สืบสาวไปหาเหตุ “เมื่อผู้ปกครองมิจฉาทิฐิ ยกร่างรัฐธรรมนูญมิจฉาทิฐิ การเลือกตั้งก็มิจฉาทิฐิ... รัฐบาล การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม... ก็มิจฉาทิฐิตามไปด้วย อย่างเป็นไปเองตามเหตุปัจจัยของเหตุและผล”
แนวทางแก้ไข “เมื่อผู้ปกครองมีสัมมาทิฐิ สถาปนาหลักการปกครองก่อนร่างรัฐธรรมนูญ นี่เป็นปัจจัยสัมมาทิฐิ การเลือกตั้งเป็นสัมมาทิฐิ... รัฐบาล การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ เป็นสัมมาทิฐิตามไปด้วย อย่างเป็นไปเองตามเหตุปัจจัยของเหตุและผล”
เมื่อพิจารณาการเมืองไทยปัจจุบัน รัฐธรรมนูญฉบับปี 50 เป็นเหตุแห่งความมิจฉาทิฐิ เอื้อประโยชน์ให้พรรคและคนร่ำรวยเพียงหยิบมือเดียว ระบอบเผด็จการนี้วัดกันที่ใครมีเงินมากกว่ากัน ทักษิณพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์กลุ่มนายทุนหนุนหลังลงขันเพียง 10,000 ล้าน ถึง 15,000 ล้านบาท ก็สามารถซื้อประเทศไทยได้แล้ว หัวหน้าพรรคใหญ่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี พวกเขาก็พูดย้ำบ่อยๆ ว่า “ผมมาจากการเลือกตั้งๆ” ส่วนนายทุนพรรคได้รับสัมปทานโครงการต่างๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อันตรายต่อชาติและไม่อาจจะแก้ไขได้เลย หากยังยอมรับระบอบเผด็จการนี้อยู่
สถาบันหลักของชาติก็ตกอยู่ในฐานะที่ลำบาก ทางแก้ไขที่ถูกต้องตามระบบรัฐสภา (Parliamentary System) คือ องค์ประมุขแห่งรัฐ คือพระเจ้าแผ่นดินทรงมีพระราชอำนาจอย่างแท้จริงในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี พวกพรรคเลวทราม จะไม่กล้าเสี่ยง ไม่กล้าลงทุนเป็นหมื่นล้าน เพราะประมุขแห่งรัฐอาจไม่ทรงแต่งตั้งก็ได้ เหตุเพราะใช้เงินซื้อเสียง ทรงแต่งตั้งผู้ที่มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ และมีความรู้ความสามารถที่แท้จริง (แต่มันเป็นไปไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 นี้)
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี ก็ไปจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่ต้องห่วงเรื่องประสานผลประโยชน์ (เงินทอง และอำนาจ) สามารถเลือกเอาคนดี มีคุณธรรมและมีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงมาเป็นรัฐมนตรี รัฐมนตรีท่านใดไม่มีความสามารถจริงก็ปลดออกทันที โดยไม่ต้องวิตกกังวลอะไร ประชาชนก็ได้ประโยชน์
ให้รู้อย่างถูกต้องว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ไม่ถือธรรมเป็นหลักการ ไม่ถือพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐอย่างแท้จริง ไม่ถืออำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน จึงเป็นเหตุปัจจัยในการปิดกั้นเสรีภาพทางการเมือง ประชาชนไม่มีความเสมอภาคทางโอกาส ไม่มีภราดรภาพ ไม่มีเอกภาพของชาติ และประชาชนไม่มีหลักนิติธรรมทางการเมืองในที่สุด มีเพียงวิธีการปกครอง คือ รัฐธรรมนูญ คือหมวด และมาตราต่างๆ เท่านั้น อุปมามีแต่กลุ่มดาวเคราะห์ แต่ไม่มีดวงอาทิตย์เป็นแกนกลาง ยังไงๆ มันก็ดำรงอยู่ไม่ได้ ผลของมันจึงกลายเป็น “นักการเมืองสัตว์นรก” ตามที่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล พูด
