นครพนม/สกลนคร-ยอดบริจาคช่วยเหลือสุนัขพุ่งกว่า 9 ล้าน อาหารเลี้ยงรับบริจาคมากถึง 4 ตัน ผู้ว่าฯ นครพนมตั้ง กก.บริหารกองทุนช่วยสุนัข มอบหมายรองผู้ว่าฯ เป็นประธานดูแล ยืนยันโปร่งใสตรวจสอบได้ ส่วนความคืบหน้าด้านคดีผู้ต้องหามอบตัวอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่เตรียมส่งฟ้องศาล ด้านปศุสัตว์แนะเจ้าของสุนัขที่ถูกลักขโมยให้แจ้งความเพื่อเอาผิดแก๊งค้าสุนัขเพิ่มข้อหาลักทรัพย์-รับซื้อของโจร ขณะที่จ.สกลนครตรวจเข้มพื้นที่ต.ท่าแร่ แหล่งบริโภคและค้าสุนัขขึ้นชื่อ ป้องกันกักพักฝูงสุนัขเพื่อการค้าทั้งชำแหละขายในท้องถิ่นและส่งขายเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คดีตรวจยึดสุนัขเตรียมส่งขายเวียดนาม ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม และ อ.นาทม จ.นครพนม ซึ่งได้มีการนำสุนัขนำมาเก็บรักษาไว้ที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม ว่า ล่าสุดมียอดสุนัขคงเหลือ จำนวน 1,000 ตัว ตายไปประมาณ 272 ตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งเยียวยาดูแลและให้การรักษาต่อเนื่องเพื่อให้สุนัขมีสุขภาพแข็งแรง และรอดชีวิตมากที่สุด ส่วนยอดบริจาคเงินช่วยเหลือยังเพิ่มต่อเนื่อง ขณะนี้มีมากกว่า 9 ล้านบาทแล้ว
สำหรับการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาในขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติ เบื้องต้น ในส่วนของ สภ.ศรีสงคราม ได้มีการจับกุมตรวจยึดเป็น 3 คดี คือ 1 จับกุม นายนพดล ไชยวังราษฎร์ อายุ 40 ปี ชาว ต.ท่าแร่ จ.สกลนคร พร้อมของกลาง รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน กรงเปล่าใส่สุนัข จำนวน 50 กรง คดีที่ 2 เป็นของกลาง รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน พร้อมของกลางสุนัข จำนวน 300 ตัว และคดีที่ 3 เป็นรถยนต์ 1 คัน พร้อมสุนัข จำนวน 400 ตัว ส่วนผู้ต้องหาหลบหนี
ในส่วนของ สภ.นาทม ได้มีการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย มี นายมนตรี พันกลาง อายุ 37 ปี ชาว อ.บ้านแพง จ.นครพนม และ นายพาน อายุ 35 ปี ชาวเวียดนาม พร้อมของกลางรถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน และสุนัข จำนวน 560 ตัว เบื้องต้นไม่ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และได้ดำเนินการทำสำนวนส่งอัยการฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนม แล้ว
ทั้งนี้ วานนี้ (17ส.ค.)ผู้ต้องหา 2 รายที่หลบหนี ได้เดินทางเข้ามามอบตัวเพิ่มต่อ ร.ต.อ.พีรวิชญ์ อุเทยแสน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี คือ 1.นายอนุสรณ์ บุพศิริ อายุ 37 ปี ชาวบ้านเหล่าพัฒนา ต.เหล่าพัฒนา อ.นาหว้า จ.นครพนม และ รายที่ 2 คือ นายวีรวัฒน์ สวัสดี อายุ 22 ปี ชาว ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม โดยทั้ง 2 สารภาพว่ารับจ้างนายทุน ทำหน้าที่ขับรถบรรทุกสุนัขมาจาก ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อมุ่งหน้านำไปลงเรือในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม
ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดี ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 มีการเคลื่อนย้ายสัตว์ เข้าเขตสงสัยโรคระบาดโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคุมตัวส่งอัยการดำเนินการฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนม ร่วมกับอีก 3 ราย ที่จับกุมก่อนหน้านี้
ยอดบริจาคช่วยสุนัขพุ่งกว่า 9 ล้าน
ด้าน นายไพรัช ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์นครพนม กล่าวถึงการเร่งฟื้นฟูเยียวยารักษาสุนัขของกลาง ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ขณะนี้กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการแยกประเภทสุนัข พร้อมขึ้นทะเบียนเพื่อการตรวจสอบ ปัจจุบันเหลืออยู่จำนวน 1,000 ตัว ตายไป 272 ตัว และมีสุนัขที่ป่วย เสี่ยงตายประมาณ 60 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้การดูแลช่วยเหลือเต็มที่
“ยอดการบริจาคช่วยเหลือผ่านกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนมนั้น ต้องยอมรับว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะนี้มียอดกว่า 9.7 ล้านบาท”
