จังหวะก้าวย่าง รัฐนาวาโคลนนิ่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ใช่เพียง สักแต่ทำ นโยบายแก้บน ตามที่ได้หาเสียง อันเป็น สัญญาประชาคม ให้ได้มากที่สุด
“ค่าแรง300บาทต่อวัน เอาไหมๆๆ เงินเดือนปริญญาตรี 15000 บาท เอาไหมค้า… งั้นเอาไปเลย” วลีรื่นหู ช่วงหาเสียง เริ่มมาเป็น วลีชักคันหู ไม่รู้เป็นอะไร เมื่อถูก บิดพลิ้ว คนในรัฐบาลนารีปู เริ่มออกลายตอน ตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ “ใช่ว่า 300บาทจะได้ทุกคน ทุกพื้นที่ เงินเดือนปริญญาตรี ก็หมายถึงบัณฑิตจบใหม่ ทำงานราชการเท่านั้น”
และยิ่งมาเห็นตัวตน ดีแต่แหล ก็ในตอน แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาฯ จาก ทำทันที จากนโยบายรัฐบาล จากค่าแรงขั้นต่ำ ก็มาในสไตล์ปลาไหล ใส่สเก๊ตช์ เปลี่ยนเป็น “รายได้ต่อวัน 300บาทแทน” อันเนื่องจาก หากยังคงตามกรอบเดิม ค่าแรงขั้นต่ำ 300บาทต่อวัน ตามที่ได้หาเสียงไว้
หากแถลงเช่นนี้ แล้วทำไม่ได้จริงตามที่พูดไว้ อาจกลายเป็น ประเด็น ลุกลามใหญ่โต นำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยได้ อาจเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน
ยังเป็นการเลี่ยงบาลีในเชิงกฎหมาย อันหมายถึง เมื่อประกาศไว้ตามนโยบายและเมื่อแถลงต่อรัฐสภาฯไปแล้ว ก็ต้อง บรรจุในราชกิจจานุเบกษาด้วย อันอาจเกี่ยวพัน ไปถึงข้อกฎหมาย และสิ่งที่จะตามมาอีกมา แต่ ด้วย ทีมกฎหมา(ย) อันช่ำชองของ เหล่า “ทแนะ”ทั้งหลาย จึงออกลาย ศรีธนญชัย กันตั้งแต่เนิ่นๆ แก้คำในการแถลงนโยบายฯ ย่อมดีกว่าเป็นไหนๆ
หรือต้องยอมเป็นฝุ่นธุลีทุกชาติไป อาจไม่ใช่คำล้อเลียนกันในหมู่คณะ ที่ล้อเลียนไปต่างๆนานา แต่ ในอีกมุมหนึ่ง มันก็อดคิดย้อนกลับไม่ได้ว่า แท้จริงแล้ว มวลชน ที่จริงใจ เลือกเพื่อไทย เพราะความคับแค้น การกดขี่เอาเปรียบ ชิงชัง 2มาตรฐาน เบื่อรัฐบาลดีแต่พูด
แต่พอเอาเข้าจริง มาเจอ รัฐนาวานารี แหลซึ่งๆหน้า ก็สุดที่จะทนรับได้เหมือนกัน
แนวร่วมใน15ล้านเสียง อาจยังไม่ตัดสินทันที ทันใด เพียงแค่ วาทกรรม ดีแต่ค๊า.. กันทันที ทันใด แต่ก็เชื่อว่าสิ่งที่แกนนำเสื้อแดงใช้เป็น ถ้อยคำปลุกระดม ต่อฝ่ายที่รุกไล่ เช็กบิลพวกตน เช่นว่า “เราไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่เราจำแม่น” ในอีกมุมหนึ่ง คนเสื้อแดงรากหญ้า พันธุุ์แท้เข้าสายเลือด บางส่วนก็เริ่มสะท้อนออกมาอย่างนี้แล้ว เหมือนกัน
ผ่านพ้นกันไป จะนโยบายแก้บน จะหาช่องทาง เลี่ยงบาลี ทางกฎหมาย อย่างไรก็เอา สิ่งที่ทำอาจไม่ผิดทางกฎหมาย แต่หากถามถึงความชอบธรรม คุณธรรม ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้อง คุยกันยาวหรือไม่ก็ขอคุยกันเฉพาะ แวดวงที่มี คุณธรรม มีศีลธรรม เท่านั้น
เอ๊า ว่ากันต่อไป
