xs
xsm
sm
md
lg

แบ่งเค้ก 35 ปธ.กมธ.ไม่จบ!! “เจริญ” โยน “ชูวิทย์” คุย พท.ขอโควตา 1 เก้าอี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย (แฟ้มภาพ)
ประชุมแบ่งโควตา 35 ประธานกรรมาธิการครั้งที่ 3 “ชูวิทย์” จี้ทบทวนจัดสรร ขอ พท.ส่งโควตาให้ 3 พรรคเล็ก ขู่ไม่ให้ก็ไม่ร่วม “ปู่ชัย” ร่วมเสริมช่วย “ปุระชัย” เผย 3 พรรคแบ่งลงตัว ให้ “บิ๊กบัง” นั่งก่อน 1 ปี “ไพจิต” อ้างไม่มีอำนาจตัดสินใจ ขอคุยในพรรคก่อน “เจริญ” มึน นัดใหม่ 8 ก.ย.โยน หน.รักประเทศไทย ต่อรองพรรครัฐ

วันนี้ (31 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ได้เป็นประธานในการประชุมร่วมกันระหว่างพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาการแบ่งสัดส่วนตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญ ของสภา ทั้ง 35 คณะ โดยมีผู้แทนจากทุกพรรคการเมืองเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 3 หลังจากไม่ได้ข้อยุติในการประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมา โดย นายเจริญ ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงวาระการประชุมที่จะเป็นการพิจารณาวิธีการเลือกประธานกรรมาธิการของแต่ละพรรค หลังจากได้ข้อสรุปในเรื่องของสัดส่วนเป็นที่เรียบร้อย โดยพรรคเพื่อไทยได้ประธานกรรมาธิการ 19 คณะ พรรคประชาธิปัตย์ 11 คณะ พรรคภูมิใจไทย 2 คณะ โดยพรรคมหาชนขอนำตัวเลขสัดส่วนรวมกับพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคพลังชลนำตัวเลขสัดส่วนรวมกับพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ทำให้ทั้ง 2 กลุ่มได้กลุ่มละ 1 คณะ ส่วนพรรครักประเทศไทย พรรคมาตุภูมิ และพรรครักษ์สันติ ที่รวมกลุ่มกันนั้นไม่ได้เก้าอี้ประธานกรรมาธิการแต่อย่างใด

โดยช่วงต้นของการประชุม นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ได้สอบถาม นายเจริญ ถึงกรณีหนังสือการยืนยันร่วมเป็นกลุ่มการเมืองของ 3 พรรค ได้แก่ พรรครักประเทศไทย พรรคมาตุภูมิ และ พรรครักษ์สันติ ที่จะมารวมกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อขอให้ทบทวนการแบ่งสัดส่วนกรรมาธิการใหม่อีกครั้ง

แต่ นายเจริญ ในฐานะประธานในที่ประชุม ได้กล่าวว่า ตนยังไม่ได้เห็นตัวหนังสือ คาดว่า อยู่ในชั้นของเจ้าหน้าที่ธุรการ อย่างไรก็ตาม เรื่องสัดส่วนตำแหน่งกรรมาธิการได้พิจารณาเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่การประชุมครั้งที่แล้ว เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ซึ่งในตอนนั้นตัวแทนของทุกพรรคการเมืองก็ได้ร่วมเป็นพยาน และตนได้สอบถามความสมัครใจของแต่ละพรรค จนได้ข้อยุติแล้ว จึงเห็นว่า ไม่สมควรที่จะกลับไปทบทวนหรือมีวิธีคิดขึ้นมาใหม่ และให้กระบวนการเดินหน้าได้ต่อไป

ด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ตนเห็นว่า กระบวนการจัดสรรกรรมาธิการยังไม่ถึงที่สุด จึงคิดว่า สามารถทบทวนได้ และไม่ได้ส่งผลเสียกับฝ่ายใด ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคเล็กได้มีบทบาทในการทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารผ่านกลไกกรรมาธิการของสภา จึงเห็นว่า พรรคเพื่อไทย ควรที่จะแบ่งโควตาประธานกรรมาธิการ 1 คณะ ให้แก่ทั้ง 3 พรรคการเมืองที่ลงชื่อร่วมกัน หากไม่ได้ตามที่ร้องขอทั้ง 3 พรรค ก็จะขอถอนตัวจากกระบวนการ และไม่ขอร่วมเป็นกรรมาธิการอีกด้วย เพราะเห็นว่าถูกเอาเปรียบจากการประชุมที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากเห็นชัดเจนว่ากระบวนการยังถือว่าไม่สิ้นสุด