การก่อตั้งพรรค ต้องจดทะเบียนพรรค แบบจดทะเบียนบริษัท ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก พรรคการเมืองมารวมตัวกันโดยผลประโยชน์ พรรคจึงเติบโตโดยกฎหมาย นักการเมืองเลวก็ไม่สามารถพ้นไปจากระบบได้
หากตั้งพรรคโดยไม่ต้องจดทะเบียน การรวมตัวกันเป็นพรรคการเมือง จะเกิดขึ้นด้วยสัจธรรม อุดมการณ์และจิตสำนึกต่อประเทศชาติ เราก็จะมีนักการเมืองที่มีคุณธรรม มีอุดมการณ์ที่มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง หากไม่มีอุดมการณ์ ชั่ว ก็จะล้มหายตายจาก ออกจากระบบไปเองโดยอัตโนมัติ
การเลือกตั้งเป็นวิธีการอย่างหนึ่งของการเข้าสู่อำนาจ วิธีการจึงเป็นของกลาง ซึ่งอาจนำไปใช้กับระบอบอะไรก็ได้ การเลือกตั้งจึงไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยเสมอไป จะเป็นระบอบอะไรนั้นต้องดูที่หลักการปกครอง (Principle of Government) และรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ก็ไม่มีหลักการปกครองหรือไม่มีระบอบที่ถูกต้องนั่นเอง การโฆษณาชวนเชื่อว่า การเลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตยและการเลือกตั้งคือการใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชน เป็นวิธีคิดที่โง่เขลาเบาปัญญาของผู้ปกครองที่สุด ประชาชนถ้ามีอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง ก็คือมีสิทธิในการสมัคร ส.ส.ได้อย่างอิสระด้วยความสำนึกต่อประเทศชาติ และเต็มใจที่จะไปเลือกตั้งด้วยจิตสำนึกในคุณค่าของระบอบการเมือง (หลักการปกครอง) โดยไม่ต้องถูกบังคับด้วยกฎหมาย
ฉะนั้น การที่ผู้ปกครองใช้อำนาจรัฐบังคับประชาชนไปเลือกตั้ง จึงเป็นการทำลายประเทศชาติ ทำลายสถาบันหลักของชาติ ทำลายประชาชนทั้งแผ่นดิน เพียงเพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้องเท่านั้นเอง
การเลือกตั้งของระบอบเผด็จการ มีการฆ่าผู้สมัคร, ฆ่าหัวคะแนน, ซื้อเสียง, จัดนำเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ, คูปองกินเที่ยวฟรี การใช้เงินอย่างมหาศาลและสารพัดกลโกง ยิ่งเลือกตั้งเหล่านักเลือกตั้งยิ่งต้องพัฒนาความเลวร้ายยิ่งขึ้น เราจะเลือกพรรคไหนๆ ก็จะได้ผู้แทน รัฐบาลลักษณะอสุรกาย เปรต สัตว์นรกและเดรัจฉานทั้งนั้น จึงเป็นเหตุให้มีการคอร์รัปชันทุกระดับ เหตุเพราะรัฐธรรมนูญมิจฉาทิฐินี่เอง
เหตุเพราะคณะยกร่างรัฐธรรมนูญมิจฉาทิฐิ จึงเป็นเหตุปัจจัยให้การเมืองมิจฉาทิฐิ ความเลวร้ายแผ่ครอบงำพรรคการเมือง นักการเมือง การเลือกตั้ง รัฐบาล กระทรวง ทบวง กรม จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ครอบครัว บุคคล คือส่วนที่สัมพันธ์เกี่ยวพันกันทั้งหมดในประเทศ ยากนักที่จะแก้ไข ประเทศชาติและประชาชนยังคงตกอยู่ในโคตรวงจรอุบาทว์แห่งมิจฉาทิฐิอย่างซ้ำซาก และความเสื่อมทรุดต่อไปอีกวาระหนึ่ง