หลักสิบ หลักยี่สิบ หรือสามสิบ ก็จำไมได้แม่นยำเท่าใด ที่ “นารีปู” แต่สิ่งที่เคย ป่าวประกาศ “ขอเข้ามาแก้ไข ไม่แก้แค้น” สิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำยังต้อง พิสูจน์ กันอีกยาวนาน แม้ คนทางไกล สอบผ่านไม่จัดสรร โควตารัฐมนตรี ให้คนเสื้อแดง แม้แต่ตำแหน่งเดียว
แต่กลับมาตกรางวัล ให้แนวร่วมหัวขบวนยันท้ายขบวน ในตำแหน่งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกันยกใหญ่ เมื่อวันอังคารที่30ส.ค. ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาและอนุมัติการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองหลายตำแหน่ง โดยกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งคาดหมายว่าแต่ละคนจะถูกจับไปอยู่ในแต่ละกระทรวงที่มีความเชี่ยวชาญ ก็มีการแต่งตั้งทั้งสิ้น 20คน
ที่น่าสนใจ ในสัดส่วนคนเสื้อแดง มีชื่อทั้ง นายวิสา คัญทัพ กวีและนักร้องประจำเวทีคนเสื้อแดง ที่หายตัวไปในช่วงท้ายของการชุมนุมของนปช.เมื่อเดือนพ.ค.53 นางฉวีวรรณ คลังแสง ภรรยานาย สุทิน คลังแสง แกนนำนปช. ซึ่งปัจจุบันจัดรายการทีวีคนเสื้อแดง
นอกจากนี้การแต่งตั้งที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็ยังวนเวียนต่างตอบแทน นายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล แกนนำนปช.เชียงใหม่ ที่เคยออกมาโวยวายหลังจากถูกจัดให้ลงส.ส.บัญชีรายชื่อ ในอันดับที่ไม่ได้เป็นส.ส. เป็นที่ปรึกษารมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายประแสง มงคลศิริ แกนนำนปช.และอดีตส.ส.อุทัยธานี พรรคไทยรักไทย อีกมุมหนึ่งนายประแสงคือลูกเขย พล.อ. วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผบ.ทบ.ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษารมช.ศึกษาธิการ นายนาวิน บุญเสรฐ แกนนำนปช.สายภาคเหนือ และยังมีความใกล้ชิดกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขานุการรมว.ต่างประเทศ
นายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำนปช.สายแท็กซี่ และหนึ่งในบุคคลที่โจมตีรัฐบาลประชาธิปัตย์อย่างหนัก ในช่วงที่แต่งตั้ง นายก ษิต ภิรมย์ เป็นรมว.ต่างประเทศ แต่มาถึงยุค นารีปู เขาก็เป็นถึงที่ปรึกษารมว.คมนาคม พล.อ. สุกำพล สุรรณทัต เช่นเดียวกับ นายวิเชียรชนินทร์ สินธุไพร น้องชายนายนิสิต สินธุไพร แกนนำนปช.ที่เพิ่งออกจากเรือนจำ เป็นที่ปรึกษารมช.คมนาคม พล.ต.ท. ชัจจ์ กุลดิลก เช่นเดียวกับพี่ชาย นิสิต สินธุไพร ที่พล.ต.ชัจจ์ ได้โทรศัพท์ ขอมาเป็น ที่ปรึกษาส่วนตัว ในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว
นายสมหวัง อัสราษี นักธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังความจริงวันนี้ และเครื่องใช้ไฟฟ้ามิตซูชิต้า ซึ่งเป็นนายทุนคนสำคัญของนปช.สายนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ได้รับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ดนปช.ที่หลบหนีไปต่างประเทศระยะหนึ่ง เป็นเลขานุการรมว.มหาดไทย นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แกนนำเสื้อแดง เป็นผู้ช่วยเลขานุการรมช.มหาดไทย นายฐานิสร์ เทียนทอง