ขณะที่ นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวเสริมว่า พรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคใหญ่ ประชาชนไว้วางใจให้มาทำงาน จึงอยากขอความเมตตาจากพรรคเพื่อไทยให้โอกาสพรรคเล็กได้ทำงาน ผ่อนหนักเป็นเบา โดยการแบ่งเก้าอี้ประธานกรรมาธิการเพียง 1 คณะ ซึ่งไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร และคิดว่า จะเป็นเรื่องดีที่ทำให้งานเดินได้ เพราะเกรงว่า หากปล่อยไว้เป็นเช่นนี้จะขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ และทั้ง 4 พรรคก็อาจจะไม่ให้ความร่วมมือ การทำงานของกรรมาธิการก็จะค้างไปต่อไม่ได้ จึงอยากให้ที่ประชุมพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยยืนยันว่าจะขอรับเพียงตำแหน่งประธานกรรมาธิการเพียง 2 คณะตามที่ได้แบ่งสัดส่วนไว้แล้ว โดยหากได้เพิ่มอีก 1 คณะจะให้พรรคเล็กทั้ง 3 พรรคผลัดเปลี่ยนกันเป็นประธานคนละ 1 ปี

เช่นเดียวกับ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ ที่กล่าวต่อที่ประชุม ว่า หากทั้ง 3 พรรคการเมืองได้รับโควตาเก้าอี้ประธานกรรมาธิการ 1 คณะ ขอยืนยันว่าจะไม่เกิดปัญหาการแย่งตำแหน่งกันอีก เพราะได้มีการตกลงเบื้องต้นว่าจะให้ พล.อ.สนธิ บุญรัตยกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งก่อน

ด้าน นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากตนได้รับมอบหมายจากพรรค เพื่อมาเจรจาวิธีการคัดเลือกประธานคณะกรรมาธิการเท่านั้น ไม่ได้รับมอบหมายให้มาตัดสินใจเพื่อแบ่งโควตาให้พรรคอื่น จึงไม่สามารถตัดสินใจในที่ประชุมได้ อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งต่อหัวหน้าพรรค เพื่อดูว่าจะสามารถอนุมัติตามที่เสนอมาได้หรือไม่ ก่อนที่จะมาแจ้งต่อที่ประชุมอีกครั้ง

จากนั้น นายเจริญ ได้สอบถามหากพรรคเพื่อไทยตัดสินใจไม่แบ่งเก้าอี้ประธานกรรมาธิการให้ บรรดาพรรคเล็กจะยอมรับได้หรือไม่ ทำให้ นายชูวิทย์ กล่าวตอบว่า คงต้องสอบถามเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร แต่คาดว่าถ้าเป็นเช่นนั้นเรื่องคงไม่จบ แต่จะพยายามพูดคุยนอกรอบกับพรรคเพื่อไทย

เมื่อประชุมถึงตรงนี้ นายเจริญ ได้ปรารภว่า หากยังเดินหน้าการประชุมต่อไป โดยยังไม่มีความชัดเจนให้ทั้ง 3 พรรค เชื่อว่านายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภา จะนำทั้งหมดวอล์กเอาต์จากที่ประชุม ซึ่ง นายชัย ได้กล่าวตอบว่า “แน่นอน”

หลังจากอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ ทำให้ นายเจริญ สั่งปิดการประชุม และนัดหมายเพื่อประชุมอีกครั้งในวันที่ 8 ก.ย.เวลา 10.00 น.โดยมอบหมายให้ นายชูวิทย์ เป็นผู้ประสานงานโดยตรงกับพรรคเพื่อไทย ก่อนแจ้งข้อสรุปมายัง นายเจริญ เพื่อแจ้งต่อให้กับพรรคการเมืองอื่นๆ ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น