โหวตโน เถอะครับพี่น้องปัญญาชนทั้งหลาย เพื่อเป็นพลังปัจจัยนำไปสู่การปฏิรูปสถาปนาหลักการปกครอง (ระบอบ) โดยธรรม
แนวทางแก้ไข “เมื่อผู้ปกครองมีสัมมาทิฐิ สถาปนาหลักการปกครองก่อนร่างรัฐธรรมนูญ นี่เป็นปัจจัยสัมมาทิฐิ การเลือกตั้งเป็นสัมมาทิฐิ... รัฐบาล การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ เป็นสัมมาทิฐิตามไปด้วย อย่างเป็นไปเองตามเหตุปัจจัยของเหตุและผล”
เมื่อพิจารณาการเมืองไทยปัจจุบัน รัฐธรรมนูญฉบับปี 50 เป็นเหตุแห่งความมิจฉาทิฐิ เอื้อประโยชน์ให้พรรคและคนร่ำรวยเพียงหยิบมือเดียว ระบอบเผด็จการนี้วัดกันที่ใครมีเงินมากกว่ากัน ทักษิณพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์กลุ่มนายทุนหนุนหลังลงขันเพียง 10,000 ล้าน ถึง 15,000 ล้านบาท ก็สามารถซื้อประเทศไทยได้แล้ว หัวหน้าพรรคใหญ่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี พวกเขาก็พูดย้ำบ่อยๆ ว่า “ผมมาจากการเลือกตั้งๆ” ส่วนนายทุนพรรคได้รับสัมปทานโครงการต่างๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อันตรายต่อชาติและไม่อาจจะแก้ไขได้เลย หากยังยอมรับระบอบเผด็จการนี้อยู่
สถาบันหลักของชาติก็ตกอยู่ในฐานะที่ลำบาก ทางแก้ไขที่ถูกต้องตามระบบรัฐสภา (Parliamentary System) คือ องค์ประมุขแห่งรัฐ คือพระเจ้าแผ่นดินทรงมีพระราชอำนาจอย่างแท้จริงในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี พวกพรรคเลวทราม จะไม่กล้าเสี่ยง ไม่กล้าลงทุนเป็นหมื่นล้าน เพราะประมุขแห่งรัฐอาจไม่ทรงแต่งตั้งก็ได้ เหตุเพราะใช้เงินซื้อเสียง ทรงแต่งตั้งผู้ที่มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ และมีความรู้ความสามารถที่แท้จริง (แต่มันเป็นไปไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 นี้)
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี ก็ไปจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่ต้องห่วงเรื่องประสานผลประโยชน์ (เงินทอง และอำนาจ) สามารถเลือกเอาคนดี มีคุณธรรมและมีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงมาเป็นรัฐมนตรี รัฐมนตรีท่านใดไม่มีความสามารถจริงก็ปลดออกทันที โดยไม่ต้องวิตกกังวลอะไร ประชาชนก็ได้ประโยชน์
ให้รู้อย่างถูกต้องว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ไม่ถือธรรมเป็นหลักการ ไม่ถือพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐอย่างแท้จริง ไม่ถืออำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน จึงเป็นเหตุปัจจัยในการปิดกั้นเสรีภาพทางการเมือง ประชาชนไม่มีความเสมอภาคทางโอกาส ไม่มีภราดรภาพ ไม่มีเอกภาพของชาติ และประชาชนไม่มีหลักนิติธรรมทางการเมืองในที่สุด มีเพียงวิธีการปกครอง คือ รัฐธรรมนูญ คือหมวด และมาตราต่างๆ เท่านั้น อุปมามีแต่กลุ่มดาวเคราะห์ แต่ไม่มีดวงอาทิตย์เป็นแกนกลาง ยังไงๆ มันก็ดำรงอยู่ไม่ได้ ผลของมันจึงกลายเป็น “นักการเมืองสัตว์นรก” ตามที่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล พูด