เป็นตัวอย่างการตกรางวัล รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะ ทักษิณ ที่เขามักไม่ลืมบุญคุณ ที่สู้ให้อย่างถวายหัว เลยได้รับผลตอบแทน ที่น่าพอใจ เป็นการ แทนคุณ ในแบบฉบับทักษิณ
รวมทั้งก่อนหน้านี้ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นาง ไพจิตร อักษรณรงค์ นาย วรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ นาย วันชนะ เกิดดี พ.ต.ท. เสงี่ยม สำราญรัตน์ นาย รังสี เสรีชัย ก็ได้ดิบได้ดีเหมือน แนวร่วมคนเสื้อแดงคนอื่นๆ เช่นเดียวกับ โอปอ-อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด จากพิธีกรประจำเวทีเสื้อแดง ก็ยังพาสชั้นมาเป็นถึง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีสิทธิเข้าประชุม ครม. ทุกวันอังคาร
ยังไม่นับ ศักดา นพสิทธิ์ แกนนำนปช.ชลบุรี ที่มีส่วนสำคัญ จากเหตุการณ์ ประชุมอาเซียน2552 ต้องล่มลงไป หากไม่พลิกโผนาทีสุดท้าย ก็จ่อคิวถูกวางตัวเป็น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ อดีตประธานนปก.รุ่นแรก ถูกวางตัว เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์
เพียงแค่ด่านแรก บุคลากร ที่ถูกวางตัว เป็นมือเป็นไม้ รัฐมนตรี เชื่อมประสานงานระหว่าง ชาวบ้าน ข้าราชการ กลั่นกรองเรื่องต่างๆก่อนนำมาให้รัฐมนตรี แก้ปัญหา ก็ถูกตั้งแง่ ถูกดูแคลน ในเชิงต่างตอบแทน ทดแทนบุญคุณกันแล้ว
อันอาจเชื่อมโยงไปถึง แนวทางปรองดองสมานฉันท์ อาจ ล่มตั้งแต่ยังไม่เดินหน้าด้วยซ้ำ ในเมื่อ แกนนำเสื้อแดง ส่วนใหญ่ ต่างติดคดี ในโทษที่หนักหนาพอตัว และยังมีพฤติกรรมร้ายแรงในช่วงชุมนุมการเมืองปี2552-2553 อีกด้วย
ในจำนวนนี้หากจะมีโควตาให้กับ ญาติผู้เสียชีวิต หรือ บาดเจ็บพิการ ซึ่งเชื่อว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถไม่น้อย ให้ได้มีโอกาสเข้ามาทำงาน คงจะไม่มีใคร ต่อว่าต่อขานสักเท่าใดนัก
แต่กลายเป็นว่า พวกแกนนำ(บนเวที)ต่างชักแถว ได้ดิบได้ดี กันถ้วนหน้า ส่วน เหยื่อ ในความรุนแรง ก็ยังคงเป็นเพียง เบี้ย ที่พร้อมให้ คนพวกนี้ ก้าวข้ามไปเท่านั้น
นโยบายทำงาน นารีปู นอกจากด้านนโยบาย ที่ถูกจับตาอย่างหนักว่า จะทำได้จริงตามที่หาเสียง สักกี่เรื่องกัน รวมทั้งเมื่อเจาะรายชื่อ รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ในช่วงเริ่มต้นทำงาน ก็ถูก ประชาธิปัตย์ จับจ้องอย่างไม่ลดละ รอจังหวะพลาดมา จะถูก เหยียบย่ำ ซ้ำเติมทันที
นโยบายดีอย่างไร แต่ ผู้ช่วยงาน ผู้ประสานงาน มันยี้จนรับกันไม่ได้ แนวทาง สมานฉันท์ปรองดอง แก้ไขไม่แก้แค้น อาจเป็นเพียงลมปาก อันสวยหรู แต่คันหูยิ่งนัก
