เมื่อได้ยินคำพูดหยายคายของ ส.ส.ณัฐวุฒิ ใสยเกี้อ และพวก ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็รู้ได้ทันทีว่า พรรคเพื่อไทยเป็นชนเผ่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญฝ่ายซ้าย ดูได้จากพวกเขาคิดแก้ไข หรือยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และพวกเขากำลังนำไปสู่การขัดแย้งรอบใหม่เพื่อแย่งกันยึดถือรัฐธรรมนูญฉบับของกู
ประเทศไทยเรามีลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ คือ สภาพการณ์ที่แท้จริงที่เป็นอยู่ ที่ดำรงอยู่ ได้ครอบงำประเทศมายาวนาน 79 ปีแต่ผู้ปกครองโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งยังไม่เห็นมีนักการเมืองหน้าไหนคิดที่จะเปลี่ยนแปลง
ลัทธิเผด็จการ คือ ความเชื่อทางการเมืองการปกครองที่ได้ยึดเอารัฐธรรมนูญเป็นสิ่งสูงสุด ซึ่งต่างจากลัทธิประชาธิปไตยแท้และธรรมาธิปไตยที่ยึดถือหลักการปกครองหรือหลักธรรมการปกครองเป็นสิ่งสูงสุด
การยึดเอารัฐธรรมนูญเป็นสิ่งสูงสุดนั้นหากเราจะเปรียบดังคนที่ยึดถือเอาเครื่องรางของขลังเป็นสรณะ ไม่สามารถเข้าถึงสัจธรรมคำสอนได้นั้นเอง
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังกองดอกไม้นานาชนิดที่กองเรี่ยราดอยู่บนโต๊ะ ถูกลมพัดหล่นกระจายอย่างไร้ระเบียบเน่าเหม็น
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังถนนหนทาง แต่ไม่มีจุดหมายร่วมที่จะไปถึงร่วมกันได้
ลัทธิเผด็จการเปรียบได้ดังยานพาหนะหนึ่งเดียวที่จะนำพาคนไปพลิกคว่ำ บาดเจ็บ ล้มตาย เพราะไม่มีจุดหมายร่วมที่จะไปถึงจุดเดียวกัน
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังร่มหักที่ไม่มีแกนกลาง
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังว่าวขาดลอยเคว้งคว้าง
ลัทธิเผด็จการเปรียบได้ดังฝอยขัดหม้อ ยุ่งเหยิง สับสน ไร้ทิศไร้ทาง
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังเซลล์ที่ปราศจากนิวเครียส มันจึงดำรงอยู่ไม่ได้
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังระบบสุริยะไม่มีดวงอาทิตย์มีแต่ดาวเคราะห์แล้วมันจะดำรงอยู่ได้อย่างไร
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังรัฐหรือประเทศไร้ซึ่งประมุข
ลัทธิเผด็จการเปรียบได้ดังวัว-ควายไม่มีเจ้าของปล่อยไปตามยถากรรม
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังห้องเรียนไม่มีครูมีแต่นักเรียน
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังถนนลูกรัง ซึ่งทำให้อดีตนายกฯ 27 คน หลงผิดมาแล้วคิดว่าขับรถเบนซ์ไปบนถนนคอนกรีต ท้ายที่สุดล้มคว่ำทุกคนไป เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยท่านนี้ก็คงจะไม่ต่างไปจากอดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง 27 คนและดูเหมือนว่าจะพลิกคว่ำเร็วขึ้นเพราะเป็นรถยนต์เบนซ์แบบกดด้วยรีโมตคอนโทรลโดยคนกดอยู่ที่ดูไบ
ชนเผ่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเมื่อจะทำการปกครองประเทศก็จะเริ่มต้นด้วยการยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่งก็คือยกร่างรัฐกฎหมายมาบังคับประชาชนในชาติยอมรับก็บอกว่านี่คือระบอบประชาธิปไตย ชนเผ่านี้มักจะโอ้อวดพูดและเขียนว่า “ประเทศไทยกับประชาธิปไตย 79ปี” ในลักษณะนี้ เป็นต้น หรือมักจะพูดว่า “การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นเรื่องของระบอบประชาธิปไตย” ถูกที่ต้องนั้นเป็นเรื่องของระบบรัฐสภา
ส่วนจะเป็นระบอบอะไรนั้นมันต้องดูกันที่หลักการปกครอง แต่ปรากฏว่า รัฐธรรมไทย 18 ฉบับ ไม่เคยมีหลักการปกครองเลยแม้แต่ฉบับเดียว ก็จะไปมีได้อย่างไรกันละครับ ก็มันเป็นแนวคิดของพวกชนเผ่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญนั่นเอง พวกเขาจะต้องร่างรัฐธรรมนูญกันสักร้อยครั้ง พันฉบับมันก็ไม่มีวันที่จะได้ระบอบประชาธิปไตยหรอกครับพี่น้อง มันมีแต่จะได้รัฐธรรมนูญแล้วบิดเบือนว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจะได้และถูกครอบงำจากชนชั้นผู้ปกครองซึ่งเป็นชนเผ่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ
