นครพนม-เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เร่งรักษาเยียวยาสุนัข หลังอิดโรยหนักและล่าสุดตายแล้ว 250 ตัว ส่วนเจ้าของแห่ตามหาลูกรัก แต่ต้องผิดหวังรับกลับไม่ได้ ต้องรอคดีสิ้นสุดก่อน ส่วนการเปิดบัญชีรับบริจาคจากผู้ใจบุญ ยอดทะลุ 1.5 ล้านบาทแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่จังหวัดตรวจยึดสุนัขจำนวน กว่า 1,000 ตัว ที่เตรียมลำเลียงผ่านพื้นที่จ.นครพนม ส่งไปขายยังประเทศเวียดนาม วานนี้ (16 ส.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้นำสุนัขมาเก็บรักษาไว้ที่ด่านกักสัตว์นครพนม ที่มีการระดมเจ้าหน้าที่ทีมสัตวแพทย์ จากกรมปศุสัตว์ รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลรักษาเยียวยา เนื่องจากสุนัขส่วนใหญ่อยู่ในสภาพอิดโรย ผอมโซ บางตัวได้รับบาดเจ็บจากการลำเลียงขนย้าย มาเป็นเวลานาน ก่อนเตรียมนำส่งต่อไปขาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการระดมคัดแยกสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บออกมารักษา เยียวยา พร้อมฉีดยาวัคซีนรักษาโรค และยังพบว่าบางตัวเป็นสุนัขตั้งท้องแก่ แต่ได้รับบาดเจ็บไม่สามารถคลอดลูกเองได้ จึงต้องให้ความช่วยเหลือทำคลอด ช่วยเหลือชีวิต
อย่างไรก็ตาม ในการเลี้ยงดูยังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร จังหวัดได้มีการเปิดกองทุนช่วยเหลือสุนัข สามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม ได้ที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาโลตัส เลขที่บัญชี 666-009-7947 หรือสามารถบริจาคเป็นหัวอาหาร โดยติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 084-9582134 และ 042-522591 ตลอด 24 ชั่วโมง ล่าสุดมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเข้าบัญชีแล้วกว่า 1.5 ล้านบาท ส่วนหัวอาหารมีมากกว่า 2 ตัน ที่เพียงพอในการเลี้ยงดูระยะหนึ่ง
นายไพรัช ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์นครพนม กล่าวถึงปัญหาที่พบในขณะนี้ ว่า เป็นห่วงเรื่องการดูแลรักษา เนื่องจากสุนัขบอบช้ำในการขนย้ายมานาน ทำให้ตัวที่ได้รับบาดเจ็บหนักทยอยตายรายวัน ล่าสุดขณะนี้เหลือสุนัขทั้งหมด ราว 1,000 ตัว ตายไปแล้วประมาณ 250 ตัว และถูกปล่อยทิ้งเข้าป่าช่วงติดตามจับกุมอีกจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งรักษาฟื้นฟู ให้สุนัขมีสุขภาพเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
"ขอฝากไปยังเจ้าของสุนัขที่ติดตามหาสุนัขที่หาย ให้มาตรวจสอบดูที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม และหากพบเป็นของตนเองให้แจ้งยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ จะได้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับขบวนการค้าสุนัขเพิ่มในข้อหาลักทรัพย์ หรือรับซื้อของโจร เป็นการเพิ่มโทษ แต่เจ้าของยังไม่สามารถนำกลับไปเลี้ยงได้ เพราะยังเป็นของกลางที่รอการดำเนินคดี จนกว่าจะสิ้นสุด ซึ่งน่าจะตัดสินใจช่วงกลางเดือนก.ย.นี้"นายไพรัชกล่าว
นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูสุนัขให้รอดชีวิตให้มากที่สุด และมีการขอรับบริจาคช่วยเหลือจากพี่น้องประชาชนด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถือว่ากระทบต่อจิตใจคนไทยมาก โดยเฉพาะคนรักสุนัข ทางจังหวัดจึงได้มีการหารือกับทุกฝ่าย เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง พร้อมขอความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่มีการลักลอบ หากพบเห็นการกระทำผิด หรือชี้เบาะแส ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการ เพื่อที่จะหาทางตัดวงจรการค้าสุนัขให้หมดไป ในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด่านกักสัตว์นครพนม พบว่า มีประชาชนมาตามหาสุนัขหลายราย โดยนายบินมา สอนคำ อายุ 44 ปี ชาวบ้านหนองบัว ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม พร้อมภรรยาและลูก เป็นรายหนึ่งที่ได้เดินทางมาตามหาสุนัขที่หายไป โดยกล่าวว่า ทราบข่าวจากสื่อ จึงเดินทางมาตามหาสุนัขพันธุ์ไทย เพศผู้ อายุราว 2 ปี ที่หายไปเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา หลังจากได้มีแก๊งค้าสุนัขตระเวนมาจับไปกลางดึก ที่หน้าบ้านต่อหน้าต่อตา แต่ไม่กล้าติดตามไปทวงคืน จนกระทั่งทราบข่าวมีการตรวจยึด จึงติดตามมาดู พบเห็นอยู่ในกรงที่เจ้าหน้าที่กักไว้ แต่มีสภาพอิดโรย หมดแรง ไม่สนใจเจ้าของ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไว้ แต่ยังไม่สามารถรับกลับได้ ต้องรอคดีสิ้นสุด ซึ่งรู้สึกดีใจมากที่จังหวัดมีการปราบปรามอย่างจริงจัง ไม่อยากให้มีขบวนการแบบนี้เหลืออยู่ เพราะชาวบ้านที่เลี้ยงสุนัข จะมีความผูกพันและรักสุนัขมาก เมื่อเจอแบบนี้รู้สึกหดหู่ใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่จังหวัดตรวจยึดสุนัขจำนวน กว่า 1,000 ตัว ที่เตรียมลำเลียงผ่านพื้นที่จ.