นครพนม - อดีต รมว.คลัง ควง อดีต รมช.เกษตรฯ เยี่ยมเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสุนัข นครพนม เผยเห็นด้วยกับการปราบปรามขบวนการค้าสุนัข พร้อมผลักดันออกกฎหมายที่รุนแรงมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการค้าสุนัขเชิงพาณิชย์ระยะยาว ขณะที่การดูแลฟื้นฟูสุนัขของกลางพบไวรัสระบาด เสี่ยงตายกว่า 70 ตัว
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (9 ก.ย.) ที่จังหวัดนครพนม นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองนายกเงาของพรรคฝ่ายค้านประชาธิปัตย์ พร้อมครอบครัว และ นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสุนัขนครพนม ที่ดูแลของกลางสุนัขที่ตรวจยึดมาจากการลักลอบค้าสุนัข ส่งไปขายยังประเทศเวียดนาม เพื่อเป็นการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และรับทราบปัญหาต่างๆ ในการดำเนินงาน ที่จะนำไปเสนอต่อหน่วยงานเกี่ยวข้อง และรัฐบาลหาทางมาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่อไป
นายไพรัช ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งปรับปรุงสภาพแวดล้อม โรงเรือนขังสุนัข ให้มีความมาตรฐาน สะอาด ลดปัญหาแออัด ที่จะส่งผลต่อการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ส่งผลต่อสุนัขของกลางทยอยตาย และในการดูแลได้มีการจัดเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง มาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนดูแลสุขภาพสุนัขให้รอดชีวิตมากที่สุด
ส่วนปัญหาขณะนี้ พบว่า มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของโรคไข้หัดสุนัข ไวรัสทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจระบาด ทำให้สุนัขทยอยตายรายวัน ล่าสุดเหลือยอดสุนัขทั้งหมด จำนวน 920 ตัว ตายสะสมรวม 296 ตัว มีสุนัขป่วยติดเชื้อเสี่ยงตายเพิ่มจาก 50 ตัว เป็น 79 ตัว ที่ต้องเร่งให้การรักษา
นายกรณ์ จาติกวณิช รองนายกเงาของพรรคฝ่ายค้านประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่ตน และครอบครัว ได้มาตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม ที่ดูแลสุนัขของกลาง ซึ่งตนและครอบครัวก็มีใจรักสุนัข อยู่แล้ว โดยทราบข่าวว่า หลังจากมีการตรวจยึด ได้มีประชาชนบริจาคช่วยเหลือจำนวนมาก เป็นเงินกว่า 22 ล้าน
แต่ก็ยังมีอุปสรรคปัญหาในการดูแลอีกหลายด้าน ที่ต้องมาพูดคุยหารือกับหัวหน้าส่วน และเจ้าหน้าที่ เพื่อนำปัญหาไปเสนอหน่วยงานเกี่ยวข้องมาช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากในการดูแลจะต้องใช้เวลาอีกนาน
ส่วนปัญหาส่วนใหญ่ที่ต้องปรับปรุง คือ เรื่องสถานที่โรงเรือน ที่แออัดทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคตามมา จึงต้องมีการนำเสนอต่อภาครัฐที่ต้องจัดงบประมาณมาดูแลช่วยเหลือ เพื่อเติมจากการบริจาค ซึ่งอาจไม่เพียงพอ
สำหรับการปราบปรามขบวนการค้าสุนัขถือว่าเป็นเรื่องดี เนื่องจากการค้าสุนัขถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่อาจมีปัญหาเรื่องบทการลงโทษไม่รุนแรง จึงส่งผลต่อการลักลอบค้าจำนวนมาก ที่ต้องหาทางผลักดัน ให้รัฐบาลมีการออกกฎหมายที่เข้มข้นขึ้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ซึ่งตนจะได้นำปัญหาต่างๆ เสนอผลักดันให้ภาครัฐเข้ามาดูแล แก้ปัญหาต่อไป
ทางด้าน นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวยอมรับว่าการค้าสุนัขนั้นขัดต่อความรู้สึกของคนไทยมาก เพราะคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ยอมรับในการนำสุนัข มาทำเป็นอาหารเชิงพาณิชย์ ความจริงการปราบปรามจับกุมควรทำมาตั้งนานแล้ว และควรมีความเข้มข้น ต่อเนื่องมากขึ้น จะสามารถแก้ไขปัญหาการลักลอบค้าได้อย่างแน่นอน
ซึ่งจังหวัดนครพนม ต้องยอมรับว่า เป็นเพียงเส้นทางผ่านเท่านั้น และเมื่อมีการจับกุมตรวจยึด ต้องเป็นภาระในการดูแลเลี้ยงดู ที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ถาวร ส่วนการปราบปรามนั้น เชื่อว่าสามารถทำได้ เพราะกระทบกับคนบางส่วนเท่านั้น ไม่ได้เป็นอาชีพของคนส่วนใหญ่
และในส่วนที่เป็นปัญหาของกลุ่มผู้ค้าสุนัขซึ่งอ้างว่ามีภาระหนี้สินนั้นทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย ในการเข้าไปดูแล ช่วยเหลือในส่วนหนี้สิน รวมถึงส่งเสริมอาชีพ
โดยเฉพาะอาชีพการเกษตร ปลูกยางพารา ก็ถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้มหาศาล จึงถือเป็นเรื่องดีที่จะได้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ให้การค้าสุนัขหมดไป