นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 22 ส.ค. เวลา 14.30 น. คณะกรรมการวิชาการ วุฒิสภา จะจัดสัมมนา เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับ ส.ว.ในการอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยมี น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา และนักวิชาการ อาทิ นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ มาร่วมอภิปรายแสดงความเห็น
ทั้งนี้ ถือว่าเป็นการอภิปรายนโยบายรัฐบาลเต็มรูปแบบอีกครั้ง เนื่องจากในสมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี การแถลงนโยบายของรัฐบาล มีเหตุการณ์ทางการเมืองการแถลงนโยบายทำได้ไม่เต็มที่ แต่ก็น่าเสียดาย เพราะกำหนดเวลาอภิปรายเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ส.ว.ที่จะร่วมอภิปรายในครั้งนี้มีผู้แสดงความจำนงจำนวนมาก แต่ได้รับจัดสรรเวลาเพียง 42 คนเท่านั้น
** ส.ว.ชงรัฐบาลทบทวน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายเจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง กล่าวว่าในการประชุมรัฐสภา เพื่อรับฟังการแถลงนโยบายรัฐบาล วันที่ 23-24 ส.ค.นี้ มีประเด็นที่จะเสนอต่อรัฐบาล คือ การป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งช่วง 2-3 ปีมานี้ ไม่สามารถจัดการข้าราชการที่ทุจริตได้เลย อีกเรื่องคือนโยบายปรองดองของรัฐบาล การปรองดองไม่ใช่แค่การจ่ายเงินชดเชยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสอบสวนค้นหาความจริงให้ประชาชนรับรู้ด้วย ว่าเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 53 ใครเป็นคนสั่งการ ใครต้องมีส่วนรับผิดชอบบ้าง เพราะแม้จะจ่ายเงินเยียวยาไปก็ไม่ทำให้ความขัดแย้งจบลง จะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนแก้ไข พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเหตุการณ์ เม.ย.-ส.ค. ที่ผ่านมา หรือเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดภคใต้ ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐมากเกินไป ทั้งอำนาจปิดสื่อ การตั้งข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่เกินจริง การใช้อาวุธของผู้ปฏิบัติ เพราะความรู้ความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติไม่ได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้นเมื่อใช้มาแล้ว 3-4 ปี หากไม่ทบทวนแก้ไข เจ้าหน้าที่รัฐก็จะยิ่งใช้อำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราต้องทบทวนจากบทเรียนที่ผ่านมา เพื่อกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ปฏิบัติให้ชัดเจน
** ส.ว.ลุยพื้นที่สุราษฎร์พบชาวใต้ 5 จว.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (21 ส.ค.) ที่โรงแรมมาสยามธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายนิคม ไวยรัชพานิช ได้เป็นประธานในโครงการ “สมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน” โดยมี ส.ว.และตัวแทนประชาชนกว่า 200 คน ใน 5 จังหวัดประกอบด้วย จ.ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง พัทลุง และสุราษฎร์ธานี เข้าร่วม โดยมีนักวิชาการจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาอภิปราย “เรื่องการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือภัยธรรมชาติอันเนื่องมาวาตภัย และอุทกภัย” โดยผู้เข้าร่วมโครงการ ได้นำเสนอประเด็นปัญหา และข้อเสนอแนะในประเด็นการแก้ปัญหาเกี่ยวเนื่องกับภัยธรรมชาติดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนประชาชนได้สะท้อนปัญหาหลากหลายในพื้นที่ต่อที่ประชุม โดยตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แสดงความอึดอัดใจต่อการบริหารราชแผ่นดินของรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งไม่สนใจปัญหาของ 5 จังหวัดภาคใต้ ดังกล่าวโดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ไม่เคยฟังความคิดเห็นจากประชาชนเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ยื่นหนังสือ ต่อนายนิคม เพื่อเรียกร้องให้วุฒิสภา สนับสนุนการออกกฎหมาย พ.ร.บ.องค์กรเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคที่เป็นที่อิสระ พ.