รัฐนาวาปู อาจแปลกประหลาดกว่ารัฐบาลก่อน ที่ทั้งเริ่มนับหนึ่งในแง่การทำงาน แต่ในส่วนของ วาระรัฐบาล อาจต้องเริ่มนับถอยหลัง ไปพร้อมๆกัน
“ค่าแรง300บาทต่อวัน เอาไหมๆๆ เงินเดือนปริญญาตรี 15000 บาท เอาไหมค้า… งั้นเอาไปเลย” วลีรื่นหู ช่วงหาเสียง เริ่มมาเป็น วลีชักคันหู ไม่รู้เป็นอะไร เมื่อถูก บิดพลิ้ว คนในรัฐบาลนารีปู เริ่มออกลายตอน ตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ “ใช่ว่า 300บาทจะได้ทุกคน ทุกพื้นที่ เงินเดือนปริญญาตรี ก็หมายถึงบัณฑิตจบใหม่ ทำงานราชการเท่านั้น”
และยิ่งมาเห็นตัวตน ดีแต่แหล ก็ในตอน แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาฯ จาก ทำทันที จากนโยบายรัฐบาล จากค่าแรงขั้นต่ำ ก็มาในสไตล์ปลาไหล ใส่สเก๊ตช์ เปลี่ยนเป็น “รายได้ต่อวัน 300บาทแทน” อันเนื่องจาก หากยังคงตามกรอบเดิม ค่าแรงขั้นต่ำ 300บาทต่อวัน ตามที่ได้หาเสียงไว้
หากแถลงเช่นนี้ แล้วทำไม่ได้จริงตามที่พูดไว้ อาจกลายเป็น ประเด็น ลุกลามใหญ่โต นำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยได้ อาจเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน
ยังเป็นการเลี่ยงบาลีในเชิงกฎหมาย อันหมายถึง เมื่อประกาศไว้ตามนโยบายและเมื่อแถลงต่อรัฐสภาฯไปแล้ว ก็ต้อง บรรจุในราชกิจจานุเบกษาด้วย อันอาจเกี่ยวพัน ไปถึงข้อกฎหมาย และสิ่งที่จะตามมาอีกมา แต่ ด้วย ทีมกฎหมา(ย) อันช่ำชองของ เหล่า “ทแนะ”ทั้งหลาย จึงออกลาย ศรีธนญชัย กันตั้งแต่เนิ่นๆ แก้คำในการแถลงนโยบายฯ ย่อมดีกว่าเป็นไหนๆ
หรือต้องยอมเป็นฝุ่นธุลีทุกชาติไป อาจไม่ใช่คำล้อเลียนกันในหมู่คณะ ที่ล้อเลียนไปต่างๆนานา แต่ ในอีกมุมหนึ่ง มันก็อดคิดย้อนกลับไม่ได้ว่า แท้จริงแล้ว มวลชน ที่จริงใจ เลือกเพื่อไทย เพราะความคับแค้น การกดขี่เอาเปรียบ ชิงชัง 2มาตรฐาน เบื่อรัฐบาลดีแต่พูด
แต่พอเอาเข้าจริง มาเจอ รัฐนาวานารี แหลซึ่งๆหน้า ก็สุดที่จะทนรับได้เหมือนกัน
แนวร่วมใน15ล้านเสียง อาจยังไม่ตัดสินทันที ทันใด เพียงแค่ วาทกรรม ดีแต่ค๊า.. กันทันที ทันใด แต่ก็เชื่อว่าสิ่งที่แกนนำเสื้อแดงใช้เป็น ถ้อยคำปลุกระดม ต่อฝ่ายที่รุกไล่ เช็กบิลพวกตน เช่นว่า “เราไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่เราจำแม่น” ในอีกมุมหนึ่ง คนเสื้อแดงรากหญ้า พันธุุ์แท้เข้าสายเลือด บางส่วนก็เริ่มสะท้อนออกมาอย่างนี้แล้ว เหมือนกัน
ผ่านพ้นกันไป จะนโยบายแก้บน จะหาช่องทาง เลี่ยงบาลี ทางกฎหมาย อย่างไรก็เอา สิ่งที่ทำอาจไม่ผิดทางกฎหมาย แต่หากถามถึงความชอบธรรม คุณธรรม ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้อง คุยกันยาวหรือไม่ก็ขอคุยกันเฉพาะ แวดวงที่มี คุณธรรม มีศีลธรรม เท่านั้น
เอ๊า ว่ากันต่อไป
หลักสิบ หลักยี่สิบ หรือสามสิบ ก็จำไมได้แม่นยำเท่าใด ที่ “นารีปู” แต่สิ่งที่เคย ป่าวประกาศ “ขอเข้ามาแก้ไข ไม่แก้แค้น” สิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำยังต้อง พิสูจน์ กันอีกยาวนาน แม้ คนทางไกล สอบผ่านไม่จัดสรร โควตารัฐมนตรี ให้คนเสื้อแดง แม้แต่ตำแหน่งเดียว
