ASTVผู้จัดการรายวัน - ”ปู”ปัดไม่มีเอี่ยว “เร่งฎีกา”ขอพระราชทานอภัยโทษ “พี่ชาย” ในนาม “คนชินวัตร” "เฉลิม"ปิดปากไม่พูดรื้อคดีรัชดา อ้างนักกฎหมายเห็นต่างทั่วโลกได้ มั่ว!คน15ล้านให้เร่งช่วย "บิ๊กแป๊ะ" อ้าง ยธ.ฎีกาใช้ ม.259 ญาติไม่เกี่ยว ด้าน “กมธ.ส.ว.” หวั่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ "ทักษิณ" ส่อขัดต่อประเพณี เตรียมเรียก “อธิบดีราชทัณฑ์”แจง
วานนี้ (11 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสคนในครอบครัวชินวัตรเตรียมฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชายและนักโทษหนีคดีว่า “ยังไม่ได้สั่งอะไร และยังไม่มีประเด็นอะไรด้วย”
**"เฉลิม"ปิดปากไม่พูดรื้อคดีรัชดา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์วิจารณ์ว่ารัฐบาลสองมาตรฐาน โดยเฉพาะการพยายามรื้อคดีที่ดินรัชดาภิเษกขึ้นมาใหม่ ว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านและเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในและนอกสภาก็ได้ และหากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังข้องใจสงสัยก็ตั้งกระทู้สด ยื่นญัตติ หรือนำไปสู่การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ได้ ได้ชี้แจงเรื่องนี้ไปหมดแล้ว อีกทั้งยังมีนักวิชาการที่ออกรายการทางเอเอสทีวี และนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกอัยการสูงสุด ก็ชี้แจงชัดเจน ตนไม่จำเป็นต้องพูดอีก
เมื่อถามว่า มีการมองประเด็นข้อกฎหมายไม่ตรงกันเรื่องการทำให้คดีนี้กลายเป็นโมฆะ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นักกฎหมายฟังไว้เถอะ เรียนมาด้วยกันทะเลาะกันทุกคืน มันไม่เหมือนกันหรอก ไม่เช่นนั้นจะมี 3 ศาลเหรอ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา มันเป็นไปได้ทั้งนั้น เมื่อถามย้ำว่า ศาลฎีกาเป็นศาลสูงในการตัดสิน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่แสดงความเห็น พอแล้ว เพราะอธิบายไปเยอะแล้ว ละเอียดถี่ถ้วน หากยังสงสัยก็ไปถามกันในสภา
**อ้างนักกฎหมายเห็นต่างทั่วโลก
“นักกฎหมายในโลกไม่มีเห็นเหมือนกันหรอก มันเป็นมุมมองที่แตกต่าง ตอนเรียนเวลาจะสอบ ท่องตำรา เถียงกัน คนนั้นบอกอย่างนี้ คนนี้บอกอย่างนั้น สุดท้ายก็อยู่ที่ธงของอาจารย์เขาตั้ง” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่ากรณีที่บอกว่าจากนี้ไปจะไม่พูดแล้ว เป็นเพราะมีใครกำชับให้พูดน้อยลงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีหรอก ตนไม่ใช่สายล่อฟ้า แต่ที่ไม่พูดเพราะพูดไปหมดแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า การบอกว่ารัฐบาลนี้ไม่เร่งรีบ แต่กระบวนการต่างๆได้เดินหน้าไปตลอด เช่น การตั้งคณะทำงานกลั่นกรองและตรวจสอบข้อเท็จจริงการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ผมไม่แสดงความเห็น เพราะผมไม่ได้เป็นคนตั้ง”
เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่เห็นด้วยกับคณะทำงานฯชุดนี้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ไม่ใช่ แค่ไม่แสดงความเห็น “เมื่อถามย้ำว่า ในฐานะที่ร.ต.อ.เฉลิม ดูแลเรื่องการขออภัยโทษโดยตรงมองอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ในเมื่อยังไม่เห็นเรื่องจะตอบได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายอภิสิทธิ์ ตอกย้ำเรื่องนี้บ่อยๆ อาจทำให้ประชาชนเชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “เขาไม่เชื่อหรอก ก็ที่เลือกกันมาเยอะๆก็เพราะเรื่องนี้ เขาเห็นว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมไปหาเสียงก็พูดมาตั้งแต่ปี 2552 โดยหลักการผมเป็นคนไม่หวั่นไหวนะ และผมมั่นใจว่าไม่ใช่นักการเมืองที่ทุจริตคอรัปชั่น ตอนนี้ก็ค่อนข้างเล่นการเมืองแบบสบายๆ”
