นครพนม- พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์พร้อมเวชภัณฑ์อาหารสัตว์ช่วยกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม ขณะที่ยอดเงินล่าสุดมีผู้บริจาคแล้วกว่า 14 ล้านบาท ด้านหัวหน้าด่านกักสัตว์นครพนมยันเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องรัดกุมก่อนจะส่งคืนสุนัขที่เจ้าของแจ้งสูญหาย หวั่น 18 มงกุฎแฝงตัวแจ้งหายแล้วเลือกเฉพาะสุนัขพันธุ์ดีราคาแพงไปขายต่อ ได้ราคาสูง3-4พันบาท/ตัว ขณะที่บางรายขอไปแล้วนำไปชำแหละเป็นอาหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังข่าวการตรวจยึดสุนัขที่นครพนมเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลก ส่งผลให้ประชาชนคนรักสุนัขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทราบข่าว ต่างระดมนำอาหารและบริจาคเงินเข้าบัญชีช่วยเจ้าตูบไม่ขาดสาย และยังวนเวียนไปที่ด่านกักกันสัตว์ฯ เพื่อสอดส่องดูในกรงขังว่าใช่สุนัขที่สูญหายพลัดพรากไปหรือไม่ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์ยังระดมสัตวแพทย์ เร่งช่วยเยียวยารักษาอาการสุนัขที่บาดเจ็บต่อเนื่อง ส่วนทหารอาสา นพค.22 นทพ. อ.นาแก เองก็ได้เข้ามาช่วยสร้างกรงขังสุนัขให้แข็งแรงขึ้น และแยกสุนัขออกเป็นสัดส่วน
วานนี้( 18 ส.ค.)นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เป็นประธานในพิธีเปิดกรวยถวายความเคารพต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ เพื่อรับประทานเงินช่วยเหลือจากพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เพื่อเป็นการสมทบทุนช่วยเหลือกองทุนสุนัขนครพนม
ทั้งนี้ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาฯ พร้อมพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ได้ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท พร้อมกับเวชภัณฑ์อาหารสัตว์ เป็นเงิน จำนวน 7,000 บาท และหัวอาหารสุนัข จำนวน 10 กระสอบ โดยจะได้นำไปช่วยเหลือสุนัขที่ตรวจยึดมารักษาไว้ที่ด่านกักกันสัตว์จังหวัดนครพนมในโอกาสต่อไป ทั้งนี้มีนายไพรัช ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม พร้อมข้าราชการ ร่วมพิธี
นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่าสุนัขที่จัดเก็บดูแลไว้ที่ด่านกักกันสัตว์เป็นผลมาจากการเข้าตรวจยึด มาจาก พื้นที่ อ.นาทม และ อ.ศรีสงคราม ขณะที่ขบวนการลักลอบขนสุนัขข้ามชาติ กำลังลำเลียงขนส่ง เตรียมส่งต่อไปขายยังประเทศเวียดนาม จึงได้มีการจับกุมตรวจยึดสุนัขทั้งหมด จำนวน 1,260 ตัว กับผู้ต้องหาอีก 5 ราย นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2554 ก่อนนำมาเก็บรักษาไว้ที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม
หลังจากตรวจยึดมาได้แล้วทำให้มีสุนัขบางส่วนบาดเจ็บป่วยตาย ล่าสุด เหลือสุนัขจำนวน 993 ตัว โดยจังหวัดนครพนม ได้มีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม เพื่อนำเงินไปสมทบในการดูแลรักษาสุนัข ที่ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดจากการตรวจสอบยอดเงินบริจาค พบว่า มีผู้บริจาคเงินจำนวนกว่า 14.5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากใครสนใจสามารถติดต่อสอบถาม ร่วมบริจาคได้ที่ โทร. 084-9582134 และ 042-522591 ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถโอนเงินผ่านบัญชี ชื่อ บัญชีกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม ธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัสนครพนม เลขที่บัญชี 666-009-7947 หรือ ธนาคารกรุงไทย สาขานครพนม ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม กระแสรายวัน เลขที่บัญชี 408-6-05284-9
ด้านนายชูศักดิ์ พงษ์พานิชย์ หัวหน้าด่านกักสัตว์ จ.นครพนม กล่าวว่า ขณะนี้สุนัขที่อยู่ในความดูแลมีทั้งอ่อนล้าจากการขนย้าย และบาดเจ็บ ซึ่งได้มีการคัดแยกและจัดแบ่งซอยคอกเป็นสัดส่วน แยกพักตัวที่ป่วย พักฟื้น และคอกแม่สุนัขที่ออกลูกแรกเกิดออกจากกัน หลังมีแม่สุนัข 2 ตัว ท้องแก่ตัวหนึ่งออกลูก 9 ตัว ตาย 8 ตัว ช่วยชีวิตได้ 1 ตัวส่วนแม่ปลอดภัย อีกตัวออกลูก 8 ตัว เหลือ 5 ตัว ส่วนแม่ตายหลังมีอาการอ่อนแอหนัก
สำหรับประชาชนที่จะมาขอสุนัขไปเลี้ยงต้องรอคดีความเสร็จสิ้น คือ ศาลตัดสิน ขณะที่เจ้าของสุนัขนั้น ก็สามารถไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สุนัขถูกลักขโขมย และนำหลักฐานมาแสดง เพื่อนำสุนัขกลับไปเลี้ยงดูได้ต่อไป
นายชูศักดิ์กล่าวอีกว่า การส่งมอบสุนัข เจ้าหน้าที่ต้องพิจารณารอบด้านและรัดกุม เพราะคนมาขอสุนัขและมาแจ้งว่าสุนัขของตนหายนั้นมีหลายรูปแบบ บางคนมีการแอบแฝงในคราบผู้ใจบุญมาแจ้งว่า มีสุนัขของตนอยู่ในคอกแต่จะเลือกเฉพาะสุนัขพันธุ์ดี รูปทรงสวยสมบูรณ์ มีราคาแพง เมื่อได้ไปแล้วก็นำไปขายต่อตัวละ 3,000-4,000 บาท บ้างก็ทำทีมาแจ้งขอสุนัขไปเลี้ยงที่บ้าน แต่มาทราบทีหลังว่าได้เอาไปฆ่าชำแหละกินเป็นอาหาร พฤติกรรมลักษณะเช่นนี้ ต้องระมัดระวังทุกขั้นตอน ยกตัวอย่างมาแจ้งว่าเป็นสุนัขของตนที่สูญหายมีหลักฐานภาพถ่ายไหม
“หากไม่มีภาพถ่ายเป็นหลักฐานก็ต้องพิสูจน์ด้วยสัญชาติญาณระหว่างเจ้าของกับสุนัข ซึ่งมันจะมีสัมผัสที่ 6 ออกมาให้เห็นระหว่างความรักที่มีต่อกัน หรือให้เจ้าของจับอุ้ม สุนัขใช้ลิ้นเลียเจ้าของเหมือนเคยอยู่ด้วยกันหรือไม่ และคนที่มาขอสุนัขไปเลี้ยงเราต้องดูว่าเขาจะเลี้ยงได้หรือไม่ ต้องการเลี้ยงจริงๆหรือเปล่า”นายชูศักดิ์อธิบาย
นายโรเจอร์ โลหนันท์ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ กล่าวเสริมว่ากรณีที่ใครจะมาขอสุนัขของกลางที่คดียังไม่สิ้นสุดนั้น ไม่ใช่แค่บีบน้ำตาออกทีวีก็จะได้รับกลับคืนไป เช่นหญิงคนหนึ่ง ที่สงสัยว่าสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ชื่อ “เจ้าถุงเงิน”ที่หายไป แต่กลับกลายเป็นว่าต่อมาเจ้าของตัวจริงเขานำภาพถ่ายหลักฐานมาขอรับคืน มีหลักฐานชัดเจน เป็นเรื่องโอละพ่อ เจ้าถุงเงินที่ว่าเกือบหนีเสือปะจระเข้ไปแล้ว