แต่กลับมาตกรางวัล ให้แนวร่วมหัวขบวนยันท้ายขบวน ในตำแหน่งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกันยกใหญ่ เมื่อวันอังคารที่30ส.ค. ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาและอนุมัติการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองหลายตำแหน่ง โดยกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งคาดหมายว่าแต่ละคนจะถูกจับไปอยู่ในแต่ละกระทรวงที่มีความเชี่ยวชาญ ก็มีการแต่งตั้งทั้งสิ้น 20คน
ที่น่าสนใจ ในสัดส่วนคนเสื้อแดง มีชื่อทั้ง นายวิสา คัญทัพ กวีและนักร้องประจำเวทีคนเสื้อแดง ที่หายตัวไปในช่วงท้ายของการชุมนุมของนปช.เมื่อเดือนพ.ค.53 นางฉวีวรรณ คลังแสง ภรรยานาย สุทิน คลังแสง แกนนำนปช. ซึ่งปัจจุบันจัดรายการทีวีคนเสื้อแดง
นอกจากนี้การแต่งตั้งที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็ยังวนเวียนต่างตอบแทน นายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล แกนนำนปช.เชียงใหม่ ที่เคยออกมาโวยวายหลังจากถูกจัดให้ลงส.ส.บัญชีรายชื่อ ในอันดับที่ไม่ได้เป็นส.ส. เป็นที่ปรึกษารมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายประแสง มงคลศิริ แกนนำนปช.และอดีตส.ส.อุทัยธานี พรรคไทยรักไทย อีกมุมหนึ่งนายประแสงคือลูกเขย พล.อ. วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผบ.ทบ.ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษารมช.ศึกษาธิการ นายนาวิน บุญเสรฐ แกนนำนปช.สายภาคเหนือ และยังมีความใกล้ชิดกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขานุการรมว.ต่างประเทศ
นายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำนปช.สายแท็กซี่ และหนึ่งในบุคคลที่โจมตีรัฐบาลประชาธิปัตย์อย่างหนัก ในช่วงที่แต่งตั้ง นายก ษิต ภิรมย์ เป็นรมว.ต่างประเทศ แต่มาถึงยุค นารีปู เขาก็เป็นถึงที่ปรึกษารมว.คมนาคม พล.อ. สุกำพล สุรรณทัต เช่นเดียวกับ นายวิเชียรชนินทร์ สินธุไพร น้องชายนายนิสิต สินธุไพร แกนนำนปช.ที่เพิ่งออกจากเรือนจำ เป็นที่ปรึกษารมช.คมนาคม พล.ต.ท. ชัจจ์ กุลดิลก เช่นเดียวกับพี่ชาย นิสิต สินธุไพร ที่พล.ต.ชัจจ์ ได้โทรศัพท์ ขอมาเป็น ที่ปรึกษาส่วนตัว ในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว
นายสมหวัง อัสราษี นักธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังความจริงวันนี้ และเครื่องใช้ไฟฟ้ามิตซูชิต้า ซึ่งเป็นนายทุนคนสำคัญของนปช.สายนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ได้รับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ดนปช.ที่หลบหนีไปต่างประเทศระยะหนึ่ง เป็นเลขานุการรมว.มหาดไทย นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แกนนำเสื้อแดง เป็นผู้ช่วยเลขานุการรมช.มหาดไทย นายฐานิสร์ เทียนทอง