**มั่วอภัยโทษทักษิณคน15ล้านให้เร่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่รัฐบาลพุ่งเป้าแต่เรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเดียว เรื่องอื่นไม่ทำอะไรเลย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ไม่ใช่หรอก ประชาชน 15 ล้านคนที่เขาเลือกมา และวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ ผมจะลงพื้นที่ไปจ.ศรีสะเกษ เพื่อไปขอบคุณประชาชน ไปแบบส่วนตัว"
**"นพดล"อัด"มาร์ค"ซ้ำซากเรื่อง"แม้ว"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. พรรคเพื่อไทยได้ส่งอีเมล์แถลงของนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กรณีการถวายฎีกา ถึงสื่อมวลชน โดยระบุว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ มุ่งโจมตีแบบแผ่นเสียงตกร่องว่ารัฐบาลเร่งช่วย พ.ต.ท. ทักษิณ แต่ไม่ช่วยประชาชน และการถวายฎีกาเป็นการทำลายนิติรัฐ
นายนพดล ระบุว่า เรื่องนี้ ตนขอชี้แจงว่า ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังเร่งช่วยพี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วม การดำเนินการยื่นถวายฎีกาไม่ใช่นโยบายและเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล แต่เป็นการดำเนินการที่ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้ว ที่พยายามประวิงและดองเรื่องนี้ไว้ โดยใช้เวลาเกือบ 3 ปีนับจำนวนคนแค่สองล้านคน เมื่อกรมราชฑัณฑ์นับเสร็จแล้ว ก็ทำเรื่องให้ล่าช้าอีกโดยส่งให้กรมการปกครองที่พรรคภูมิใจไทยดูแลตรวจสอบรายชื่ออีกครั้ง เรื่องนี้สังคมทราบดีว่ามีการหน่วงเรื่องไว้ จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และกรมราชฑัณฑ์ก็ได้เสนอเรื่องมาตามขั้นตอน
”การพิจารณาฎีกานั้น เป็นพระราชอำนาจที่บุคคลใดไม่อาจก้าวล่วงได้ และการดำเนินการลงชื่อ และดำเนินการถวายฎีกา ต้องทำตามกฎหมาย และตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจึงไม่สามารถทำผิดกฎหมายเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณได้ เพราะอาจถูกถอดถอนได้“นายนพดลระบุ
นายนพดล ระบุอีกว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามคัดค้านการถวายฎีกาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยประชาชนหลายล้านคนเป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะในการเลือกตั้งทั่วไปทุกครั้งในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนเลือกพรรคของ พ.ต.ท. ทักษิณ และที่ พ.ต.ท.ทักษิณสนับสนุนมาเข้ามาเป็นรัฐบาลโดยตลอด ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้รู้ว่า คดีที่ดินรัชดาที่ พ.ต.ท.ทักษิณลงชื่อให้ภรรยาไปประมูลซื้อที่ดินจากกองทุนฟื้นฟูนั้นเป็นการประมูลที่โปร่งใส ไม่มีการทุจริต และรัฐได้ประโยชน์จากราคาสูงสุด
"ผู้พิพากษา 4 ท่านตัดสินว่าไม่ผิด 5 ท่านตัดสินว่าผิด ซึ่งคะแนนก้ำกึ่งมาก คดีนี้เทียบไม่ได้เลยกับกรณีการสังหารหมู่ประชาชนในกรุงเทพฯเกือบร้อยศพและบาดเจ็บร่วมสองพันคน ที่ผู้กระทำความผิดยังไม่มีการรับผิดชอบใดๆ การอ่านหนังสืออย่าอ่านเฉพาะตอนจบในบทสุดท้าย ให้อ่านบทแรกด้วย คดีนี้เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารและการสอบสวนเรื่องนี้ก็ทำโดยศัตรูทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นมันจึงขัดกับหลักนิติธรรมโดยสิ้นเชิง ประชาชนส่วนใหญ่รู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ดี และเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเหยื่อของการรัฐประหาร ดังจะเห็นได้จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่ประชาชนไว้วางใจพรรคเพื่อไทยและชนะพรรคประชาธิปัตย์อย่างเด็ดขาด" นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์พร่ำพูดเรื่องนิติรัฐ ขอถามว่าการยึดอำนาจเป็นการทำลายหลักนิติรัฐหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อำนาจจากประชาชน และพวกเราไม่เคยเกาะท๊อปบูทเพื่อให้ได้อำนาจ หรือ เสพติดอำนาจ ถึงขนาดเป็นฝ่ายค้านแล้วยังเรียกตัวเองว่าเป็นรัฐมนตรีเงาทั้งๆที่ไม่มีที่ไหนในโลกเรียกกัน
**พท.จวก"ปชป."เก็บเงียบ3ล้านชื่อ
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการยื่นฏีกาขออภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวถูกนำมาใช้เป็นเกมทางการเมือง เนื่องจากขณะนี้ เรื่องดังกล่าวยังไม่มีการเสนอต่อรัฐบาลแต่อย่างใด อีกทั้งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เคยนำ 3 ล้านรายชื่อที่เคยร่วมถวายฎีกาไปขังไว้ในเรือนจำ และไม่ยอมดำเนินการ ส่งผลให้เกิดความล่าช้า ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนทุกอย่างอยู่ในกระบวนการของกระทรวงยุติธรรม ในการพิจารณาว่าฎีกาถูกต้องหรือไม่แล้ว ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการกล่าวหาว่าเพื่อไทยมีเจตนาช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นการเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น จึงขอให้รอดูความชัดเจนก่อน อย่าเอามาเป็นเกมทางการเมือง อีกทั้งเป็นห่วงว่าจะเข้าข่ายการกล่าวล่วงพระราชอำนาจ