ศ.... เพื่อเป็นประโยชน์กับการคุ้มครองผู้บริโภค ตามเจตรมย์ของรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้เป็นกฎหมายที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย โดยผ่านสภา 3 วาระแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา แต่รัฐบาลได้ยุบสภาไปทำให้การพิจารณากฎหมายหยุดชะงัก ดังนั้น เมื่อมีรัฐบาลใหม่ร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ภายใน 60 วัน หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ทั้งนี้ ถือว่าเป็นการอภิปรายนโยบายรัฐบาลเต็มรูปแบบอีกครั้ง เนื่องจากในสมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี การแถลงนโยบายของรัฐบาล มีเหตุการณ์ทางการเมืองการแถลงนโยบายทำได้ไม่เต็มที่ แต่ก็น่าเสียดาย เพราะกำหนดเวลาอภิปรายเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ส.ว.ที่จะร่วมอภิปรายในครั้งนี้มีผู้แสดงความจำนงจำนวนมาก แต่ได้รับจัดสรรเวลาเพียง 42 คนเท่านั้น
** ส.ว.ชงรัฐบาลทบทวน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายเจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง กล่าวว่าในการประชุมรัฐสภา เพื่อรับฟังการแถลงนโยบายรัฐบาล วันที่ 23-24 ส.ค.นี้ มีประเด็นที่จะเสนอต่อรัฐบาล คือ การป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งช่วง 2-3 ปีมานี้ ไม่สามารถจัดการข้าราชการที่ทุจริตได้เลย อีกเรื่องคือนโยบายปรองดองของรัฐบาล การปรองดองไม่ใช่แค่การจ่ายเงินชดเชยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสอบสวนค้นหาความจริงให้ประชาชนรับรู้ด้วย ว่าเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 53 ใครเป็นคนสั่งการ ใครต้องมีส่วนรับผิดชอบบ้าง เพราะแม้จะจ่ายเงินเยียวยาไปก็ไม่ทำให้ความขัดแย้งจบลง จะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนแก้ไข พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเหตุการณ์ เม.ย.-ส.ค. ที่ผ่านมา หรือเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดภคใต้ ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐมากเกินไป ทั้งอำนาจปิดสื่อ การตั้งข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่เกินจริง การใช้อาวุธของผู้ปฏิบัติ เพราะความรู้ความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติไม่ได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้นเมื่อใช้มาแล้ว 3-4 ปี หากไม่ทบทวนแก้ไข เจ้าหน้าที่รัฐก็จะยิ่งใช้อำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราต้องทบทวนจากบทเรียนที่ผ่านมา เพื่อกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ปฏิบัติให้ชัดเจน
** ส.ว.ลุยพื้นที่สุราษฎร์พบชาวใต้ 5 จว.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (21 ส.ค.) ที่โรงแรมมาสยามธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายนิคม ไวยรัชพานิช ได้เป็นประธานในโครงการ “สมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน” โดยมี ส.ว.และตัวแทนประชาชนกว่า 200 คน ใน 5 จังหวัดประกอบด้วย จ.ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง พัทลุง และสุราษฎร์ธานี เข้าร่วม โดยมีนักวิชาการจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาอภิปราย “เรื่องการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือภัยธรรมชาติอันเนื่องมาวาตภัย และอุทกภัย” โดยผู้เข้าร่วมโครงการ ได้นำเสนอประเด็นปัญหา และข้อเสนอแนะในประเด็นการแก้ปัญหาเกี่ยวเนื่องกับภัยธรรมชาติดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนประชาชนได้สะท้อนปัญหาหลากหลายในพื้นที่ต่อที่ประชุม โดยตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แสดงความอึดอัดใจต่อการบริหารราชแผ่นดินของรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งไม่สนใจปัญหาของ 5 จังหวัดภาคใต้ ดังกล่าวโดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ไม่เคยฟังความคิดเห็นจากประชาชนเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ยื่นหนังสือ ต่อนายนิคม เพื่อเรียกร้องให้วุฒิสภา สนับสนุนการออกกฎหมาย พ.ร.บ.องค์กรเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคที่เป็นที่อิสระ พ.ศ.... เพื่อเป็นประโยชน์กับการคุ้มครองผู้บริโภค ตามเจตรมย์ของรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้เป็นกฎหมายที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย โดยผ่านสภา 3 วาระแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา แต่รัฐบาลได้ยุบสภาไปทำให้การพิจารณากฎหมายหยุดชะงัก ดังนั้น เมื่อมีรัฐบาลใหม่ร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ภายใน 60 วัน หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
