นครพนม-ขบวนการค้าสุนัขยังเย้ยกฏหมาย จับได้อีกที่อ”บ้านแพง สุนัขซุกกระสอบเตรียมส่งเวียดนาม อส.ตำรวจ สกัดจับทัน คราวนี้ได้ของกลางกว่า 100 ตัว จังหวัดสั่งปราบปรามเข้ม เผยยอดค่าใช้จ่ายดูแลสุนัขที่ด่านกักกันตกวันละร่วม 5 หมื่นบาท แต่ยอดบริจาคได้แล้วกว่า 20 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ( 6 ก.ย.) นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้สั่งการให้ นายเชิดพันธ์ ผลวิเชียร ผบ.ร้อย อาสารักษาดินแดนที่ 1 นครพนม ประสานงานร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแพง วางแผนสกัดจับกุมขบวนการลักลอบค้าสุนัขข้ามชาติ หลังจากได้รับรายงานว่าจะมีการลักลอบนำสุนัข ส่งข้ามไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งที่จังหวัดมีการระดมคุมเข้มปราบปรามจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง
จากการวางแผนสกัดจับดังกล่าว สามารถจับกุม นายอิสรพงษ์ แสนคำผาย อายุ 24 ปี ชาว ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม พร้อม นายเสิน เหรียนวัน อายุ 23 ปี ชาวเวียดนาม พร้อมรถยนต์ กระบะโตโยต้า ไทเกอร์ สีเทา บต- 9413 สกลนคร และ รถยนต์กระบะ เชฟโรเลต สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บธ - 7815 สกลนคร ขณะกำลังลำเลียงขนสุนัข จำนวน 114 ตัว ที่บรรจุใส่กระสอบปุ๋ย บรรทุกในรถ เตรียมนำลงเรือริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านโพธิ์ไทร ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม เพื่อส่งข้ามแม่น้ำโขงไปขายยังประเทศเวียดนาม แต่เจ้าหน้าที่สกัดจับกุมได้เสียก่อน
จากนั้นจึงได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสุนัขทั้งหมดรอดชีวิต จำนวน 89 ตัว ตายไป 25 ตัว จึงได้นำส่งไปดูแลรักษาไว้ที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม
เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุน ทำหน้าที่ขนสุนัขมาลงเรือ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน นายสมดี คชายั่งยืน รอง ผวจ.นครพนม ที่ดูแลรับผิดชอบการช่วยเหลือสุนัข กล่าวว่า การลักลอบขนส่งสุนัขครั้งนี้ ถือเป็นการท้าทายการปราบปรามเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก โดยนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้สั่งการให้ อส. ร่วมกับตำรวจ เฝ้าระวังสกัดกั้นปราบปรามจับกุมต่อเนื่อง จนกระทั่งสามารถจับกุมตรวจยึดได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าขบวนการเหล่านี้ไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะมูลค่าสุนัขหากถึงมือผู้ซื้อเป็นเงินค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามในพื้นที่นครพนม จะไม่ให้มีการลักลอบค้าสุนัขเด็ดขาด
สำหรับการดูแลสุนัขที่เหลือ ทางกองทุนสุนัขกำลังเร่งปรับปรุงสถานที่ไว้ดูแลสุนัข ให้มีความสะอาด ได้มาตรฐานมากที่สุด ขณะนี้มีสุนัขที่เหลือในด่านกักกันสัตว์ ทั้งสิ้น 828 ตัว ตายไปทั้งหมด 273 ตัว และตรวจยึดมาเพิ่มอีก จำนวน 89 ตัว รวมเป็น 917 ตัว
ส่วนยอดการบริจาคกองทุนช่วยเหลือสุนัขมีจำนวน 20.9 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละวันจะต้องมีค่าใช้จ่ายดูแลอาหารสุนัข รวมถึงยาเวชภัณฑ์ต่างๆ ประมาณ วันละ 50,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ( 6 ก.ย.) นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้สั่งการให้ นายเชิดพันธ์ ผลวิเชียร ผบ.ร้อย อาสารักษาดินแดนที่ 1 นครพนม ประสานงานร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแพง วางแผนสกัดจับกุมขบวนการลักลอบค้าสุนัขข้ามชาติ หลังจากได้รับรายงานว่าจะมีการลักลอบนำสุนัข ส่งข้ามไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งที่จังหวัดมีการระดมคุมเข้มปราบปรามจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง
จากการวางแผนสกัดจับดังกล่าว สามารถจับกุม นายอิสรพงษ์ แสนคำผาย อายุ 24 ปี ชาว ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม พร้อม นายเสิน เหรียนวัน อายุ 23 ปี ชาวเวียดนาม พร้อมรถยนต์ กระบะโตโยต้า ไทเกอร์ สีเทา บต- 9413 สกลนคร และ รถยนต์กระบะ เชฟโรเลต สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บธ - 7815 สกลนคร ขณะกำลังลำเลียงขนสุนัข จำนวน 114 ตัว ที่บรรจุใส่กระสอบปุ๋ย บรรทุกในรถ เตรียมนำลงเรือริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านโพธิ์ไทร ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม เพื่อส่งข้ามแม่น้ำโขงไปขายยังประเทศเวียดนาม แต่เจ้าหน้าที่สกัดจับกุมได้เสียก่อน
จากนั้นจึงได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสุนัขทั้งหมดรอดชีวิต จำนวน 89 ตัว ตายไป 25 ตัว จึงได้นำส่งไปดูแลรักษาไว้ที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม
เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุน ทำหน้าที่ขนสุนัขมาลงเรือ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน นายสมดี คชายั่งยืน รอง ผวจ.นครพนม ที่ดูแลรับผิดชอบการช่วยเหลือสุนัข กล่าวว่า การลักลอบขนส่งสุนัขครั้งนี้ ถือเป็นการท้าทายการปราบปรามเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก โดยนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้สั่งการให้ อส. ร่วมกับตำรวจ เฝ้าระวังสกัดกั้นปราบปรามจับกุมต่อเนื่อง จนกระทั่งสามารถจับกุมตรวจยึดได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าขบวนการเหล่านี้ไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะมูลค่าสุนัขหากถึงมือผู้ซื้อเป็นเงินค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามในพื้นที่นครพนม จะไม่ให้มีการลักลอบค้าสุนัขเด็ดขาด
สำหรับการดูแลสุนัขที่เหลือ ทางกองทุนสุนัขกำลังเร่งปรับปรุงสถานที่ไว้ดูแลสุนัข ให้มีความสะอาด ได้มาตรฐานมากที่สุด ขณะนี้มีสุนัขที่เหลือในด่านกักกันสัตว์ ทั้งสิ้น 828 ตัว ตายไปทั้งหมด 273 ตัว และตรวจยึดมาเพิ่มอีก จำนวน 89 ตัว รวมเป็น 917 ตัว
ส่วนยอดการบริจาคกองทุนช่วยเหลือสุนัขมีจำนวน 20.9 ล้านบาท ซึ่งในแต่ละวันจะต้องมีค่าใช้จ่ายดูแลอาหารสุนัข รวมถึงยาเวชภัณฑ์ต่างๆ ประมาณ วันละ 50,000 บาท