**ฎีกา"นช.แม้ว"ใช้ ม.259 ญาติไม่เกี่ยว
นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ โฆษกกระทรวงย้ำถึง การยื่นถวายฎีกา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีมาถึงกระทรวงในขณะนี้ว่า เป็นการยื่นโดยอาศัยข้อกฎหมาย มาตรา 259 ซึ่งในรายละเอียดไม่ได้มีการบังคับว่า ผู้ยื่น ต้องเป็นญาติ ซึ่งถือเป็นความเข้าใจผิด กรณีนี้ให้ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นญาติก็ได้ ในกรณีนี้เป็นประชาชนจำนวน 2-3 ล้านคน ที่เป็นผู้ยื่น ส่วนมาตรา 260 นั้น เป็นคนละกรณีกัน ซึ่งกรณีญาติ หรือ ผู้สืบสันดานจะอยู่ใน มาตรา 265 ซึ่งไม่เกี่ยวกัน กรณีนี้จึงไม่มีรายชื่อใครที่เกี่ยวข้องทางสายเลือด พ.ต.ท.ทักษิณ ปรากฏ
ขณะที่ การสอบถามไปยัง คณะทำงานตรวจสอบฎีกาฯ ที่ถูกตั้งขึ้น โดยกระทรวงยุติธรรมนั้น ปรากฏว่า ไม่มีใครต้องการพูดถึงรายละเอียดในเรื่องการขอถวายฎีกาดังกล่าว โดยยืนยันว่า คณะทำงานให้ นายธงทอง จันทรางศุ เป็นผู้ชี้แจงเพียงคนเดียว ซึ่งจากการสอบถาม นายธงทอง ก็ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงรายละเอียด นอกเหนือจากที่ได้มีการแถลงแล้วด้วยเช่นกัน
**กมธ.ส.ว.เตรียมเรียกอธิบดีราชทัณฑ์แจง
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่าขณะนี้มี ส.ว.หลายคนได้แสดงความกังวลต่อประเด็นการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณที่มีแนวโน้มต่อการขัดต่อประเพณีปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการใช้เสียงประชาชน 2 ล้านชื่อ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ดีตนทราบข่าวมาว่าคณะกรรมการตรวจสอบศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถวายฎีกาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งนั้น ได้ตั้งธงไว้ว่าจะส่งฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษ โดยอ้างว่าไม่มีกฎหมายและประเพณีปฏิบัติห้ามส่งฎีกา ทั้งนี้ตนมีความกังวลว่าก่อนที่จะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น องคมนตรีในฐานะที่ปรึกษาของพระเจ้าอยู่หัว ต้องทัดทาน เพราะได้ทำผิดกติกา ซึ่งประเด็นนี้อาจมีกระบวนการที่จงใจทำลายสถาบันองคมนตรีเกิดขึ้นได้ ด้วยการนำมวลชนมากดดัน
"ส.ว. หลายคนกังวลใจ ในเรื่องมิบังควร และเบื้องต้นทราบว่าจะมีการเคลื่อนไหวของ ส.ว.หลายกลุ่มที่ไม่สบายใจ ในรูปแบบต่างๆ อาทิ หารือในที่ประชุมวุฒิสภา เสนอเป็นญัตติด่วนเข้าสู่ที่ประชุม และ กรรมาธิการฯ ของวุฒิสภาหลายคณะ เตรียมเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริงในประเด็นยื่นฎีกา โดยกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ผมเป็นประธาน ได้ทำหนังสือเชิญคุณชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มาให้ข้อมูลในวันที่ 15 ก.ย. นี้" นายสมชาย กล่าว
**เด็กปชป.ชี้ 6 เดือนระวังวิกฤติใหม่
นายอรรถพร พลบุตรส.ส.เพชรบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับวิกฤติการเมืองรอบใหม่ที่จะเกิดขึ้นภายใน 6 เดือนนี้ โดยมีสาเหตุมาจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยใช้อำนาจอย่างเกินขอบเขตเพื่อประโยชน์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจนเกินกว่าที่สังคมจะรับได้ ไม่ว่าจะเป็นการกดดันขอพระราชทานอภัยโทษ การรื้อฟื้นคดีที่ดินรัชดา การโยกย้ายข้าราชการที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งการตั้งผู้ต้องหาคดีร้ายแรงมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นโยบายหลักของรัฐบาล เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ300บาท การปรับเงินเดือนปริญญาตรี และการรับจำนำข้าว ล้วนแต่เป็นปัญหาที่กระทบเสถียรภาพของรัฐบาลได้ทั้งสิ้น เนื่องจากเป็นนโยบายประชานิยมแบบฉาบฉวยแก้บนที่รัฐบาลไม่สามารถทำได้ตามที่ประกาศหาเสียงไว้และยังสร้างปัญหาอื่นติดตามมา เช่น ภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพซึ่งจะกระทบต่อประชาชนอย่างรุนแรง
