายแล้วก็ต้องมีการเจรจาเกิดขึ้น เพียงแต่ว่ากรอบการเจรจาจะเป็นอย่างไร รัฐบาลชุดที่แล้วก็มีมติว่ากรอบการเจรจาเอ็มโอยูปี 44 จะได้รับการปรับปรุงแก้ไข แต่หากรัฐบาลนี้จะมีความเห็นเป็นอย่างอื่น ก็ต้องเปลี่ยนแปลงมติ และต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนว่า เพื่ออะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการยืนยันมติครม.แล้วจะต้องมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องให้กฤษฎีกาช่วยดู เพราะที่ผ่านมา มีประเด็นว่าขั้นตอนไหนบ้างที่จะต้องนำเข้าสู่สภา

เมื่อถามว่าเกรงว่า กรณีนี้มีการไปงุบงิบกันทำ เหมือนอย่างแถลงการณ์ร่วมสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าไปทำอย่างนั้นก็ผิดกฎหมาย อย่างกรณีแถลงการณ์ร่วม ก็ถูกชี้ว่าผิดกฎหมาย ก็จะใช้ไม่ได้ แต่กรณีนี้ ยังไม่ทราบว่าขั้นตอน และวิธีการดำเนินการของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร แต่รัฐบาลควรจะมีความขัดเจนเสียก่อนว่า จะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วจะใช้กรอบเดิม หรือจะเปลี่ยนกรอบใหม่ แล้วจะเปลี่ยนอย่างไร

** จี้"ยิ่งลักษณ์"ประกาศจุดยืนพท.4.6 ตร.กม.

นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเดินทางไปเยือนกัมพูชา ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้งการจัดการแข่งขันฟุตบอลกระชับความสัมพันธ์ระหว่างส.ส.ของทั้ง 2 ประเทศ ว่า การเสริมสร้างความสัมพันธ์ กับประเทศเพื่อนบ้านเป็นเรื่องที่เหมาะสม และควรค่าแก่การสนับสนุน แต่เพื่อขจัดความรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยในหมู่ประชาชน ในประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อน จึงขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงภาวะความเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนของรัฐบาล ในประเด็นปัญหาพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร บนเขาพระวิหาร ซึ่งรัฐบาลก่อนหน้านี้ ถือว่าเป็นดินแดนของประเทศไทยมาโดยตลอด รวมทั้งจุดยืนที่ชัดเจนของรัฐบาลต่อการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนของอ่าวไทย

"ไม่ว่ารัฐบาลนี้ หรือพ.ต.ท.ทักษิณ จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเพียงใดต่อสมเด็จฮุนเซน และรัฐบาลกัมพูชา แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์และอธิปไตยของชาติ เพื่อให้การพัฒนาความสัมพันธ์ของไทย และกัมพูชาเป็นความสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ มากกว่าความสัมพันธ์และประโยชน์ส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และสมเด็จฮุนเซน โดยมีแผ่นดินทั้งสองประเทศเป็นต้นทุนในการแสวงหาค้ากำไร"นายอรรถพรกล่าว

นายอรรถพรกล่าวว่า ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ประกาศความชัดเจนในเรื่องนี้ ประชาชนก็จะระแวงสงสัยในบทบาทของรัฐบาล และมีสิทธิที่จะตั้งข้อสงสัยว่า สงครามที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเดือนก.พ. จนมีทหารและประชาชนไทยเสียชีวิต รวมถึงเหตุการณ์ความตึงเครียดของสองประเทศที่เกิดในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นสงครามที่เกิดขึ้นจากพัฒนาการของความขัดแย้งที่แท้จริง หรือเป็นแนวรบที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และสมเด็จฮุนเซน จับมือกันก่อสงครามกับประเทศไทย เพื่อล้มรัฐบาลชุดที่แล้ว

สำหรับกรณีที่รัฐบาลจะเร่งเจรจาช่วยเหลือ นายวีระ สงความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ จากคุกเขมรนั้น นายอรรถพร กล่าวว่า เป็นมาตรการที่ถูกต้องเหมาะสม และควรกระทำโดยเร่งด่วน

