วธ.เผย 5 ศาสนารวมพลังเฉลิมพระเกียรติพระราชินี ด้าน ศน.พร้อมจัดกิจกรรมสร้างความสมานฉันท์สร้างสันติสุขชายแดนใต้ สนองพระราชเสาวนีย์ แนะเพิ่มสอนหลักธรรมในโรงเรียนสังกัด สพฐ.ปอเนาะ ตาดีกา ทุกแห่ง
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่โรงละครแห่งชาติ กรมการศาสนาร่วมกับองค์กร 5 ศาสนา ได้แก่ พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์ จัดงานรวมพลังศาสนาเสริมสร้างความสมานฉันท์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีนายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานในพิธีถวายสักการะ หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยภายในงานได้มีการจัดฉายวิดิทัศน์เฉลิมพระเกียรติ ร่มโพธิ์ ร่มไทรของชาวไทย และเยาวชน 5 ศาสนา จำนวน 79 คน ร่วมกันร้องเพลงสมานฉันท์สู่สันติ
นายสมชาย กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นการรวมพลังศาสนิกชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา 79 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ทุกศาสนา และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปประการเพื่อพสกนิกรชาวไทย ทั้งยังทรงเป็นแบบอย่างในการนำหลักธรรมของศาสนามาเป็นแบบแผนในการดำรงชีวิต ด้วยพระจริยวัตรที่งดงาม อันเป็นแบบอย่างให้คนไทยทั้งประเทศได้น้อมนำไปประพฤติปฏิบัติ
“การรวมศาสนิกทุกศาสนามาทำกิจกรรมร่วมกันจะเป็นแบบอย่างให้คนในสังคมเห็นว่าจะนับถือศาสนาแตกต่างกันไม่ได้เป็นอุปสรรคของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้น ย่อมมีความหลากหลายกันไปตามความเชื่อของศาสนา แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการอยู่ร่วมกันแต่อย่างใด ยังเป็นการส่งสัญญาณด้วยว่าต่างศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศ” นายสมชาย กล่าว
ขณะที่นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า จากพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้นั้น ถือเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคราชการ ส่วนท้องถิ่น จะเร่งเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหา และต้องให้เวลาในการทำงาน เพราะปัญหาได้มีการสั่งสมมา นาน และมีการเชื่อมโยงให้มีความเกี่ยวข้องไปในทางการเมือง จึงกลายเป็นปมขัดแย้งในวงกว้าง และมีการลอบทำร้ายอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลกระทบต่อการนับถือศาสนาของประชาชน
ที่ผ่านมา ศน. ได้มีการจัดกิจกรรมในการสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่ชายแดนใต้มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดค่ายนำตัวแทนเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนใต้มาอบรมศึกษาหลักธรรม ศิลปะและวิถีชีวิตท้องถิ่น เพื่อนำไปถ่ายทอดให้กับคนในชุมชนได้ภาคภูมิใจ และหวงแหนความเป็นไทย รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการลานบุญ ลานปัญญาที่สามารถเข้าถึงประชาชนทุกศาสนา และอยากให้รัฐบาลใหม่ได้สานต่อเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในท้องถิ่นด้วย
นายสด เผยทางออกในการแก้ปัญหา ก็คือผู้นำทุกศาสนา ต้องร่วมใจกันทุ่มเทแก้ไขสถานการณ์ และหาแนวทางปรับแต่งจิตใจคน โดยเฉพาะเยาวชนที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ ได้เข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองให้ชัดเจน และยึดมั่นในหลักธรรม สิ่งสำคัญที่สุด อยากให้รัฐบาลได้นำแนวทางของการใช้หลักธรรมของศาสนามาปลูกฝังให้เยาวชนในสถานศึกษาทุกแห่งให้มากขึ้น ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการสอนหลักธรรม ทั้งในโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โรงเรียนปอเนาะ โรงเรียนตาดีกาทุกแห่ง
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่โรงละครแห่งชาติ กรมการศาสนาร่วมกับองค์กร 5 ศาสนา ได้แก่ พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์ จัดงานรวมพลังศาสนาเสริมสร้างความสมานฉันท์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีนายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานในพิธีถวายสักการะ หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยภายในงานได้มีการจัดฉายวิดิทัศน์เฉลิมพระเกียรติ ร่มโพธิ์ ร่มไทรของชาวไทย และเยาวชน 5 ศาสนา จำนวน 79 คน ร่วมกันร้องเพลงสมานฉันท์สู่สันติ
นายสมชาย กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นการรวมพลังศาสนิกชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา 79 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ทุกศาสนา และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปประการเพื่อพสกนิกรชาวไทย ทั้งยังทรงเป็นแบบอย่างในการนำหลักธรรมของศาสนามาเป็นแบบแผนในการดำรงชีวิต ด้วยพระจริยวัตรที่งดงาม อันเป็นแบบอย่างให้คนไทยทั้งประเทศได้น้อมนำไปประพฤติปฏิบัติ
“การรวมศาสนิกทุกศาสนามาทำกิจกรรมร่วมกันจะเป็นแบบอย่างให้คนในสังคมเห็นว่าจะนับถือศาสนาแตกต่างกันไม่ได้เป็นอุปสรรคของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้น ย่อมมีความหลากหลายกันไปตามความเชื่อของศาสนา แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการอยู่ร่วมกันแต่อย่างใด ยังเป็นการส่งสัญญาณด้วยว่าต่างศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศ” นายสมชาย กล่าว
ขณะที่นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า จากพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้นั้น ถือเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคราชการ ส่วนท้องถิ่น จะเร่งเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหา และต้องให้เวลาในการทำงาน เพราะปัญหาได้มีการสั่งสมมา นาน และมีการเชื่อมโยงให้มีความเกี่ยวข้องไปในทางการเมือง จึงกลายเป็นปมขัดแย้งในวงกว้าง และมีการลอบทำร้ายอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลกระทบต่อการนับถือศาสนาของประชาชน
ที่ผ่านมา ศน. ได้มีการจัดกิจกรรมในการสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่ชายแดนใต้มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดค่ายนำตัวแทนเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนใต้มาอบรมศึกษาหลักธรรม ศิลปะและวิถีชีวิตท้องถิ่น เพื่อนำไปถ่ายทอดให้กับคนในชุมชนได้ภาคภูมิใจ และหวงแหนความเป็นไทย รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการลานบุญ ลานปัญญาที่สามารถเข้าถึงประชาชนทุกศาสนา และอยากให้รัฐบาลใหม่ได้สานต่อเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในท้องถิ่นด้วย
นายสด เผยทางออกในการแก้ปัญหา ก็คือผู้นำทุกศาสนา ต้องร่วมใจกันทุ่มเทแก้ไขสถานการณ์ และหาแนวทางปรับแต่งจิตใจคน โดยเฉพาะเยาวชนที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ ได้เข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองให้ชัดเจน และยึดมั่นในหลักธรรม สิ่งสำคัญที่สุด อยากให้รัฐบาลได้นำแนวทางของการใช้หลักธรรมของศาสนามาปลูกฝังให้เยาวชนในสถานศึกษาทุกแห่งให้มากขึ้น ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการสอนหลักธรรม ทั้งในโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โรงเรียนปอเนาะ โรงเรียนตาดีกาทุกแห่ง