เป็นตัวอย่างการตกรางวัล รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะ ทักษิณ ที่เขามักไม่ลืมบุญคุณ ที่สู้ให้อย่างถวายหัว เลยได้รับผลตอบแทน ที่น่าพอใจ เป็นการ แทนคุณ ในแบบฉบับทักษิณ
รวมทั้งก่อนหน้านี้ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นาง ไพจิตร อักษรณรงค์ นาย วรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ นาย วันชนะ เกิดดี พ.ต.ท. เสงี่ยม สำราญรัตน์ นาย รังสี เสรีชัย ก็ได้ดิบได้ดีเหมือน แนวร่วมคนเสื้อแดงคนอื่นๆ เช่นเดียวกับ โอปอ-อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด จากพิธีกรประจำเวทีเสื้อแดง ก็ยังพาสชั้นมาเป็นถึง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีสิทธิเข้าประชุม ครม. ทุกวันอังคาร
ยังไม่นับ ศักดา นพสิทธิ์ แกนนำนปช.ชลบุรี ที่มีส่วนสำคัญ จากเหตุการณ์ ประชุมอาเซียน2552 ต้องล่มลงไป หากไม่พลิกโผนาทีสุดท้าย ก็จ่อคิวถูกวางตัวเป็น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ อดีตประธานนปก.รุ่นแรก ถูกวางตัว เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์
เพียงแค่ด่านแรก บุคลากร ที่ถูกวางตัว เป็นมือเป็นไม้ รัฐมนตรี เชื่อมประสานงานระหว่าง ชาวบ้าน ข้าราชการ กลั่นกรองเรื่องต่างๆก่อนนำมาให้รัฐมนตรี แก้ปัญหา ก็ถูกตั้งแง่ ถูกดูแคลน ในเชิงต่างตอบแทน ทดแทนบุญคุณกันแล้ว
อันอาจเชื่อมโยงไปถึง แนวทางปรองดองสมานฉันท์ อาจ ล่มตั้งแต่ยังไม่เดินหน้าด้วยซ้ำ ในเมื่อ แกนนำเสื้อแดง ส่วนใหญ่ ต่างติดคดี ในโทษที่หนักหนาพอตัว และยังมีพฤติกรรมร้ายแรงในช่วงชุมนุมการเมืองปี2552-2553 อีกด้วย
ในจำนวนนี้หากจะมีโควตาให้กับ ญาติผู้เสียชีวิต หรือ บาดเจ็บพิการ ซึ่งเชื่อว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถไม่น้อย ให้ได้มีโอกาสเข้ามาทำงาน คงจะไม่มีใคร ต่อว่าต่อขานสักเท่าใดนัก
แต่กลายเป็นว่า พวกแกนนำ(บนเวที)ต่างชักแถว ได้ดิบได้ดี กันถ้วนหน้า ส่วน เหยื่อ ในความรุนแรง ก็ยังคงเป็นเพียง เบี้ย ที่พร้อมให้ คนพวกนี้ ก้าวข้ามไปเท่านั้น
นโยบายทำงาน นารีปู นอกจากด้านนโยบาย ที่ถูกจับตาอย่างหนักว่า จะทำได้จริงตามที่หาเสียง สักกี่เรื่องกัน รวมทั้งเมื่อเจาะรายชื่อ รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ในช่วงเริ่มต้นทำงาน ก็ถูก ประชาธิปัตย์ จับจ้องอย่างไม่ลดละ รอจังหวะพลาดมา จะถูก เหยียบย่ำ ซ้ำเติมทันที
นโยบายดีอย่างไร แต่ ผู้ช่วยงาน ผู้ประสานงาน มันยี้จนรับกันไม่ได้ แนวทาง สมานฉันท์ปรองดอง แก้ไขไม่แก้แค้น อาจเป็นเพียงลมปาก อันสวยหรู แต่คันหูยิ่งนัก
รัฐนาวาปู อาจแปลกประหลาดกว่ารัฐบาลก่อน ที่ทั้งเริ่มนับหนึ่งในแง่การทำงาน แต่ในส่วนของ วาระรัฐบาล อาจต้องเริ่มนับถอยหลัง ไปพร้อมๆกัน