นครพนม ส่งไปขายยังประเทศเวียดนาม วานนี้ (16 ส.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้นำสุนัขมาเก็บรักษาไว้ที่ด่านกักสัตว์นครพนม ที่มีการระดมเจ้าหน้าที่ทีมสัตวแพทย์ จากกรมปศุสัตว์ รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลรักษาเยียวยา เนื่องจากสุนัขส่วนใหญ่อยู่ในสภาพอิดโรย ผอมโซ บางตัวได้รับบาดเจ็บจากการลำเลียงขนย้าย มาเป็นเวลานาน ก่อนเตรียมนำส่งต่อไปขาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการระดมคัดแยกสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บออกมารักษา เยียวยา พร้อมฉีดยาวัคซีนรักษาโรค และยังพบว่าบางตัวเป็นสุนัขตั้งท้องแก่ แต่ได้รับบาดเจ็บไม่สามารถคลอดลูกเองได้ จึงต้องให้ความช่วยเหลือทำคลอด ช่วยเหลือชีวิต
อย่างไรก็ตาม ในการเลี้ยงดูยังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร จังหวัดได้มีการเปิดกองทุนช่วยเหลือสุนัข สามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม ได้ที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาโลตัส เลขที่บัญชี 666-009-7947 หรือสามารถบริจาคเป็นหัวอาหาร โดยติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 084-9582134 และ 042-522591 ตลอด 24 ชั่วโมง ล่าสุดมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเข้าบัญชีแล้วกว่า 1.5 ล้านบาท ส่วนหัวอาหารมีมากกว่า 2 ตัน ที่เพียงพอในการเลี้ยงดูระยะหนึ่ง
นายไพรัช ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์นครพนม กล่าวถึงปัญหาที่พบในขณะนี้ ว่า เป็นห่วงเรื่องการดูแลรักษา เนื่องจากสุนัขบอบช้ำในการขนย้ายมานาน ทำให้ตัวที่ได้รับบาดเจ็บหนักทยอยตายรายวัน ล่าสุดขณะนี้เหลือสุนัขทั้งหมด ราว 1,000 ตัว ตายไปแล้วประมาณ 250 ตัว และถูกปล่อยทิ้งเข้าป่าช่วงติดตามจับกุมอีกจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งรักษาฟื้นฟู ให้สุนัขมีสุขภาพเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
"ขอฝากไปยังเจ้าของสุนัขที่ติดตามหาสุนัขที่หาย ให้มาตรวจสอบดูที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม และหากพบเป็นของตนเองให้แจ้งยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ จะได้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับขบวนการค้าสุนัขเพิ่มในข้อหาลักทรัพย์ หรือรับซื้อของโจร เป็นการเพิ่มโทษ แต่เจ้าของยังไม่สามารถนำกลับไปเลี้ยงได้ เพราะยังเป็นของกลางที่รอการดำเนินคดี จนกว่าจะสิ้นสุด ซึ่งน่าจะตัดสินใจช่วงกลางเดือนก.ย.นี้"นายไพรัชกล่าว
นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูสุนัขให้รอดชีวิตให้มากที่สุด และมีการขอรับบริจาคช่วยเหลือจากพี่น้องประชาชนด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถือว่ากระทบต่อจิตใจคนไทยมาก โดยเฉพาะคนรักสุนัข ทางจังหวัดจึงได้มีการหารือกับทุกฝ่าย เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง พร้อมขอความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่มีการลักลอบ หากพบเห็นการกระทำผิด หรือชี้เบาะแส ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการ เพื่อที่จะหาทางตัดวงจรการค้าสุนัขให้หมดไป ในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด่านกักสัตว์นครพนม พบว่า มีประชาชนมาตามหาสุนัขหลายราย โดยนายบินมา สอนคำ อายุ 44 ปี ชาวบ้านหนองบัว ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม พร้อมภรรยาและลูก เป็นรายหนึ่งที่ได้เดินทางมาตามหาสุนัขที่หายไป โดยกล่าวว่า ทราบข่าวจากสื่อ จึงเดินทางมาตามหาสุนัขพันธุ์ไทย เพศผู้ อายุราว 2 ปี ที่หายไปเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา หลังจากได้มีแก๊งค้าสุนัขตระเวนมาจับไปกลางดึก ที่หน้าบ้านต่อหน้าต่อตา แต่ไม่กล้าติดตามไปทวงคืน จนกระทั่งทราบข่าวมีการตรวจยึด จึงติดตามมาดู พบเห็นอยู่ในกรงที่เจ้าหน้าที่กักไว้ แต่มีสภาพอิดโรย หมดแรง ไม่สนใจเจ้าของ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไว้ แต่ยังไม่สามารถรับกลับได้ ต้องรอคดีสิ้นสุด ซึ่งรู้สึกดีใจมากที่จังหวัดมีการปราบปรามอย่างจริงจัง ไม่อยากให้มีขบวนการแบบนี้เหลืออยู่ เพราะชาวบ้านที่เลี้ยงสุนัข จะมีความผูกพันและรักสุนัขมาก เมื่อเจอแบบนี้รู้สึกหดหู่ใจ
