xs
xsm
sm
md
lg

กสม.ชำแหละ"ประชานิยม" ไร้สาระหลอกลวงประชาชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อวานนี้ ( 14 ก.ค. ) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้จัดสัมมนา เรื่องประชานิยมกับสิทธิในสังคมไทย โดยมีนายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ( ทีดีอาร์ไอ ) นายบุญส่ง ชเลธร คณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง และนายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วมบรรยาย
นายนิพนธ์ กล่าวว่าประชานิยมเปรียบเสมือนเป็นวาทศิลป์ของเหล่าบรรดานักการเมืองที่ใช้ในการหาเสียงโดยอ้างว่าสะท้อนความต้องการของประชาชน ซึ่งแนวคิดเช่นนี้เป็นแนวคิดที่แตกต่างจากรัฐนิยม ที่เป็นการขับเคลื่อนจากแนวคิดมาสู่ฐานล่าง ทั้งนี้ต่างประเทศมองประชานิยมของไทยว่า เป็นแนวคิดฐานราก เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพ ลืมตาอ้าปากได้ เช่น โครงการให้สินเชื่อ นโยบายลดภาษี ซื้อรถและบ้าน ซึ่งพรรคการเมืองต่างก็รู้ว่า จะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ต้องการชนะใจประชาชน ดังนั้นจึงต้องมีนโยบายที่มีเป้าหมายทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ลดความเหลื่อมล้ำคือการพัฒนาคุณภาพของมนุษย์ หากต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างทั่วถึง ต้องสร้างฐานความรู้ของคน และธุรกิจของรัฐ ทำให้นักธุรกิจต้องการเข้าสู่อำนาจของรัฐ ดังนั้นสิ่งที่อันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยคือ นักธุรกิจเข้ามาเล่นการเมือง เพื่อต้องการสนับสนุนธุรกิจของตนเองและครอบครัว โดยใช้อำนาจทางการเมือง

** ประชานิยมแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ด้านนายบุญส่ง กล่าวว่า การนำเสนอสิ่งที่ประชาชนชอบของพรรคการเมืองคือประชานิยม เพื่อหวังให้ประชาชนเกิดความชื่นชม ทั้งนี้ ประชานิยมในประเทศไทยได้ใช้มาตลอด 4-5 ปี และรัฐบาลชุดนี้ก็ใช้ประชานิยม แต่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นประชาภิวัฒน์ จุดอ่อนของประชานิยมคือ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว หากเปลี่ยนรัฐบาล หรือเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี โครงการเหล่านี้ยังคงอยู่หรือไม่ หากรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาโครงการประชานิยมก็คงหายไป เพราะรัฐบาลจะมองประชานิยมแค่ระยะสั้น หรือมองแค่ปลายจมูกเท่านั้น แต่รัฐสวัสดิการนั้นมองถึงอนาคตของลูกหลาน
"นโยบายประชานิยมของพรรคการเมืองที่หาเสียงบนท้องถนน ทำได้ทุกเรื่อง แต่ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า 1. เอาเงินที่ไหนมาทำ 2. หากมีเงินทำ สิ่งที่นำเสนอนั้นเหมาะสมและสมควรหรือไม่ เพราะทุกอย่างต้องมีการวางแผน นโยบายที่เสนอของรัฐบาลชุดใหม่ หากสังเกตให้ดีนั้น เป็นการเสนอนโยบายเพื่อหาเสียงอย่างแท้จริง ไม่ได้มีแผนงานโครงการรองรับว่าจะทำได้โดยวิธีใด เพียงแค่เสนอเท่านั้น เช่น จบปริญญาตรีมีเงินเดือน 15,000 บาท ผมถามว่าในส่วนของผู้ที่จบปริญญาโท และเอก ที่จะต้องถูกดันขึ้นทั้งระบบ ต้องรื้อทั้งระบบเลยหรือไม่ ประชานิยมแก้ไขปัญหาได้ในเบื้องต้น แต่ไม่ได้แก้ไขปัญหาในระยะยาว สิ่งเหล่านี้ไม่ได้คำนึงถึงภาวะการคลังในอนาคต วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องก้าวข้ามผ่าน คำว่า ประชานิยม เพื่อให้สังคมก้าวไปข้างหน้าด้วยคำว่า รัฐสวัสดิการหรือ สังคมสวัสดิการแทน" นายบุญส่ง กล่าว
**แค่เรื่องไร้สาระหลอกลวงประชาชน

ขณะที่นายณรงค์ กล่าวว่า ประชานิยมทุกวันนี้เป็นภาษาตลาด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไร้สาระ เพ้อเจ้อ หลอกลวงประชาชน หากไม่ใช่ประชานิยมต้นฉบับ ตนในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ มีความรู้สึกรังเกียจประชานิยมจอมปลอม
ส่วนรัฐสวัสดิการ หรือสวัสดิการโดยรัฐนั้นมีอยู่ทุกรัฐ ไม่มีประเทศใดที่ไม่มี เพราะอย่างน้อยโรงเรียนระดับประถมศึกษาทุกประเทศก็ให้เรียนฟรี นี่คือสวัสดิการโดยรัฐ ประชานิยม คือการลดแลกแจกแถมที่ไม่ต้องคำนึงถึงหน้าที่ของประชาชนที่ต้องช่วย แต่รัฐสวัสดิการนั้น ประชาชนต้องมีส่วนช่วยเหลือ หากเราต้องการให้มีรัฐสวัสดิการทั่วหน้า โดยรัฐเป็นผู้จัดการ แต่ไม่จำเป็นต้องลงทุนให้ทุกอย่าง ทั้งนี้ถ้าสังคมไทยยังนิยมเลี่ยงภาษี ก็จะเกิดรัฐสวัสดิการไม่ได้
นายณรงค์ กล่าวต่อว่า ปัญหาหลักของสังคมไทยคือ ความไม่เป็นธรรม ซึ่งดูได้จากความเหลื่อมล้ำ 5 ประการ ได้แก่ รายได้ สิทธิ โอกาส อำนาจ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เราต้องปรับความสัมพันธ์ในส่วนเหล่านี้ทั้งหมด การปฏิรูปสังคมไทยเท่ากับปรับความสัมพันธ์เชิงอำนาจ ยุคนี้ทุนกับรัฐเป็นเนื้อเดียวกัน ประชาชนตกอยู่ภายใต้การครอบงำของทุนที่มีอำนาจมหาศาล ระบบประชานิยมแบบไทยนั้นเสริมเขี้ยวปลาใหญ่ให้กินปลาเล็ก
กำลังโหลดความคิดเห็น