ASTVผู้จัดการรายวัน-“คมนาคม”ปรับกรอบงบประมาณปี 55 เป็น 2.42 แสนล้าน เพิ่มจากปี 54 ประมาณ 122.19% เผยเฉพาะงบซ่อมถนนน้ำท่วมกว่า 1.4 หมื่นล. ขณะที่เร่งรัดการออกแบบรถไฟฟ้า5 สาย และรถไฟความเร็วสูงตามนโยบายรบ. เพื่อให้เปิดประมูลปลายปี 55 สั่งหน่วยงานลดกรอบโครงการใหม่ปี 55 จาก ฌฆ,ฮ 10-15% เนื่องจากระยะเวลาใช้จ่ายมีน้อย
นายสุพจน์ ทรัพยฺล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผภายหลังประชุมงบประมาณปี 2555 ว่า กระทรวงคมนาคมได้ปรับปรุงกรอบวงเงินงบประมาณประจำปี 2555 ใหม่จากเดิมวงเงิน 132,790.569 ล้านบาท เป็น 242,468 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2554 ที่ได้รับจัดสรรจำนวน 133,340.150 ล้านบาท หรือ 122.19% โดยกรมทางหลวง(ทล.) เสนอมากที่สุดประมาณ 9.44 หมื่นล้านบาท รองลงมาคือกรมทางหลวงชนบท(ทช.) ประมาณ 4.95 หมื่นล้านบาทและการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) 4.39 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ กรอบงบประมาณปี 2555 ที่ปรับใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีการปรับขึ้นจากกรอบเดิมของปี 2554 กว่า 100,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นงบที่เกี่ยวกับน้ำท่วม เฉพาะ ทล.และทช.จะอยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาทสำหรับงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของ ทล.ส่วนใหญ่จะเป็นการขยายเส้นทางจราจรเป็น 4 ช่อง การเพิ่มปริทธิภาพของถนน และการซ่อมแซมเส้นทางสายหลัก เป็นต้น ส่วน ร.ฟ.ท.ก็เป็นการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ตามแผนงานที่กำหนด
นอกจากนี้จะเป็นงบประมาณในการการศึกษาออกแบบรถไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาล เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ เพื่อให้สามารถเปิดประกวดราคาให้ได้ในปลายปี 2555 ส่วนรถไฟฟ้าความเร็วสูงทั้ง 5 เส้นทาง ก็จะมีการตั้งงบประมาณออกแบบในปี 2555 ด้วย
นายสุพจน์กล่าวว่า ได้ให้หน่วยงานในสังกัดทุกแห่งไปพิจารณาว่าจะสามารถปรับลดงบประมาณได้หรือไม่ หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่าระยะเวลาการใช้งบประมาณปี 2555 มีจำกัด เนื่องจากมีขั้นตอนในการนำเสนอและประกาศใช้ค่อนข้างมาก กว่าจะได้รับการจัดสรงบประมาณจะอยู่ประมาณเดือน ก.พ. –มี.ค. 2555 ดังนั้นจะเหลือช่วงระยะเวลาที่จะได้ใช้งบประมาณ 2-4 เดือนเท่านั้น โดยให้พิจารณาปรับงดงบในส่วนของโครงการใหม่ก่อนลงจากที่กำหนดไว้ 30% ให้เหลือ 10-15% ได้หรือไม่ โดยให้เนื้องานยังคงเป็นไปตาม ที่กำหนดไว้เดิม แต่ให้พิจารณาในเรื่องประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายงบประมาณและการทำงานของแต่ละหน่วยงานเป็นหลัก และให้นำเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาอีกครั้งภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้เพื่อเสนอ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเสนอไปยังสำนักงบประมาณภายในวันที่ 16 ก.ย.2554
นายสุพจน์ ทรัพยฺล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผภายหลังประชุมงบประมาณปี 2555 ว่า กระทรวงคมนาคมได้ปรับปรุงกรอบวงเงินงบประมาณประจำปี 2555 ใหม่จากเดิมวงเงิน 132,790.569 ล้านบาท เป็น 242,468 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2554 ที่ได้รับจัดสรรจำนวน 133,340.150 ล้านบาท หรือ 122.19% โดยกรมทางหลวง(ทล.) เสนอมากที่สุดประมาณ 9.44 หมื่นล้านบาท รองลงมาคือกรมทางหลวงชนบท(ทช.) ประมาณ 4.95 หมื่นล้านบาทและการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) 4.39 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ กรอบงบประมาณปี 2555 ที่ปรับใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีการปรับขึ้นจากกรอบเดิมของปี 2554 กว่า 100,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นงบที่เกี่ยวกับน้ำท่วม เฉพาะ ทล.และทช.จะอยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาทสำหรับงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของ ทล.ส่วนใหญ่จะเป็นการขยายเส้นทางจราจรเป็น 4 ช่อง การเพิ่มปริทธิภาพของถนน และการซ่อมแซมเส้นทางสายหลัก เป็นต้น ส่วน ร.ฟ.ท.ก็เป็นการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ตามแผนงานที่กำหนด
นอกจากนี้จะเป็นงบประมาณในการการศึกษาออกแบบรถไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาล เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ เพื่อให้สามารถเปิดประกวดราคาให้ได้ในปลายปี 2555 ส่วนรถไฟฟ้าความเร็วสูงทั้ง 5 เส้นทาง ก็จะมีการตั้งงบประมาณออกแบบในปี 2555 ด้วย
นายสุพจน์กล่าวว่า ได้ให้หน่วยงานในสังกัดทุกแห่งไปพิจารณาว่าจะสามารถปรับลดงบประมาณได้หรือไม่ หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่าระยะเวลาการใช้งบประมาณปี 2555 มีจำกัด เนื่องจากมีขั้นตอนในการนำเสนอและประกาศใช้ค่อนข้างมาก กว่าจะได้รับการจัดสรงบประมาณจะอยู่ประมาณเดือน ก.พ. –มี.ค. 2555 ดังนั้นจะเหลือช่วงระยะเวลาที่จะได้ใช้งบประมาณ 2-4 เดือนเท่านั้น โดยให้พิจารณาปรับงดงบในส่วนของโครงการใหม่ก่อนลงจากที่กำหนดไว้ 30% ให้เหลือ 10-15% ได้หรือไม่ โดยให้เนื้องานยังคงเป็นไปตาม ที่กำหนดไว้เดิม แต่ให้พิจารณาในเรื่องประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายงบประมาณและการทำงานของแต่ละหน่วยงานเป็นหลัก และให้นำเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาอีกครั้งภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้เพื่อเสนอ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเสนอไปยังสำนักงบประมาณภายในวันที่ 16 ก.ย.2554
