แหล่งข่าวจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญผู้หนึ่ง เปิดเผยว่า จากการที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่าที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับคัดเลือกเป็นประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพราะหลายคนเห็นว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์ทั้งการทำงานในเรื่องของคดี และงานบริหารเป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นคนตรงไปตรงมา มีความกล้าหาญ และประวัติส่วนตัวก็ไม่ได้มีเรื่องเสื่อมเสีย รักองค์กรและรักพวกพ้อง กล้าที่ปกป้องและชนกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้ ขณะเดียวกันก็มีความยุติธรรม เพียงพอที่จะเข้ามาทำหน้าที่นี้ จึงเชื่อว่าจะสามารถเข้ามาทำหน้าที่ได้ดี เพราะศาลจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของการทำงาน และยุคสมัยขณะนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ทำให้ศาลเองก็ต้องปรับตัว หากการทำงานยังคลุมเครือ อย่างที่เป็นอยู่ เชื่อว่าอนาคตศาลรัฐธรรมนูญจะอยู่ไปไม่รอด
ในขณะที่ความรับผิดชอบของผู้ทำหน้าที่เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตุลาการหลายคนก็เห็นว่าเป็นจุดอ่อนที่ต้องมีการปรับปรุงให้เกิดความคล่องตัว และทำงานเชิงรุกมากขึ้น อีกทั้งต้องเป็นกระบอกเสียงของตุลาการฯ และสำนักงานฯได้
แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า เมื่อตุลาการฯ ก็ตกเป็นเป้าถูกโจมตี แต่การชี้แจงต่อสาธารณชนไม่ได้ฉับไว เท่าทัน ทำให้ตัวตุลาการฯ และสำนักงานฯ ต้องเกิดความเสียหาย จนทำให้ตุลาการฯ ที่ได้รับผลกระทบต้องใช้กระบวนการของศาลยุติธรรมเพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ตรวจสอบความบริสุทธิ์
ดังนั้นหากนายวสันต์ ได้รับตำแหน่งอย่างสมบูรณ์ ก็คงต้องมีการสะสางในหลายเรื่องที่ค้างคาใจของสังคมให้เกิดความกระจ่างได้ ซึ่งนายวสันต์ ได้เคยพูดไว้ว่ากระบวนการตรวจสอบเรื่องข้อสอบรั่ว และเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างรถเลกซัส ที่มีการถูกล่าวหาว่ามีการทุจริต หากใครผิดจะต้องรับผิดชอบและเรื่องดังกล่าวเกิดก่อนที่ตุลาการฯชุดนี้ได้เข้ามารับตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มีการประชุมได้ตัวประธานศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ทางคณะตุลาการฯ ก็ได้กำชับให้เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ส่งรายงานการประชุม และรายชื่อนายวสันต์ ที่ได้รับคัดเลือกจากคณะตุลาการฯให้เป็นประธานฯแล้ว และใบลาออกจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ของนายชัช ชลวร ส่งให้ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ ต่อไป
ทางด้านนางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยว่า ตนก็รอรับหนังสือจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญอยู่ และเมื่อวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้มีการโทรประสานมาถามเช่นกันว่า เอกสารมาถึงหรือยัง ทั้งนี้ตนคาดว่าในวันจันทร์ที่ 30 ส.ค.น่าจะส่งมายังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จากนั้นประธานวุฒิก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป ซึ่งในขั้นตอนของวุฒิสภาไม่ชักช้า เพราะต้องดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญ
ในขณะที่ความรับผิดชอบของผู้ทำหน้าที่เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตุลาการหลายคนก็เห็นว่าเป็นจุดอ่อนที่ต้องมีการปรับปรุงให้เกิดความคล่องตัว และทำงานเชิงรุกมากขึ้น อีกทั้งต้องเป็นกระบอกเสียงของตุลาการฯ และสำนักงานฯได้
แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า เมื่อตุลาการฯ ก็ตกเป็นเป้าถูกโจมตี แต่การชี้แจงต่อสาธารณชนไม่ได้ฉับไว เท่าทัน ทำให้ตัวตุลาการฯ และสำนักงานฯ ต้องเกิดความเสียหาย จนทำให้ตุลาการฯ ที่ได้รับผลกระทบต้องใช้กระบวนการของศาลยุติธรรมเพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ตรวจสอบความบริสุทธิ์
ดังนั้นหากนายวสันต์ ได้รับตำแหน่งอย่างสมบูรณ์ ก็คงต้องมีการสะสางในหลายเรื่องที่ค้างคาใจของสังคมให้เกิดความกระจ่างได้ ซึ่งนายวสันต์ ได้เคยพูดไว้ว่ากระบวนการตรวจสอบเรื่องข้อสอบรั่ว และเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างรถเลกซัส ที่มีการถูกล่าวหาว่ามีการทุจริต หากใครผิดจะต้องรับผิดชอบและเรื่องดังกล่าวเกิดก่อนที่ตุลาการฯชุดนี้ได้เข้ามารับตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มีการประชุมได้ตัวประธานศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ทางคณะตุลาการฯ ก็ได้กำชับให้เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ส่งรายงานการประชุม และรายชื่อนายวสันต์ ที่ได้รับคัดเลือกจากคณะตุลาการฯให้เป็นประธานฯแล้ว และใบลาออกจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ของนายชัช ชลวร ส่งให้ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ ต่อไป
ทางด้านนางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยว่า ตนก็รอรับหนังสือจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญอยู่ และเมื่อวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้มีการโทรประสานมาถามเช่นกันว่า เอกสารมาถึงหรือยัง ทั้งนี้ตนคาดว่าในวันจันทร์ที่ 30 ส.ค.น่าจะส่งมายังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จากนั้นประธานวุฒิก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป ซึ่งในขั้นตอนของวุฒิสภาไม่ชักช้า เพราะต้องดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญ