“ณัฐวุฒิ-จตุพร” ยันบอลแมตซ์พิเศษ กระชับมิตรไทย-กัมพูชา ได้ประโยชน์ โวคนล้นสนามแน่ เชื่อ ศาลให้ออกนอกประเทศได้ เผย “นช.แม้ว” บินออกจากเขมรก่อนบอลเตะ ส่วน “อริสมันต์” ไม่ไปร่วมแน่ แต่จะอยู่ใกล้ๆ สนาม ยันช่วย “วีระ-ราตรี” แม้สาวกเสื้อแดงจะไม่พอใจ เพราะยืนอยู่คนละขั้ว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง เปิดเผยถึงการอนุญาตศาลเดินทางไปร่วมเตะฟุตบอลนัดกระชับมิตรกับกัมพูชา ว่า ส่วนตัวได้ดินทางไปขออนุญาตศาลอาญาเพื่อเดินทางออกนอกประเทศ โดยได้ยื่นเรื่องขอลดเงื่อนไขเป็นรายครั้ง ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีกรณีตัวอย่างของ นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนเสื้อแดง ที่ติดคดีก่อการร้ายเช่นกัน ที่ได้ขอเดินทางออกนอกประเทศ และศาลให้การอนุญาต
อย่างไรก็ตาม การยื่นขออนุญาตเพื่อเดินทางระหว่างวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ได้ระบุเหตุผลถึงการเดินทางเพื่อประสานงานเตรียมการจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดดังกล่าว เพราะตั้งแต่มีการเผยแพร่ข่าวออกไป ประชาชน และสื่อมวลชนต่างให้ความสนใจอย่างมาก จึงต้องมีการปรึกษาหารือระหว่างสองฝ่าย หากครั้งนี้ศาลอนุญาต จะมีการขอรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 23-25 ก.ย.เพื่อร่วมลงแข่งขันฟุตบอล
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากศาลไม่อนุญาตให้แกนนำคนเสื้อแดงเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปร่วมแข่งขันฟุตบอล จะมีการยกเลิกหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ว่าดุลพินิจของศาลจะออกมาเป็นอย่างไร พวกตนก็ยืนยันว่าจะให้ความเคารพ แต่หากไม่อนุญาตจริง และงานได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว คงต้องให้พรรคพวกที่เหลือ ซึ่งไม่ติดเงื่อนไขดำเนินการต่อไป ส่วนพวกตัวหลักคงต้องซักซ้อมอยู่ในประเทศเท่านั้น
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดงที่หลบหนีคดี จะเข้าร่วมเตะฟุตบอลในนัดนี้ด้วย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ทราบจากกำหนดการ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางออกจากประเทศกัมพูชาก่อนที่จะมีการเตะฟุตบอลนัดดังกล่าว เบื้องต้นจึงคาดว่าคงไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันแต่อย่างใด ส่วนนายอริสมันต์ ยืนยันว่า ไม่เข้าร่วมอย่างแน่นอน แต่คงจะติดตามข่าวความเคลื่อนไหวอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลในละแวกนี้
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นายอริสมันต์ อยู่ในประเทศกัมพูชา หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทราบเพียงว่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล และเหตุที่นายอริสมันต์ ยังไม่เดินเข้ามามอบตัว ก็เพราะยังรอดูสถานการณ์ ความพร้อมต่างๆ เข้าใจว่า น่าจะเป็นสาเหตุเฉพาะตัว
นายณัฐวุฒิ ยังได้กล่าวตอบโต้กระแสโจมตีการจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดนี้ด้วยว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะฝ่ายค้านจะหาเรื่องโจมตีให้พวกตนเสียหายต่างๆ นานา ซึ่งตนก็ไม่ได้วิตก เพราะการเดินทางไปเตะฟุตบอลครั้งนี้ ก็เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน และไปโดยเปิดเผย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีกว่าบางพรรคลักลอบส่ง ส.ส.ลูกพรรคเดินทางเข้าไปรุกล้ำอธิปไตยประเทศเพื่อนบ้าน จนเป็นเรื่องบานปลายตึงเครียดมาถึงวันนี้ และยังมีคนไทยถูกจับกุมอยู่ในประเทศกัมพูชาอีกด้วย โดยที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีปัญญาที่จะช่วยเหลือ การเดินทางไปเตะฟุตบอลครั้งนี้ หากประสบความสำเร็จก็จะสร้างประโยชน์ให้กับคนไทยทั้งชาติ และจะใช้เป็นโมเดลกระชับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน โดยอาจจะขยายการเตะฟุตบอลไปเตะกับลาว หรือเวียดนาม ต่อไป พรรคประชาธิปัตย์จึงควรออกจากกะลาครอบเพื่อดูโลกกว้างเสียบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางการช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ สองคนไทยที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำประเทศกัมพูชา นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงไม่ได้มีการเจรจาใดๆ อย่างเป็นทางการ แต่อาจจะร่วมรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ ส่วนการช่วยเหลือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ ในการเจรจากัน เราไปครั้งนี้ในฐานะประชาชน แต่หากเจอผู้ใหญ่ของทางกัมพูชา ก็คงหารือแนวทางการช่วย นายวีระ และ น.ส.ราตรี ในเบื้องต้น
