xs
xsm
sm
md
lg

แบ่งเค้กปธ.กมธ.วุ่น! “พท.อีสาน”ขู่ ต้อง 9 คณะ "เสี่ยอ่าง"แจมขอ1ที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (31 ส.ค) ที่รัฐสภา นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธารสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ได้เป็นประธานในการประชุมร่วมกันระหว่างพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาการแบ่งสัดส่วนตำแหน่งประธานกรรมาธิการ สามัญ ของสภาฯทั้ง 35 คณะ โดยมีผู้แทนจากทุกพรรคการเมืองเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 3 หลังจากไม่ได้ข้อยุติในการประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมา โดยนายเจริญได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงวาระการประชุมที่จะเป็นการพิจารณาวิธีการเลือกประธานกรรมาธิการของแต่ละพรรค หลังจากได้ข้อสรุปในเรื่องของสัดส่วนเป็นที่เรียบร้อย โดยพรรคเพื่อไทยได้ประธานกรรมาธิการ 19 คณะ พรรคประชาธิปัตย์ 11 คณะ พรรคภูมิใจไทย 2 คณะ โดยพรรคมหาชนขอนำตัวเลขสัดส่วนรวมกับพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคพลังชลนำตัวเลขสัดส่วนรวมกับพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ทำให้ทั้ง 2 กลุ่มได้กลุ่มละ 1 คณะ ส่วนพรรครักประเทศไทย พรรคมาตุภูมิ และพรรครักษ์สันติ ที่รวมกลุ่มกันนั้นไม่ได้เก้าอี้ประธานกรรมาธิการแต่อย่างใด
โดยช่วงต้นของการประชุม นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ได้สอบถามนายเจริญถึงกรณีหนังสือการยืนยันร่วมเป็นกบลุ่มการเมืองของ 3 พรรค ได้แก่ พรรครักประเทศไทย พรรคมาตุภูมิ และพรรครักษ์สันติ ที่จะมารวมกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อขอให้ทบทวนการแบ่งสัดส่วนกรรมาธิการใหม่อีกครั้ง
แต่นายเจริญในฐานะประธานในที่ประชุมได้กล่าวว่า ตนยังไม่ได้เห็นตัวหนังสือ คาดว่าอยู่ในชั้นของเจ้าหน้าที่ธุรการ อย่างไรก็ตามเรื่องสัดส่วนตำแหน่งกรรมาธิการได้พิจารณาเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่การประชุมครั้งที่แล้ว เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ซึ่งในตอนนั้นตัวแทนของทุกพรรคการเมืองก็ได้ร่วมเป็นพยาน และตนได้สอบถามความสมัครใจของแต่ละพรรค จนได้ข้อยุติแล้ว จึงเห็นว่าไม่สมควรที่จะกลับไปทบทวนหรือมีวิธีคิดขึ้นมาใหม่ และให้กระบวนการเดินหน้าได้ต่อไป
ด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ตนเห็นว่ากระบวนการจัดสรรกรรมาธิการยังไม่ถึงที่สุด จึงคิดว่าสามารถทบทวนได้ และไม่ได้ส่งผลเสียกับฝ่ายใด ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคเล็กได้มีบทบาทในการทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารผ่านกลไกกรรมาธิการของสภาฯ จึงเห็นว่าพรรคเพื่อไทยควรที่จะแบ่งโควต้าประธานกรรมาธิการ 1 คณะให้แก่ทั้ง 3 พรรคการเมืองที่ลงชื่อร่วมกัน หากไม่ได้ตามที่ร้องขอทั้ง 3 พรรคก็จะขอถอนตัวจากกระบวนการ และไม่ขอร่วมเป็นกรรมาธิการอีกด้วย เพราะเห็นว่าถูกเอาเปรียบจากการประชุมที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากเห็นชัดเจนว่ากระบวนการยังถือว่าไม่สิ้นสุด