** บี้"ยิ่งลักษณ์" ล่าตัว"ทักษิณ"

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวในเรื่องเดียวกันนี้ว่า นายกรัฐมนตรี ทราบข่าวที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปหรือไม่ และถ้าหากทราบแล้ว รัฐบาลไทยจะดำเนินการอย่างไร เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ต้องหาหนีคดีอาญา หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 2 ปี นายกรัฐมนตรีจะสั่งการให้สืบค้น จับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เพราะขณะนี้ทั่วโลกก็ทราบกำหนดการเดินทางดังกล่าวแล้ว ซึ่งตนขอตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี ผ่านสื่อมวลชนว่า จะดำเนินการเรื่องอย่างไร ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการจับกุม จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายประมวลอาญา มาตรา157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ และจะชี้แจงต่อสังคมอย่างไร

**ตอก"มาร์ค"ปาหี่ล่า"แม้ว"

นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องรู้จักหน้าที่ของตัวเองว่า ไม่ต้องมาสอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์รู้จักหน้าที่ของตัวเองดีว่ากำลังทำอะไร โดยสิ่งที่นายกรัฐมนตรีกำลังดำเนินการอยู่ ทุกอย่างทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน การจะไปเยือนกัมพูชา ก็เป็นการไปสร้างความสัมพันธ์ทีดีระหว่างประเทศ แต่การที่นายอภิสิทธิ์ ออกมาสั่งสอนนั้น ควรจะกลับไปดูว่ารัฐบาลที่แล้วทำอะไรเอาไว้บ้าง เพราะขณะที่ไปเจรากับต่างประเทศนั้น ก็ยังเป็นการแอบเจรจาลับเลย ซึ่งพวกเราก็รู้กันดี

ทั้งนี้ การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปต่างประเทศ ก็ไม่จำเป็นว่าต้องไปพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ผู้เป็นพี่ชาย ทุกครั้ง ดังนั้น จึงอยากให้มั่นใจว่า การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปเยือนกัมพูชานั้น ไม่ได้ไปทำอะไรเพื่อคนคนเดียว

ส่วนจุดยืนรัฐบาลในการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณนั้น รัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และ 2 ปีที่ผ่านมา ที่นายอภิสิทธิ์ ไม่สามารถนำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาได้เพราะอะไร และเราก็ไม่อยากจะได้ยินเรื่องตำรวจสากลอีกแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่โกหก หลอกลวงพี่น้องประชาชนมาเป็นปี ทำให้เข้าใจว่าตำรวจสากลออกหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่เป็นความจริง แต่อย่างใด ดังนั้น การโกหกแบบนี้ รัฐบาลนี้จะไม่ทำอย่างแน่นอน

**"เหลิม"ไม่ตอบ"แม้ว"ไปกัมพูชา

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ จะไปประเทศกัมพูชาว่า ไม่ตอบ เพราะไม่รู้ว่าจะไปจริงหรือไม่ และหากมีการเดินทางเข้าไปจริงจะถูกพรรคประชาธิปัตย์ นำไปโจมตีหรือไม่ ก็ว่าไป พรรคประชาธิปัตย์จะทำอะไรก็ทำไป ตนบอกแล้วว่า ทำอะไรได้ทั้งนั้น ส่วนพรรคเพื่อไทย จะวางจุดยืนเกี่ยวกับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร เรื่องนี้ไม่ตอบ เพราะตอบแล้วไม่จบสิ้น บอกไม่ได้ทำอะไรก็ไม่เชื่อ พูดจนบ้านเมืองสับสนหมด ขอเวลาปราบยาเสพติด และแก้ไขอบายมุขให้ลูกหลานได้กลับบ้านหัวค่ำดีกว่า

