วานนี้ (16 ส.ค) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสข้อความผ่าน facebook ชื่อ "Yingluck Shinawatra" ว่า เรื่องแก่งเสือเต้น ปูต้องฟังพี่น้องประชาชนทั้งที่?สนับสนุนและคัดค้าน รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ปูและรัฐบาลต้องคิดพิจารณาอย่าง?รอบคอบและรอบด้านมากที่สุด ปูยินดีรับฟังทุกความเห็นจากทุก?ภาคส่วนค่ะ เราทุกคนต่างต้องการให้ปัญหาได้?รับการแก้ไขอย่างบูรณาการและยั่งยืน โดยคำนึงถึงประเทศชาติและพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ปูและรัฐบาลจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดค่ะ
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ สั่งการให้คณะรัฐมนตรีน้อมนำพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในวันที่คณะรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าถวายพระพรในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาในวันที่ 12 สิงหาคม 2554 โดยเรื่องแรกเป็นการน้อมนำพระราชเสาวนีย์ในเรื่องอุทกภัย ซึ่งขณะนี้ทางด้านนายกฯได้รับรายงานจากกรมชลประทาน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านกระแสน้ำ รายงานถึงมวลน้ำจากภาคเหนือที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตอนนี้กระแสน้ำไม่เกินขีดจำกัดของการรับน้ำ
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับทราบรายงานสถานการณ์น้ำจากกรมชลประทาน ระบุว่า มีการไหลผ่านเขื่อนชัยนาทซึ่งอยู่ในระดับที่ไม่เกิน 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ยังไม่น่าเป็นห่วง และได้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้า เพราะการเปลี่ยนแปลงของมวลน้ำสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วและตลอดเวลา เรื่องที่สองเป็นการน้อมนำพระราชเสาวนีย์ในการส่งเสริมโครงการหลวง ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการดำเนินการต่างๆ นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ สนับสนุนโครงการหลวงอย่างต่อเนื่อง
โดยมอบหมายให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละจังหวัดอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้รายงานตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการจัดเตรียมแผนระยะกลางและระยะยาวในการป้องกันอุทกภัยในอนาคต โดยให้กระทรวงไอซีทีเป็นหน่วยงานหลักในการให้ข้อมูล
นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้ให้หน่วยแพทย์เคลื่อนที่โดยเฉพาะสาธารณสุขประจำจังหวัดดูแลในเรื่องของยารักษาโรคที่เกิดจากน้ำท่วม และเยียวยาหลังจากน้ำลดลงแล้ว โดยบุคลากรที่ลงไปในพื้นที่ก็มีการเฝ้าระวังตลอดเวลา และเฝ้าสถานการณ์ปริมาณน้ำฝน และสัปดาห์นี้นายกฯ อาจจะลงพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา อ่างทองเนื่องจากจะมีน้ำที่ไหลมาจากพิษณุโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุดที่ จ.สุโขทัย หลายพื้นที่ยังคงถูกน้ำท่วมสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำยม ตั้งแต่ อ.สวรรคโลก ลงมา อ.ศรีสำโรง อ.เมืองสุโขทัย และ อ.กงไกรลาศ ถือว่าได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ที่หนักสุดคือถนนสายสุโขทัย-เมืองเก่า ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวหลักไปยังอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ขณะที่โรงพยาบาลสุโขทัยได้เตรียมความพร้อมทุกด้านกรณีมีเหตุฉุกเฉิน