“ที่สำคัญที่สุดคือปัญหาที่มาจากตัวนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรเอง ที่ระยะ1เดือนที่ผ่านมา สังคมได้เห็นว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ไม่มีคุณสมบัติใดๆต่อการเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นขีดจำกัดของประสบการณ์ สติปัญญา วิสัยทัศน์ และภาวะผู้นำ นายกฯยิ่งลักษณ์จึงเป็นเพียงหุ่นโชว์ที่แสดงบทบาทไปตามบทที่ถูกกำหนดในแต่ละวัน นายกฯผู้นี้อาจจะแสดงปาฎิหาริย์ได้ในช่วงเวลา 49 วันในฐานะนางแบบของพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อชนะการเลือกตั้งปาฎิหาริย์นั้นก็หมดไป และประชาชนก็เผชิญกับความจริงที่ว่า วันนี้เมืองไทยมีนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หรือใครคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง”นายอรรถพรกล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวด้วยว่า ถ้ายังไม่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่เปลี่ยนเป้าหมายของการทำงาน รัฐบาลนี่จะพบกับการต่อต้านจากภาคส่วนต่างๆของสังคมมากขึ้นโดยฉพาะอย่างยิ่งจากเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการที่ไม่เหมาะสมของรัฐบาล และจะรุนแรงจนถึงขั้นปะทุออกมาภายใน 6 เดือน รัฐบาลอาจต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หรือเกิดวิกฤติการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่จะนำระบบการเมืองสู่ความสมดุลมากขึ้น
**เด็จพี่ ฉะมารค์ความจำสั้นย้ายใครไม่รู้
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ระดับ 11 อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เตรียมจะยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) วันที่ 12 ก.ย.นี้ว่า เรื่องนี้ถูกทางพรรคฝ่ายค้านออกมาโจมตีว่ารัฐบาลมีการใช้อนาจกล้นแกล้งข้าราชการประจำ ซึ่งตนมองว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเป็นโรคความจสั่น เพราะตัวเองก็เคยทำมาในยุคที่ได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน และการโยกย้ายหลาย ๆ ครั้งอยู่ในข้าราชระดับซี 11 ก็โดนโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรมในหลาย ๆ ครั้ง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนมองว่าการโยกย้ายเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องปกติที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีสามารถทำได้ เพราะอยู่ในอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินตามมาตรา 11(4) ตนอยากจะฝากไปถึงนายถวิลว่าอย่าเดินไปเข้าเกมของพรรคประชาธิปัตย์ที่หวังว่าจะปลุกระดมข้าราชการมาต่อต้านการบริหารของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ตนยังอยากจะให้พรรคประชาธิปตย์หยุดออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ และให้มีการทำงานแบบตรวจสอบให้เกิดความสร้างสรรค์มากกว่านี้
**อัดนักวิชาการอ้างปูอ่อนหัด
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ออกมาวิจารณ์การทำงานของ ยิ่งลักษณ์ ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีฝึกหัดนั้น ว่า ตนคิดว่าการวิจารณ์เช่นนี้น่าจะแฝงไปด้วยความอคติ เพราะรู้อยู่แล้วว่า เป็นนักวิชาการที่เลือกข้าง ซึ่งการออกมาวิจารณ์เช่นนี้ไม่มีความเป็นธรรมต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ และไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเลย ตนจึงมอกว่าเรื่องนี้เป็นเพียงการดิสเครดิตรัฐบาล และเป็นเพียงเรื่องไร้สาระเท่านั้น อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์ทุกเรื่อง แต่ต้องเป็นไปอย่างมีหลักการ และก่อให้เกิดประโยชน์
**“ปู”ดองโผทหารอีกสัปดาห์
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าของรายชื่อการโยย้ายนายทหารที่จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าได้ภายในสัปดาห์หน้าหรือไม่ ว่า “เดี๋ยวก่อนค่ะ กำลังเร่งอยู่แล้ว แต่ดิฉันยังไม่ได้เข้าไปทำงานเลย แต่คงจะเร่งดำเนินการให้.