การก่อตั้งพรรค ต้องจดทะเบียนพรรค แบบจดทะเบียนบริษัท ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก พรรคการเมืองมารวมตัวกันโดยผลประโยชน์ พรรคจึงเติบโตโดยกฎหมาย นักการเมืองเลวก็ไม่สามารถพ้นไปจากระบบได้
หากตั้งพรรคโดยไม่ต้องจดทะเบียน การรวมตัวกันเป็นพรรคการเมือง จะเกิดขึ้นด้วยสัจธรรม อุดมการณ์และจิตสำนึกต่อประเทศชาติ เราก็จะมีนักการเมืองที่มีคุณธรรม มีอุดมการณ์ที่มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง หากไม่มีอุดมการณ์ ชั่ว ก็จะล้มหายตายจาก ออกจากระบบไปเองโดยอัตโนมัติ
การเลือกตั้งเป็นวิธีการอย่างหนึ่งของการเข้าสู่อำนาจ วิธีการจึงเป็นของกลาง ซึ่งอาจนำไปใช้กับระบอบอะไรก็ได้ การเลือกตั้งจึงไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยเสมอไป จะเป็นระบอบอะไรนั้นต้องดูที่หลักการปกครอง (Principle of Government) และรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ก็ไม่มีหลักการปกครองหรือไม่มีระบอบที่ถูกต้องนั่นเอง การโฆษณาชวนเชื่อว่า การเลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตยและการเลือกตั้งคือการใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชน เป็นวิธีคิดที่โง่เขลาเบาปัญญาของผู้ปกครองที่สุด ประชาชนถ้ามีอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง ก็คือมีสิทธิในการสมัคร ส.ส.ได้อย่างอิสระด้วยความสำนึกต่อประเทศชาติ และเต็มใจที่จะไปเลือกตั้งด้วยจิตสำนึกในคุณค่าของระบอบการเมือง (หลักการปกครอง) โดยไม่ต้องถูกบังคับด้วยกฎหมาย
ฉะนั้น การที่ผู้ปกครองใช้อำนาจรัฐบังคับประชาชนไปเลือกตั้ง จึงเป็นการทำลายประเทศชาติ ทำลายสถาบันหลักของชาติ ทำลายประชาชนทั้งแผ่นดิน เพียงเพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้องเท่านั้นเอง
การเลือกตั้งของระบอบเผด็จการ มีการฆ่าผู้สมัคร, ฆ่าหัวคะแนน, ซื้อเสียง, จัดนำเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ, คูปองกินเที่ยวฟรี การใช้เงินอย่างมหาศาลและสารพัดกลโกง ยิ่งเลือกตั้งเหล่านักเลือกตั้งยิ่งต้องพัฒนาความเลวร้ายยิ่งขึ้น เราจะเลือกพรรคไหนๆ ก็จะได้ผู้แทน รัฐบาลลักษณะอสุรกาย เปรต สัตว์นรกและเดรัจฉานทั้งนั้น จึงเป็นเหตุให้มีการคอร์รัปชันทุกระดับ เหตุเพราะรัฐธรรมนูญมิจฉาทิฐินี่เอง
เหตุเพราะคณะยกร่างรัฐธรรมนูญมิจฉาทิฐิ จึงเป็นเหตุปัจจัยให้การเมืองมิจฉาทิฐิ ความเลวร้ายแผ่ครอบงำพรรคการเมือง นักการเมือง การเลือกตั้ง รัฐบาล กระทรวง ทบวง กรม จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ครอบครัว บุคคล คือส่วนที่สัมพันธ์เกี่ยวพันกันทั้งหมดในประเทศ ยากนักที่จะแก้ไข ประเทศชาติและประชาชนยังคงตกอยู่ในโคตรวงจรอุบาทว์แห่งมิจฉาทิฐิอย่างซ้ำซาก และความเสื่อมทรุดต่อไปอีกวาระหนึ่ง
โหวตโน เถอะครับพี่น้องปัญญาชนทั้งหลาย เพื่อเป็นพลังปัจจัยนำไปสู่การปฏิรูปสถาปนาหลักการปกครอง (ระบอบ) โดยธรรม