พรรคประชาธิปัตย์เป็นชนเผ่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญฝ่ายขวา ซึ่งยึดมั่นในรัฐธรรมนูญปี 50 ส่วนใหญ่จะอยู่ทางใต้ของประเทศมีความจงรักภักดีสถาบันหลักของชาติแบบศรัทธาหัวเต่า ซึ่งไม่มีปัญญาปกป้องสถาบันหลักของชาติได้ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญที่พวกเขายึดมั่นอยู่นั้นเป็นเหตุแห่งการทำลายชาติและสถาบัน พวกเธอรู้กันบ้างไหม
ส่วนพรรคเพื่อไทยเป็นชนเผ่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญฝ่ายซ้าย ซึ่งยึดมั่นในรัฐธรรมนูญปี 40 ส่วนใหญ่จะอยู่ทางเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ชนเผ่านี้ไม่ชอบองคมนตรีและพระมหากษัตริย์ มีคนเสื้อแดงบอกว่าแถวอีสาน หลายหมู่บ้านไม่มีรูปในหลวง-ราชินีแขวนอยู่เลย หากไปนั่งคุยกับมวลชนคนเสื้อแดงก็จะรู้ได้ไม่ยากว่าพวกเขาถูกสอนให้เกลียดใคร ใครเป็นผู้ให้ ใครเป็นผู้เอาเปรียบ พวกเขาสอนกลับกันหมด ลองไปคุยกับ ส.ส.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ดูก็ได้นะ แต่ต้องไปแบบเสื้อแดงแล้วก็ขอเป็นลูกน้องหรือไม่ก็ขอสมัครเป็นลูกศิษย์เพื่อเรียนการพูดทางการเมือง ก็จะได้รู้ว่าพวกเขาคิดอะไร ทำอะไร หรือไม่ก็ไปสมัครเป็นลูกศิษย์ของ ส.ส.เหวง โตจิราการ คนนี้จะรีบรับไว้เป็นศิษย์ เพียงแสดงให้เป็นว่าเป็นแดงพันธุ์แท้เป็นใช้ได้
ส่วนลัทธิประชาธิปไตยและธรรมาธิปไตยจะเริ่มต้นด้วยการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนและพระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรมหรือธรรมาธิปไตยหรือทรงสถาปนาระบอบประชาธิปไตยโดยธรรมนั่นเอง แล้วค่อยมาร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญในภายหลัง เปรียบได้ดังนำเข็ม-ด้าย (หลักการปกครอง) มาร้อยดอกไม้นานาชนิด (กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตราต่างๆ) เพื่อทำเป็นพวงมาลัยสวยงามนำไปถวายสิ่งที่เคารพบูชา
ประเทศไทยเรามีลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ คือ สภาพการณ์ที่แท้จริงที่เป็นอยู่ ที่ดำรงอยู่ ได้ครอบงำประเทศมายาวนาน 79 ปีแต่ผู้ปกครองโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งยังไม่เห็นมีนักการเมืองหน้าไหนคิดที่จะเปลี่ยนแปลง
ลัทธิเผด็จการ คือ ความเชื่อทางการเมืองการปกครองที่ได้ยึดเอารัฐธรรมนูญเป็นสิ่งสูงสุด ซึ่งต่างจากลัทธิประชาธิปไตยแท้และธรรมาธิปไตยที่ยึดถือหลักการปกครองหรือหลักธรรมการปกครองเป็นสิ่งสูงสุด
การยึดเอารัฐธรรมนูญเป็นสิ่งสูงสุดนั้นหากเราจะเปรียบดังคนที่ยึดถือเอาเครื่องรางของขลังเป็นสรณะ ไม่สามารถเข้าถึงสัจธรรมคำสอนได้นั้นเอง
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังกองดอกไม้นานาชนิดที่กองเรี่ยราดอยู่บนโต๊ะ ถูกลมพัดหล่นกระจายอย่างไร้ระเบียบเน่าเหม็น
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังถนนหนทาง แต่ไม่มีจุดหมายร่วมที่จะไปถึงร่วมกันได้
ลัทธิเผด็จการเปรียบได้ดังยานพาหนะหนึ่งเดียวที่จะนำพาคนไปพลิกคว่ำ บาดเจ็บ ล้มตาย เพราะไม่มีจุดหมายร่วมที่จะไปถึงจุดเดียวกัน
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังร่มหักที่ไม่มีแกนกลาง
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังว่าวขาดลอยเคว้งคว้าง
ลัทธิเผด็จการเปรียบได้ดังฝอยขัดหม้อ ยุ่งเหยิง สับสน ไร้ทิศไร้ทาง
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังเซลล์ที่ปราศจากนิวเครียส มันจึงดำรงอยู่ไม่ได้
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังระบบสุริยะไม่มีดวงอาทิตย์มีแต่ดาวเคราะห์แล้วมันจะดำรงอยู่ได้อย่างไร