วานนี้ (11 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสคนในครอบครัวชินวัตรเตรียมฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชายและนักโทษหนีคดีว่า “ยังไม่ได้สั่งอะไร และยังไม่มีประเด็นอะไรด้วย”
**"เฉลิม"ปิดปากไม่พูดรื้อคดีรัชดา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์วิจารณ์ว่ารัฐบาลสองมาตรฐาน โดยเฉพาะการพยายามรื้อคดีที่ดินรัชดาภิเษกขึ้นมาใหม่ ว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านและเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในและนอกสภาก็ได้ และหากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังข้องใจสงสัยก็ตั้งกระทู้สด ยื่นญัตติ หรือนำไปสู่การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ได้ ได้ชี้แจงเรื่องนี้ไปหมดแล้ว อีกทั้งยังมีนักวิชาการที่ออกรายการทางเอเอสทีวี และนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกอัยการสูงสุด ก็ชี้แจงชัดเจน ตนไม่จำเป็นต้องพูดอีก
เมื่อถามว่า มีการมองประเด็นข้อกฎหมายไม่ตรงกันเรื่องการทำให้คดีนี้กลายเป็นโมฆะ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นักกฎหมายฟังไว้เถอะ เรียนมาด้วยกันทะเลาะกันทุกคืน มันไม่เหมือนกันหรอก ไม่เช่นนั้นจะมี 3 ศาลเหรอ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา มันเป็นไปได้ทั้งนั้น เมื่อถามย้ำว่า ศาลฎีกาเป็นศาลสูงในการตัดสิน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่แสดงความเห็น พอแล้ว เพราะอธิบายไปเยอะแล้ว ละเอียดถี่ถ้วน หากยังสงสัยก็ไปถามกันในสภา
**อ้างนักกฎหมายเห็นต่างทั่วโลก
“นักกฎหมายในโลกไม่มีเห็นเหมือนกันหรอก มันเป็นมุมมองที่แตกต่าง ตอนเรียนเวลาจะสอบ ท่องตำรา เถียงกัน คนนั้นบอกอย่างนี้ คนนี้บอกอย่างนั้น สุดท้ายก็อยู่ที่ธงของอาจารย์เขาตั้ง” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่ากรณีที่บอกว่าจากนี้ไปจะไม่พูดแล้ว เป็นเพราะมีใครกำชับให้พูดน้อยลงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีหรอก ตนไม่ใช่สายล่อฟ้า แต่ที่ไม่พูดเพราะพูดไปหมดแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า การบอกว่ารัฐบาลนี้ไม่เร่งรีบ แต่กระบวนการต่างๆได้เดินหน้าไปตลอด เช่น การตั้งคณะทำงานกลั่นกรองและตรวจสอบข้อเท็จจริงการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ผมไม่แสดงความเห็น เพราะผมไม่ได้เป็นคนตั้ง”
เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่เห็นด้วยกับคณะทำงานฯชุดนี้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ไม่ใช่ แค่ไม่แสดงความเห็น “เมื่อถามย้ำว่า ในฐานะที่ร.ต.อ.เฉลิม ดูแลเรื่องการขออภัยโทษโดยตรงมองอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ในเมื่อยังไม่เห็นเรื่องจะตอบได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายอภิสิทธิ์ ตอกย้ำเรื่องนี้บ่อยๆ อาจทำให้ประชาชนเชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “เขาไม่เชื่อหรอก ก็ที่เลือกกันมาเยอะๆก็เพราะเรื่องนี้ เขาเห็นว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมไปหาเสียงก็พูดมาตั้งแต่ปี 2552 โดยหลักการผมเป็นคนไม่หวั่นไหวนะ และผมมั่นใจว่าไม่ใช่นักการเมืองที่ทุจริตคอรัปชั่น ตอนนี้ก็ค่อนข้างเล่นการเมืองแบบสบายๆ”
**มั่วอภัยโทษทักษิณคน15ล้านให้เร่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่รัฐบาลพุ่งเป้าแต่เรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเดียว เรื่องอื่นไม่ทำอะไรเลย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ไม่ใช่หรอก ประชาชน 15 ล้านคนที่เขาเลือกมา และวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ ผมจะลงพื้นที่ไปจ.ศรีสะเกษ เพื่อไปขอบคุณประชาชน ไปแบบส่วนตัว"
**"นพดล"อัด"มาร์ค"ซ้ำซากเรื่อง"แม้ว"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. พรรคเพื่อไทยได้ส่งอีเมล์แถลงของนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กรณีการถวายฎีกา ถึงสื่อมวลชน โดยระบุว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ มุ่งโจมตีแบบแผ่นเสียงตกร่องว่ารัฐบาลเร่งช่วย พ.