ขณะที่ นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวเสริมว่า พรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคใหญ่ ประชาชนไว้วางใจให้มาทำงาน จึงอยากขอความเมตตาจากพรรคเพื่อไทยให้โอกาสพรรคเล็กได้ทำงาน ผ่อนหนักเป็นเบา โดยการแบ่งเก้าอี้ประธานกรรมาธิการเพียง 1 คณะ ซึ่งไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร และคิดว่าจะเป็นเรื่องดีที่ทำให้งานเดินได้ เพราะเกรงว่าหากปล่อยไว้เป็นเช่นนี้จะขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ และทั้ง 4 พรรคก็อาจจะไม่ให้ความร่วมมือ การทำงานของกรรมาธิการก็จะค้างไปต่อไม่ได้ จึงอยากให้ที่ประชุมพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งนี้พรรคภูมิใจไทยยืนยันว่าจะขอรับเพียงตำแหน่งประธานกรรมาธิการเพียง 2 คณะตามที่ได้แบ่งสัดส่วนไว้แล้ว โดยหากได้เพิ่มอีก 1 คณะจะให้พรรคเล็กทั้ง 3 พรรคผลัดเปลี่ยนกันเป็นประธานคนละ 1 ปี
เช่นเดียวกับ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ ที่กล่าวต่อที่ประชุมว่า หากทั้ง 3 พรรคการเมืองได้รับโควต้าเก้าอี้ประธานกรรมาธิการ 1 คณะ ขอยืนยันว่าจะไม่เกิดปัญหาการแย่งตำแหน่งกันอีก เพราะได้มีการตกลงเบื้องต้นว่าจะให้ พล.อ.สนธิ บุญรัตยกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งก่อน
ด้าน นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากตนได้รับมอบหมายจากพรรคเพื่อมาเจรจาวิธีการคัดเลือกประธานคณะกรรมาธิการเท่านั้น ไม่ได้รับมอบหมายให้มาตัดสินใจเพื่อแบ่งโควต้าให้พรรคอื่น จึงไม่สามารถตัดสินใจในที่ประชุมได้ อย่างไรก็ตามจะนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งต่อหัวหน้าพรรค เพื่อดูว่าจะสามารถอนุมัติตามที่เสนอมาได้หรือไม่ ก่อนที่จะมาแจ้งต่อที่ประชุมอีกครั้ง
จากนั้น นายเจริญได้สอบถามหากพรรคเพื่อไทยตัดสินใจไม่แบ่งเก้าอี้ประธานกรรมาธิการให้ บรรดาพรรคเล็กจะยอมรับได้หรือไม่ ทำให้นายชูวิทย์กล่าวตอบว่า คงต้องสอบถามเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร แต่คาดว่าถ้าเป็นเช่นนั้นเรื่องคงไม่จบ แต่จะพยายามพูดคุยนอกรอบกับพรรคเพื่อไทย
เมื่อประชุมถึงตรงนี้ นายเจริญได้ปรารภว่า หากยังเดินหน้าการประชุมต่อไป โดยยังไม่มีความชัดเจนให้ทั้ง 3 พรรค เชื่อว่านายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาฯ จะนำทั้งหมดวอล์กเอาท์จากที่ประชุม ซึ่งนายชัยได้กล่าวตอบว่า “แน่นอน”
หลังจากอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ ทำให้นายเจริญสั่งปิดการประชุม และนัดหมายเพื่อประชุมอีกครั้งในวันที่ 8 ก.ย. เวลา 10.00 น. โดยมอบหมายให้นายชูวิทย์ เป็นผู้ประสานงานโดยตรงกับพรรคเพื่อไทย ก่อนแจ้งข้อสรุปมายังนายเจริญ เพื่อแจ้งต่อให้กับพรรคการเมืองอื่นๆต่อไป
ก่อนหน้านั้น นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดสรรตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญ ในส่วน ส.ส.อีสานน่าจะได้รับการจัดสรรอย่างน้อย 8-9 คณะจากโควต้าทั้งหมด 18 คณะ
กำลังโหลดความคิดเห็น