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังรัฐหรือประเทศไร้ซึ่งประมุข
ลัทธิเผด็จการเปรียบได้ดังวัว-ควายไม่มีเจ้าของปล่อยไปตามยถากรรม
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังห้องเรียนไม่มีครูมีแต่นักเรียน
ลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเปรียบได้ดังถนนลูกรัง ซึ่งทำให้อดีตนายกฯ 27 คน หลงผิดมาแล้วคิดว่าขับรถเบนซ์ไปบนถนนคอนกรีต ท้ายที่สุดล้มคว่ำทุกคนไป เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยท่านนี้ก็คงจะไม่ต่างไปจากอดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง 27 คนและดูเหมือนว่าจะพลิกคว่ำเร็วขึ้นเพราะเป็นรถยนต์เบนซ์แบบกดด้วยรีโมตคอนโทรลโดยคนกดอยู่ที่ดูไบ
ชนเผ่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญเมื่อจะทำการปกครองประเทศก็จะเริ่มต้นด้วยการยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่งก็คือยกร่างรัฐกฎหมายมาบังคับประชาชนในชาติยอมรับก็บอกว่านี่คือระบอบประชาธิปไตย ชนเผ่านี้มักจะโอ้อวดพูดและเขียนว่า “ประเทศไทยกับประชาธิปไตย 79ปี” ในลักษณะนี้ เป็นต้น หรือมักจะพูดว่า “การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นเรื่องของระบอบประชาธิปไตย” ถูกที่ต้องนั้นเป็นเรื่องของระบบรัฐสภา
ส่วนจะเป็นระบอบอะไรนั้นมันต้องดูกันที่หลักการปกครอง แต่ปรากฏว่า รัฐธรรมไทย 18 ฉบับ ไม่เคยมีหลักการปกครองเลยแม้แต่ฉบับเดียว ก็จะไปมีได้อย่างไรกันละครับ ก็มันเป็นแนวคิดของพวกชนเผ่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญนั่นเอง พวกเขาจะต้องร่างรัฐธรรมนูญกันสักร้อยครั้ง พันฉบับมันก็ไม่มีวันที่จะได้ระบอบประชาธิปไตยหรอกครับพี่น้อง มันมีแต่จะได้รัฐธรรมนูญแล้วบิดเบือนว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจะได้และถูกครอบงำจากชนชั้นผู้ปกครองซึ่งเป็นชนเผ่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ
พรรคประชาธิปัตย์เป็นชนเผ่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญฝ่ายขวา ซึ่งยึดมั่นในรัฐธรรมนูญปี 50 ส่วนใหญ่จะอยู่ทางใต้ของประเทศมีความจงรักภักดีสถาบันหลักของชาติแบบศรัทธาหัวเต่า ซึ่งไม่มีปัญญาปกป้องสถาบันหลักของชาติได้ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญที่พวกเขายึดมั่นอยู่นั้นเป็นเหตุแห่งการทำลายชาติและสถาบัน พวกเธอรู้กันบ้างไหม
ส่วนพรรคเพื่อไทยเป็นชนเผ่าลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญฝ่ายซ้าย ซึ่งยึดมั่นในรัฐธรรมนูญปี 40 ส่วนใหญ่จะอยู่ทางเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ชนเผ่านี้ไม่ชอบองคมนตรีและพระมหากษัตริย์ มีคนเสื้อแดงบอกว่าแถวอีสาน หลายหมู่บ้านไม่มีรูปในหลวง-ราชินีแขวนอยู่เลย หากไปนั่งคุยกับมวลชนคนเสื้อแดงก็จะรู้ได้ไม่ยากว่าพวกเขาถูกสอนให้เกลียดใคร ใครเป็นผู้ให้ ใครเป็นผู้เอาเปรียบ พวกเขาสอนกลับกันหมด ลองไปคุยกับ ส.ส.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ดูก็ได้นะ แต่ต้องไปแบบเสื้อแดงแล้วก็ขอเป็นลูกน้องหรือไม่ก็ขอสมัครเป็นลูกศิษย์เพื่อเรียนการพูดทางการเมือง ก็จะได้รู้ว่าพวกเขาคิดอะไร ทำอะไร หรือไม่ก็ไปสมัครเป็นลูกศิษย์ของ ส.ส.เหวง โตจิราการ คนนี้จะรีบรับไว้เป็นศิษย์ เพียงแสดงให้เป็นว่าเป็นแดงพันธุ์แท้เป็นใช้ได้
ส่วนลัทธิประชาธิปไตยและธรรมาธิปไตยจะเริ่มต้นด้วยการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนและพระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรมหรือธรรมาธิปไตยหรือทรงสถาปนาระบอบประชาธิปไตยโดยธรรมนั่นเอง แล้วค่อยมาร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญในภายหลัง เปรียบได้ดังนำเข็ม-ด้าย (หลักการปกครอง) มาร้อยดอกไม้นานาชนิด (กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตราต่างๆ) เพื่อทำเป็นพวงมาลัยสวยงามนำไปถวายสิ่งที่เคารพบูชา