นายไพรัชกล่าวต่ออีกว่า นอกจากจะมีประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาร่วมบริจาคอาหารช่วยเหลือสุนัขแล้ว ยังได้เดินทางมาติดตามหาสุนัขที่หาย โดยส่วนใหญ่แจ้งว่าแก๊งค้าสุนัขจะใช้วิธีตระเวนลักขโมยสุนัขตามชุมชนหมู่บ้านในช่วงกลางคืน ก่อนนำมาส่งขายต่อให้แก่พ่อค้าสุนัข รวบรวมนำส่งต่อไปขายที่เวียดนาม ซึ่งหน่วยงานปศุสัตว์จังหวัดนครพนมได้ประกาศเชิญชวนประชาชนเจ้าของสุนัขเดินทางมาตรวจสอบ หากพบสุนัขที่ถูกขโมยมาให้ทำการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความเอาผิดเพิ่มต่อขบวนการค้าสุนัขในข้อหาลักทรัพย์ และรับซื้อของโจร
นอกจากนี้ ทางนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มีการตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนช่วยเหลือ มีนายสมดี คชายั่งยืน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธาน ร่วมกับคณะกรรมการจากภาครัฐ และเอกชน เพื่อให้การบริหารเป็นไปด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์เป้าหมายของผู้ให้การบริจาค เพื่อนำเงินดังกล่าวไปช่วยเหลือฟื้นฟูสุนัข และปรับปรุงโรงเรือนที่เก็บรักษาให้มีมาตรฐาน รวมถึงจะนำไปใช้จ่ายในการรณรงค์ สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนให้มีทัศนคติที่ดีกับสุนัข ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยง หวังนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการค้าสุนัขในระยะยาว
สำหรับผู้ที่มีความสนใจที่จะบริจาคช่วยเหลือยังสามารถร่วมบริจาคได้ ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 08-4958-2134 และ 0-4252-2591 ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถโอนเงินผ่านบัญชี ชื่อ บัญชีกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม ธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัสนครพนม เลขที่บัญชี 666-009-7947 หรือ ธนาคารกรุงไทย สาขานครพนม ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม กระแสรายวัน เลขที่บัญชี 408-6-05284-9
ส่วนผู้ที่ติดตามหาสุนัขเมื่อพบแล้วยังไม่สามารถนำกลับได้ จะต้องแจ้งหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อรอการดำเนินคดีจนเป็นที่สิ้นสุด
สกลฯ ตรวจเข้ม ต.ท่าแร่ป้องกันกักหมาขาย
ส่วนที่จ.สกลนคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีข่าวจังหวัดนครพนมได้ตรวจยึดสุนัขจำนวน กว่า 1,000 ตัว ก่อนส่งออกไปที่เวียดนาม ใน ต.ท่าแร่ อ.เมือง ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารที่ขายเนื้อสุนัขในเมนูต่างๆ และเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านนิยมบริโภคเนื้อสุนัขขึ้นชื่อ พบว่า ค่อนข้างเงียบเหงา
เพิงขายเนื้อสุนัขและร้านอาหารหลายแห่งได้หยุดจำหน่ายชั่วคราว ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะหวั่นว่าจะถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจจับและไม่อยากเป็นเป้าสายตาจากสังคมรอบข้าง
นอกจากนี้ นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้สั่งเข้มงวดในการดูแลเรื่องนี้มาตลอด โดยเฉพาะในพื้นที่ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร ซึ่งถูกมองเป็นแหล่งพักสุนัขก่อนส่งออก โดยได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้แก่ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร และเทศบาลตำบลท่าแร่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันออกตรวจคอกขังสุนัข ในเขตเทศบาลตำบลท่าแร่ และเขตต.ท่าแร่ อ.เมืองสกลนคร อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าพื้นที่ต.ท่าแร่ กลุ่มผู้ค้าสุนัขเพื่อการบริโภคในท้องถิ่นและกลุ่มที่ทำการค้า เพื่อการส่งออก จะใช้ต.ท่าแร่เป็นแหล่งทำคอกกักกันสุนัข หลังรับซื้อจากบรรดารถเร่ เป็นที่พักสุนัขก่อนส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ตาม จากการตระเวนสำรวจของผู้สื่อข่าว วานนี้( 17 ส.ค.)ไม่พบว่ามีคอกสุนัขในเขตเทศบาลตำบลท่าแร่แต่อย่างใด ขณะที่ในพื้นที่รอบๆเขตเทศบาลเมืองสกลนคร พบมีที่พักสุนัข 3 จุดใหญ่ แต่ไม่พบสุนัข มีเพียงโรงเรือนขนาดใหญ่ที่ดัดแปลงเพื่อใช้เป็นที่ขังสุนัขเท่านั้น และกรงว่างเปล่าเช่นกัน
เบื้องต้นคาดว่า เจ้าของคอกกักและแหล่งพักเหล่านี้อาจทำการขนย้ายสุนัขออกไปแล้วเพื่อหลบเลี่ยงการถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