ต.ท. ทักษิณ แต่ไม่ช่วยประชาชน และการถวายฎีกาเป็นการทำลายนิติรัฐ
นายนพดล ระบุว่า เรื่องนี้ ตนขอชี้แจงว่า ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังเร่งช่วยพี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วม การดำเนินการยื่นถวายฎีกาไม่ใช่นโยบายและเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล แต่เป็นการดำเนินการที่ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้ว ที่พยายามประวิงและดองเรื่องนี้ไว้ โดยใช้เวลาเกือบ 3 ปีนับจำนวนคนแค่สองล้านคน เมื่อกรมราชฑัณฑ์นับเสร็จแล้ว ก็ทำเรื่องให้ล่าช้าอีกโดยส่งให้กรมการปกครองที่พรรคภูมิใจไทยดูแลตรวจสอบรายชื่ออีกครั้ง เรื่องนี้สังคมทราบดีว่ามีการหน่วงเรื่องไว้ จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และกรมราชฑัณฑ์ก็ได้เสนอเรื่องมาตามขั้นตอน
”การพิจารณาฎีกานั้น เป็นพระราชอำนาจที่บุคคลใดไม่อาจก้าวล่วงได้ และการดำเนินการลงชื่อ และดำเนินการถวายฎีกา ต้องทำตามกฎหมาย และตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจึงไม่สามารถทำผิดกฎหมายเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณได้ เพราะอาจถูกถอดถอนได้“นายนพดลระบุ
นายนพดล ระบุอีกว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามคัดค้านการถวายฎีกาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยประชาชนหลายล้านคนเป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะในการเลือกตั้งทั่วไปทุกครั้งในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนเลือกพรรคของ พ.ต.ท. ทักษิณ และที่ พ.ต.ท.ทักษิณสนับสนุนมาเข้ามาเป็นรัฐบาลโดยตลอด ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้รู้ว่า คดีที่ดินรัชดาที่ พ.ต.ท.ทักษิณลงชื่อให้ภรรยาไปประมูลซื้อที่ดินจากกองทุนฟื้นฟูนั้นเป็นการประมูลที่โปร่งใส ไม่มีการทุจริต และรัฐได้ประโยชน์จากราคาสูงสุด
"ผู้พิพากษา 4 ท่านตัดสินว่าไม่ผิด 5 ท่านตัดสินว่าผิด ซึ่งคะแนนก้ำกึ่งมาก คดีนี้เทียบไม่ได้เลยกับกรณีการสังหารหมู่ประชาชนในกรุงเทพฯเกือบร้อยศพและบาดเจ็บร่วมสองพันคน ที่ผู้กระทำความผิดยังไม่มีการรับผิดชอบใดๆ การอ่านหนังสืออย่าอ่านเฉพาะตอนจบในบทสุดท้าย ให้อ่านบทแรกด้วย คดีนี้เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารและการสอบสวนเรื่องนี้ก็ทำโดยศัตรูทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นมันจึงขัดกับหลักนิติธรรมโดยสิ้นเชิง ประชาชนส่วนใหญ่รู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ดี และเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเหยื่อของการรัฐประหาร ดังจะเห็นได้จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่ประชาชนไว้วางใจพรรคเพื่อไทยและชนะพรรคประชาธิปัตย์อย่างเด็ดขาด" นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์พร่ำพูดเรื่องนิติรัฐ ขอถามว่าการยึดอำนาจเป็นการทำลายหลักนิติรัฐหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อำนาจจากประชาชน และพวกเราไม่เคยเกาะท๊อปบูทเพื่อให้ได้อำนาจ หรือ เสพติดอำนาจ ถึงขนาดเป็นฝ่ายค้านแล้วยังเรียกตัวเองว่าเป็นรัฐมนตรีเงาทั้งๆที่ไม่มีที่ไหนในโลกเรียกกัน
**พท.จวก"ปชป."เก็บเงียบ3ล้านชื่อ
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการยื่นฏีกาขออภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวถูกนำมาใช้เป็นเกมทางการเมือง เนื่องจากขณะนี้ เรื่องดังกล่าวยังไม่มีการเสนอต่อรัฐบาลแต่อย่างใด อีกทั้งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เคยนำ 3 ล้านรายชื่อที่เคยร่วมถวายฎีกาไปขังไว้ในเรือนจำ และไม่ยอมดำเนินการ ส่งผลให้เกิดความล่าช้า ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนทุกอย่างอยู่ในกระบวนการของกระทรวงยุติธรรม ในการพิจารณาว่าฎีกาถูกต้องหรือไม่แล้ว ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการกล่าวหาว่าเพื่อไทยมีเจตนาช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นการเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น จึงขอให้รอดูความชัดเจนก่อน อย่าเอามาเป็นเกมทางการเมือง อีกทั้งเป็นห่วงว่าจะเข้าข่ายการกล่าวล่วงพระราชอำนาจ