ส่วนข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่ให้รัฐบาลพิจารณาปล่อยตัวคนเสื้อแดงที่ยังถูกขังในเรือนจำ เฉพาะกรณีการกระทำผิด พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทุกฝ่ายน่าจะตอบรับข้อเสนอและช่วยผลักดันให้เกิดผลปฏิบัติจริง เพราะมีประชาชนจำนวนมากถูกออกหมายจับอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งการปรองดองจะเกิดขึ้นได้ต้องอยู่ภายใต้หลักนิติรัฐ-นิติธรรม จึงขอเรียกร้องให้ห่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเรื่องให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า คาดว่า ศาลจะอนุญาต และแต่ละคนที่ไปยื่นได้วางเงินประกันคนละ 6 แสน และระบุรายละเอียดเหตุผลการเดินทางอย่างชัดเจน เช่นเดียวกรณีของ นายขวัญชัย จึงคาดว่า จะไม่มีปัญหา โดยฟุตบอลนัดนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในประเทศกัมพูชาไปแล้ว คาดว่า จะมีผู้ชมนับหมื่นคน ส่วนการโจมตีของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ตนมองว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรที่จะรู้ตัวเองว่าสมัยเป็นรัฐบาล มักทำตัวขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านบ่อยๆ และมีพฤติกรรมปากว่าตาขยิบ หน้าฉากทำทีเป็นทะเลาะ แต่ลับหลังกลับแอบไปเจรจาลับเพื่อหาผลประโยชน์
ส่วนการเจรจาช่วยเหลือ นายวีระ และ น.ส.ราตรี นั้น เรื่องนี้ได้มีการดำเนินการนอกรอบแล้วหลายครั้ง แม้ว่า นายวีระ จะมีแนวคิดทางการเมืองที่ไม่ตรงกับพวกตนก็ตาม แต่พวกตนก็ยอมรับในความเห็นต่าง และหากช่วยเหลือ นายวีระ ออกมาได้แล้ว นายวีระ จะมาวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยในทางเสียหาย ก็ถือเป็นสิทธิทางการเมือง ซึ่งในความเป็นจริงหากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางการกัมพูชา ทั้งคู่คงได้รับการปล่อยตัวออกมานานแล้ว
นายจตุพร ยังได้กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การโยกย้าย นายชาติชาย สุทธิกลม ออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แล้วแต่งตั้ง พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย มาดำรงตำแหน่งแทน เพื่อช่วยเหลือเรื่องการถวายฎีกาให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เวลานี้ไม่ว่ารัฐบาลจะทำอะไรก็ถูกมองเป็นเรื่องการเมืองไปทั้งหมด เพราะการอ้างว่าโยกย้ายครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือเรื่องฎีกา พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น เพราะฎีกา 3 ล้านรายชื่อ ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วนั้น รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ก็ออกมาระบุเองว่า รัฐบาลมีหน้าที่เพียงถวายคำเห็นประกอบเท่านั้น แต่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์กลับพยายามทุกวิถีทาง เพื่อดึงเรื่องดังกล่าวไว้ นอกจากนี้ตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็ไม่ได้มีหน้าที่ทำความเห็นประกอบการถวายฎีกาแต่อย่างใด เพราะตรงนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งคณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ ที่มี นายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธาน นายจตุพร กล่าวว่า ความไม่ยุติธรรมในประเทศไทยยังมีอยู่ในทุกพื้นที่ ตนผ่านคุกมาทราบดีว่าหลายคนถูกบังคับให้รับสารภาพโดยที่ไม่ได้ทำความผิด ดังนั้น นายอุกฤษ ถือเป็นผู้หลักผู้ใหญ่รู้ดีว่าจะนำพาบ้านเมืองสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ทราบว่าคณะกรรมการชุดนี้จะมีการวางกรอบการทำงานอย่างไร แต่เชื่อว่า น่าจะเข้ามาเพื่อปรับปรุงกระบวนการให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และคณะกรรมการชุดนี้คงไม่ได้มีอำนาจไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างที่เกรงกัน
ขณะที่ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ยอมรับว่า มีคนเสื้อแดงบางกลุ่มไม่พอใจเมื่อทราบว่าแกนนำที่จะไปร่วมเตะฟุตบอลกับรัฐบาลกัมพูชา จะมีการเจรจาเพื่อหาช่องทางช่วยเหลือนายวีระ และ น.ส.ราตรี ออกมาจากเรือนจำประเทศกัมพูชา เพราะเห็นว่าคนพวกนี้เป็นฝ่ายตรงข้าม และที่ผ่านมาก็ต่อว่าพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงมาโดยตลอด จะไปให้ความช่วยเหลือทำไม อย่างไรก็ดี ตนในฐานะแกนนำต้องยืยันการช่วยเหลือ อธิบายความให้พี่น้องเสื้อแดงเข้าใจว่าการช่วยเหลือเป็นไปในเรื่องจของมนุษยธรรม เราเป็นคนไทยด้วยกันไม่อยากให้ตกอยู่ในความลำบาก