ASTVผู้จัดการรายวัน - บล.บิฟิท งวดนี้กำไรโต 67% ผลดีรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์สูงขึ้นและรับรู้เงินปันผลจากการลงทุน ด้าน " ไดเมท (สยาม) " งวดนี้ขาดทุน 12.55 ล้านบาท ขณะปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5.60 ล้านบาท เหตุราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้นทำให้กำไรขั้นต้นลดลง และค่าใช้จ่ายการขายและการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่ม
นางสาวเสาวคนธ์ ลิมอักษร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสนับสนุนธุรกิจหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) หรือ BSEC แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปี 54 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 15.83 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 9.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.35 ล้านบาท คิดเป็นเติบโต 66.98%
และเมื่อเทียบกำไรสุทธิประจำงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 54 ปรากฏผลกำไรสุทธิ 21.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 236.67 % เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 6.37 ล้านบาทในปี 53 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้กำไรสุทธิงวด 6 เดือนของปี 54 ปรับตัวสูงขึ้นคือ การเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งเพิ่มจาก 9.56 ล้านบาทในปี 53 เป็น 30.03 ล้านบาทในปีปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้น 214.01% เนื่องจากการปรับเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของลูกค้าในบัญชีเครดิตบาลานซ์
นอกจากนี้รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันจาก 12.06 ล้านบาทในปี 53 เป็น 16.14ล้านบาทในปีปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้น 33.87 % ซึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตลอดจนบริษัทรับรู้เงินปันผลจากการลงทุนของบริษัท ส่วนรายการกำไรจากเงินลงทุนมีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกันกล่าวคือเพิ่มขึ้น 16.48 % เมื่อเทียบกับ 8.60 ล้านบาทในปีก่อนหน้า 10.01 ล้านบาทในปีปัจจุบันซึ่งเป็นผลจากการขายเงินลงทุนของบริษัทระหว่างงวด ส่วนรายได้ค่านายหน้าของบริษัทปรับตัวลดลงกว่า 16.10 % เมื่อเทียบ 65.64ล้านบาทในปี 53 กับ 55.07 ล้านบาทในปี 54 เนื่องจากบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลงในระหว่างงวด 6 เดือนที่ผ่านมา
ขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวมลดลงจาก 90.68 ล้านบาทในงวด 6 เดือนปี 53 เทียบกับ 84.81 ล้านบาทในปี 54 หรือ 6.48 %ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายบริษัทปรับตัวลดลงคือค่าธรรมเนียมและบริการที่จ่ายหน่วยงานทางการที่ลดลงซึ่งแปรผันตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าตลอดจนการลดลงของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่ และอุปกรณ์ เป็นต้น
DIMETขาดทุนกว่า12ล้าน
นายสุรพล รุจิกาญจนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 54 ซึ่งบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 12.55 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5.60 ล้านบาท หรือขาดทุน 18.15 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุน 324.10% เนื่องจากราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้นทำให้กำไรขั้นต้นหรือมาร์จิ้นลดลง ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตลาดสีทาอาคาร และการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นสุทธิ 6.2 ล้านจากปีที่ผ่านมาและงวดนี้บริษัทมี มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 359.89 ล้านบาทจากปีก่อน 288.86 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 24.59 % ทั้งนี้ในส่วนของงบการเงินเฉพาะกิจการได้ตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อย 3.7 ล้านบาท
จากผลการดำเนินงานที่ตกต่ำ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2554 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 54 จึงมีมติให้งดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 54 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 54 และกำหนดให้มีการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 54 ในวันที่ 20 ตุลาคม 54 ณ ห้อง 1104 ชั้น 11 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 54 ในวันที่ 6 กันยายน 54 และให้รวบรวมรายชื่อ โดยวิธิปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 7 กันยายน 54
นางสาวเสาวคนธ์ ลิมอักษร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสนับสนุนธุรกิจหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) หรือ BSEC แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปี 54 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 15.83 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 9.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.35 ล้านบาท คิดเป็นเติบโต 66.98%
และเมื่อเทียบกำไรสุทธิประจำงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 54 ปรากฏผลกำไรสุทธิ 21.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 236.67 % เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 6.37 ล้านบาทในปี 53 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้กำไรสุทธิงวด 6 เดือนของปี 54 ปรับตัวสูงขึ้นคือ การเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งเพิ่มจาก 9.56 ล้านบาทในปี 53 เป็น 30.03 ล้านบาทในปีปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้น 214.01% เนื่องจากการปรับเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของลูกค้าในบัญชีเครดิตบาลานซ์
นอกจากนี้รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันจาก 12.06 ล้านบาทในปี 53 เป็น 16.14ล้านบาทในปีปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้น 33.87 % ซึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตลอดจนบริษัทรับรู้เงินปันผลจากการลงทุนของบริษัท ส่วนรายการกำไรจากเงินลงทุนมีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกันกล่าวคือเพิ่มขึ้น 16.48 % เมื่อเทียบกับ 8.60 ล้านบาทในปีก่อนหน้า 10.01 ล้านบาทในปีปัจจุบันซึ่งเป็นผลจากการขายเงินลงทุนของบริษัทระหว่างงวด ส่วนรายได้ค่านายหน้าของบริษัทปรับตัวลดลงกว่า 16.10 % เมื่อเทียบ 65.64ล้านบาทในปี 53 กับ 55.07 ล้านบาทในปี 54 เนื่องจากบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลงในระหว่างงวด 6 เดือนที่ผ่านมา
ขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวมลดลงจาก 90.68 ล้านบาทในงวด 6 เดือนปี 53 เทียบกับ 84.81 ล้านบาทในปี 54 หรือ 6.48 %ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายบริษัทปรับตัวลดลงคือค่าธรรมเนียมและบริการที่จ่ายหน่วยงานทางการที่ลดลงซึ่งแปรผันตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าตลอดจนการลดลงของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่ และอุปกรณ์ เป็นต้น
DIMETขาดทุนกว่า12ล้าน
นายสุรพล รุจิกาญจนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 54 ซึ่งบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 12.55 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5.60 ล้านบาท หรือขาดทุน 18.15 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุน 324.10% เนื่องจากราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้นทำให้กำไรขั้นต้นหรือมาร์จิ้นลดลง ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตลาดสีทาอาคาร และการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นสุทธิ 6.2 ล้านจากปีที่ผ่านมาและงวดนี้บริษัทมี มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 359.89 ล้านบาทจากปีก่อน 288.86 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 24.59 % ทั้งนี้ในส่วนของงบการเงินเฉพาะกิจการได้ตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อย 3.7 ล้านบาท
จากผลการดำเนินงานที่ตกต่ำ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2554 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 54 จึงมีมติให้งดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 54 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 54 และกำหนดให้มีการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 54 ในวันที่ 20 ตุลาคม 54 ณ ห้อง 1104 ชั้น 11 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 54 ในวันที่ 6 กันยายน 54 และให้รวบรวมรายชื่อ โดยวิธิปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 7 กันยายน 54