**ฎีกา"นช.แม้ว"ใช้ ม.259 ญาติไม่เกี่ยว
นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ โฆษกกระทรวงย้ำถึง การยื่นถวายฎีกา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีมาถึงกระทรวงในขณะนี้ว่า เป็นการยื่นโดยอาศัยข้อกฎหมาย มาตรา 259 ซึ่งในรายละเอียดไม่ได้มีการบังคับว่า ผู้ยื่น ต้องเป็นญาติ ซึ่งถือเป็นความเข้าใจผิด กรณีนี้ให้ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นญาติก็ได้ ในกรณีนี้เป็นประชาชนจำนวน 2-3 ล้านคน ที่เป็นผู้ยื่น ส่วนมาตรา 260 นั้น เป็นคนละกรณีกัน ซึ่งกรณีญาติ หรือ ผู้สืบสันดานจะอยู่ใน มาตรา 265 ซึ่งไม่เกี่ยวกัน กรณีนี้จึงไม่มีรายชื่อใครที่เกี่ยวข้องทางสายเลือด พ.ต.ท.ทักษิณ ปรากฏ
ขณะที่ การสอบถามไปยัง คณะทำงานตรวจสอบฎีกาฯ ที่ถูกตั้งขึ้น โดยกระทรวงยุติธรรมนั้น ปรากฏว่า ไม่มีใครต้องการพูดถึงรายละเอียดในเรื่องการขอถวายฎีกาดังกล่าว โดยยืนยันว่า คณะทำงานให้ นายธงทอง จันทรางศุ เป็นผู้ชี้แจงเพียงคนเดียว ซึ่งจากการสอบถาม นายธงทอง ก็ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงรายละเอียด นอกเหนือจากที่ได้มีการแถลงแล้วด้วยเช่นกัน
**กมธ.ส.ว.เตรียมเรียกอธิบดีราชทัณฑ์แจง
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่าขณะนี้มี ส.ว.หลายคนได้แสดงความกังวลต่อประเด็นการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณที่มีแนวโน้มต่อการขัดต่อประเพณีปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการใช้เสียงประชาชน 2 ล้านชื่อ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ดีตนทราบข่าวมาว่าคณะกรรมการตรวจสอบศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถวายฎีกาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งนั้น ได้ตั้งธงไว้ว่าจะส่งฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษ โดยอ้างว่าไม่มีกฎหมายและประเพณีปฏิบัติห้ามส่งฎีกา ทั้งนี้ตนมีความกังวลว่าก่อนที่จะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น องคมนตรีในฐานะที่ปรึกษาของพระเจ้าอยู่หัว ต้องทัดทาน เพราะได้ทำผิดกติกา ซึ่งประเด็นนี้อาจมีกระบวนการที่จงใจทำลายสถาบันองคมนตรีเกิดขึ้นได้ ด้วยการนำมวลชนมากดดัน
"ส.ว. หลายคนกังวลใจ ในเรื่องมิบังควร และเบื้องต้นทราบว่าจะมีการเคลื่อนไหวของ ส.ว.หลายกลุ่มที่ไม่สบายใจ ในรูปแบบต่างๆ อาทิ หารือในที่ประชุมวุฒิสภา เสนอเป็นญัตติด่วนเข้าสู่ที่ประชุม และ กรรมาธิการฯ ของวุฒิสภาหลายคณะ เตรียมเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริงในประเด็นยื่นฎีกา โดยกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ผมเป็นประธาน ได้ทำหนังสือเชิญคุณชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มาให้ข้อมูลในวันที่ 15 ก.ย. นี้" นายสมชาย กล่าว
**เด็กปชป.ชี้ 6 เดือนระวังวิกฤติใหม่
นายอรรถพร พลบุตรส.ส.เพชรบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับวิกฤติการเมืองรอบใหม่ที่จะเกิดขึ้นภายใน 6 เดือนนี้ โดยมีสาเหตุมาจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยใช้อำนาจอย่างเกินขอบเขตเพื่อประโยชน์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจนเกินกว่าที่สังคมจะรับได้ ไม่ว่าจะเป็นการกดดันขอพระราชทานอภัยโทษ การรื้อฟื้นคดีที่ดินรัชดา การโยกย้ายข้าราชการที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งการตั้งผู้ต้องหาคดีร้ายแรงมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นโยบายหลักของรัฐบาล เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ300บาท การปรับเงินเดือนปริญญาตรี และการรับจำนำข้าว ล้วนแต่เป็นปัญหาที่กระทบเสถียรภาพของรัฐบาลได้ทั้งสิ้น เนื่องจากเป็นนโยบายประชานิยมแบบฉาบฉวยแก้บนที่รัฐบาลไม่สามารถทำได้ตามที่ประกาศหาเสียงไว้และยังสร้างปัญหาอื่นติดตามมา เช่น ภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพซึ่งจะกระทบต่อประชาชนอย่างรุนแรง
“ที่สำคัญที่สุดคือปัญหาที่มาจากตัวนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรเอง ที่ระยะ1เดือนที่ผ่านมา สังคมได้เห็นว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ไม่มีคุณสมบัติใดๆต่อการเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นขีดจำกัดของประสบการณ์ สติปัญญา วิสัยทัศน์ และภาวะผู้นำ นายกฯยิ่งลักษณ์จึงเป็นเพียงหุ่นโชว์ที่แสดงบทบาทไปตามบทที่ถูกกำหนดในแต่ละวัน นายกฯผู้นี้อาจจะแสดงปาฎิหาริย์ได้ในช่วงเวลา 49 วันในฐานะนางแบบของพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อชนะการเลือกตั้งปาฎิหาริย์นั้นก็หมดไป และประชาชนก็เผชิญกับความจริงที่ว่า วันนี้เมืองไทยมีนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หรือใครคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง”นายอรรถพรกล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวด้วยว่า ถ้ายังไม่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่เปลี่ยนเป้าหมายของการทำงาน รัฐบาลนี่จะพบกับการต่อต้านจากภาคส่วนต่างๆของสังคมมากขึ้นโดยฉพาะอย่างยิ่งจากเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการที่ไม่เหมาะสมของรัฐบาล และจะรุนแรงจนถึงขั้นปะทุออกมาภายใน 6 เดือน รัฐบาลอาจต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หรือเกิดวิกฤติการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่จะนำระบบการเมืองสู่ความสมดุลมากขึ้น
**เด็จพี่ ฉะมารค์ความจำสั้นย้ายใครไม่รู้
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ระดับ 11 อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เตรียมจะยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) วันที่ 12 ก.ย.นี้ว่า เรื่องนี้ถูกทางพรรคฝ่ายค้านออกมาโจมตีว่ารัฐบาลมีการใช้อนาจกล้นแกล้งข้าราชการประจำ ซึ่งตนมองว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเป็นโรคความจสั่น เพราะตัวเองก็เคยทำมาในยุคที่ได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน และการโยกย้ายหลาย ๆ ครั้งอยู่ในข้าราชระดับซี 11 ก็โดนโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรมในหลาย ๆ ครั้ง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนมองว่าการโยกย้ายเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องปกติที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีสามารถทำได้ เพราะอยู่ในอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินตามมาตรา 11(4) ตนอยากจะฝากไปถึงนายถวิลว่าอย่าเดินไปเข้าเกมของพรรคประชาธิปัตย์ที่หวังว่าจะปลุกระดมข้าราชการมาต่อต้านการบริหารของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ตนยังอยากจะให้พรรคประชาธิปตย์หยุดออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ และให้มีการทำงานแบบตรวจสอบให้เกิดความสร้างสรรค์มากกว่านี้
**อัดนักวิชาการอ้างปูอ่อนหัด
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ออกมาวิจารณ์การทำงานของ ยิ่งลักษณ์ ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีฝึกหัดนั้น ว่า ตนคิดว่าการวิจารณ์เช่นนี้น่าจะแฝงไปด้วยความอคติ เพราะรู้อยู่แล้วว่า เป็นนักวิชาการที่เลือกข้าง ซึ่งการออกมาวิจารณ์เช่นนี้ไม่มีความเป็นธรรมต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ และไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเลย ตนจึงมอกว่าเรื่องนี้เป็นเพียงการดิสเครดิตรัฐบาล และเป็นเพียงเรื่องไร้สาระเท่านั้น อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์ทุกเรื่อง แต่ต้องเป็นไปอย่างมีหลักการ และก่อให้เกิดประโยชน์
**“ปู”ดองโผทหารอีกสัปดาห์
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าของรายชื่อการโยย้ายนายทหารที่จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าได้ภายในสัปดาห์หน้าหรือไม่ ว่า “เดี๋ยวก่อนค่ะ กำลังเร่งอยู่แล้ว แต่ดิฉันยังไม่ได้เข้าไปทำงานเลย แต่คงจะเร่งดำเนินการให้.