**ยัน"แม้ว"ไม่พบ"ปู"ที่เขมร

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปกัมพูชา ว่า เนื่องจากได้รับเชิญจาก Royal Academy of Cambodia ซึ่งเป็นราชบัณฑิตยสถานของกัมพูชา ร่วมกับ Centrist Asia Pacific Democrat International ซึ่งเป็นองค์กรรัฐสภาเอเชียแปซิฟิก ที่จัดประชุมสมาชิกรัฐสภาเอเชียแปซิฟิกประจำปี โดยได้เชิญอดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายท่าน ให้ไปบรรยายเรื่องเศรษฐกิจเอเชีย และเศรษฐกิจโลก ในช่วงเช้าของวันที่ 19 ก.ย. ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับเชิญด้วย แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอการยืนยันจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะเดินทางไปหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจที่จะเดินทางไปก็คงจะอยู่ไม่ถึงวันที่ 24 ก.ย. ที่จะมีการแข่งขันฟุตบอล ระหว่างส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กับรัฐบาลกัมพูชาอย่างแน่นอน

ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปในวันใดนั้น ตนยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่คงจะไม่เดินทางไปในช่วงเดียวกันกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางไปกัมพูชาอย่างแน่นอน และหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกจากกัมพูชาแล้ว จะไปประเทศไหนต่อนั้น ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันเช่นกัน

**"นปช."ขออนุญาตศาลไปเตะบอล

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความรับผิดชอบแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตแกนนำ นปช. เดินทางออกนอกประเทศเพื่อร่วมงานการแข่งขันฟุตบอลนักการเมืองที่ประเทศกัมพูชา ว่า ในวันนี้ ( 14 ก.ย.) เวลา 09.00 น. ตนจะเดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อขออนุญาตให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ผู้ช่วยเลขานุการ รมช.มหาดไทย ซึ่งเป็นแกนนำ นปช. และจำเลยคดีร่วมกับ 19 แกนนำก่อการร้าย เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ย.นี้ ก่อนที่จะร่วมงานแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรของนักการเมือง ซึ่งหากศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้ ทีมทนายความก็ได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 600,000 บาทเพื่อจะวางเป็นหลักประกันต่อศาล และจะนำหนังสือรับรองตำแหน่ง ส.ส. และตำแหน่งการเมืองของทั้งสอง มายื่นต่อศาลด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้ในการปล่อยตัวชั่วคราวศาลได้กำหนดเงื่อนไขไว้ห้ามออกนอกประเทศ

ขณะเดียวกัน ในวันที่ 19 ก.ย. ทีมทนายความ เตรียมยื่นคำร้องขออนุญาตให้ 8 แกนนำ นปช. ซึ่งตกเป็นจำเลยร่วมคดีก่อการร้าย ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, น.พ.เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายนิสิต สินธุไพร, นายขวัญชัย ไพรพนา, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นายยศวริศ ชูกล่อม, และนายภูมิกิตติ สุขจินดาทอง เดินทางไปประเทศกัมพูชาอีกครั้งระหว่างวันที่ 22-27 ก.ย. ที่จะต้องไปร่วมงานแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรวันที่ 24 ก.ย.นี้

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำนปช. จะขออนุญาตต่อศาล เพื่อเดินทางออกนอกประเทศไปเตะบอลที่ประเทศกัมพูชาว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องรายละเอียดเรื่องนี้

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเดินทางไปเตะบอลที่กัมพูชาว่า ตนได้พูดคุยกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยแล้ว ได้รับการยืนยันว่าจะเดินทางไปอย่างแน่นอน โดยจะออกเดินทางวันที่ 23 ก.ย. และจะมีการเตะฟุตบอลนัดพิเศษเพื่อกระชับมิตร ในวันที่ 24 ก.ย.

ส่วนการจะขออนุญาตต่อศาล เพื่อเดินทางออกนอกประเทศไปเตะบอลที่ประเทศกัมพูชานั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ยังเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ก็คงจะต้องมีการทำตามขั้นตอน ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ จะลงเตะฟุตบอลด้วยหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจ แต่คาดว่าคงไม่ได้มาลงเตะด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น