ที่ จ.เชียงราย อ.แม่จัน และ อ.เชียงแสน ในหลายตำบล ล่าสุดระดับน้ำได้ไหลทะลักลงสู่ปากแม่น้ำคำก่อนลงสู่แม่น้ำโขง ตรงบริเวณหมู่บ้านสบคำ ม.5 ต.เวียง อ.เชียงแสน ห่างจากตัวเมืองเชียงแสนประมาณ 4 กิโลเมตร การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก ได้ทำให้น้ำได้ไหลเข้าพัดสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำคำตัวสะพานที่มีคานคอนกรีตได้ถูกน้ำพัดจนหลุดออกจากฐานของเสาตอม่อทั้งสองฝั่งจมหายไปกับกระแสน้ำ
ที่ จ.อำนาจเจริญ ลำน้ำเซบายใน อ.หัวตะพาน ได้ล้นตลิ่งไหลท่วมพื้นที่ที่พักอาศัย และพื้นที่เกษตรกรรมเป็นบริเวณกว้าง นาข้าวจมอยู่ใต้น้ำประมาณ 5,000 ไร่ สำหรับภาพรวมมีพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านถูกน้ำท่วมเกือบ 4 หมื่นไร่ ส่วนระดับน้ำโขงมีระดับน้ำทรงตัวที่ 12 เมตร แต่น้ำได้ไหลท่วมพื้นที่ราบลุ่มบางส่วนของลุ่มน้ำ
วันเดียวกัน นายนิยม ติวุตานนท์ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เขียนบทความเผยแพร่เรื่อง “เขื่อนแก่งเสือเต้น... จะดับเส้นชีวิตลุ่มแม่น้ำยมตอนล่าง” ว่าชื่อเขื่อนแก่งเสือเต้นทำให้รัฐบาลนี้ เต้นไปตามกระแสของพวกที่ต้องการให้สร้าง โดยขอเสนอข้อมูลเกี่ยวกับลุ่มน้ำแม่ยมตอนล่าง เพื่อให้เห็นว่าการมีเขื่อนแก่งเสือเต้นจะทำลายเส้นทางชีวิตของพวกเขาเพียงใด ลุ่มแม่น้ำยมตอนล่างตั้งแต่ตำบลทับผึ้ง อำเภอศรีสำโรงลงมา ตลอดถึงอำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอกงไกรลาศ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ไปจนถึงปากน้ำโพ สองฝั่งลุ่มแม่น้ำยมตอนล่างดังกล่าวนี้ น้ำท่วมเป็นประจำทุกปี แต่ประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำไม่เดือดร้อน กลับเป็นผลดีแก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก โดยชาวบ้านยังได้อาชีพเสริมอีกอย่างหนึ่ง คือ การจับปลาน้ำจืดชนิดต่าง ๆ
“ในฤดูน้ำลดมันจะว่ายทวนน้ำขึ้นไปอาศัยอยู่ตามวังน้ำลึก ที่เป็นแก่งเสือเต้น พอถึงฤดูฝนน้ำไหลหลากลงไปตามที่ลุ่ม มันจะไปตามน้ำเข้าไปในคลองจนถึงถึงตามทุ่งตามท่า ตามป่า ซึ่งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำยมตอนล่างดังกล่าวแล้ว มันจะไปวางไข่แล้วก็แพร่พันธุ์เจริญเติบโต และว่ายออกมาเมื่อถึงฤดูน้ำลด พวกชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำยมตอนล่างก็จับปลาเอามาขาย”
นายนิยม ระบุว่า วงเวียนชีวิตของปลาดังกล่าวถ้าถูกปิดกั้นด้วยเขื่อนมันจะสูญพันธุ์หรือลดจำนวนลง ทั้งนี้มีตัวอย่างให้เห็นแล้วจากลุ่มแม่น้ำน่านตอนล่าง ตั้งแต่อำเภอบางมูลนาก อำเภอชุมแสง ตลอดไปจนถึงปากน้ำโพ
คนที่ต้องการสร้างเขื่อนเคยทราบ ข้อมูล เหล่านี้หรือไม่ ถ้ายังไม่ทราบก็ควรไปศึกษาและรายงานให้มันตรงกับความจริงด้วย เพื่อจะได้เป็นข้อประกอบในการพิจารณาถึงผลดี และผลกระทบของการสร้างเขื่อนบ้านเมืองเรามักจะทำอะไรตามแบบอย่างของฝรั่ง การสร้างเขื่อนก็เอาแบบฝรั่ง แต่เวลานี้ฝรั่งเขาไม่สร้างเขื่อนอีกแล้ว และจะทุบทิ้งเขื่อนบางแห่งอีกด้วย คือ เขื่อนเอลวา และเขื่อนไกลน์แคนยอน ที่สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้เพราะเขาได้รับบทเรียนว่าเขื่อนทำลายสิ่งแวดล้อม และวัฏจักรของปลาแซมมอน เขายอมทุบเขื่อนทิ้งเพื่อรักษาพันธุ์ปลา ส่วนของเรากำลังจะทำลายพันธุ์ปลาน้ำจืดด้วยการสร้างเขื่อน ถ้าเห็นว่าผลประโยชน์ของคนตามลุ่มแม่น้ำตอนล่างเป็นเรื่องเล็กก็เชิญสร้างเขื่อนเถอะ
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ สั่งการให้คณะรัฐมนตรีน้อมนำพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในวันที่คณะรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าถวายพระพรในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาในวันที่ 12 สิงหาคม 2554 โดยเรื่องแรกเป็นการน้อมนำพระราชเสาวนีย์ในเรื่องอุทกภัย ซึ่งขณะนี้ทางด้านนายกฯได้รับรายงานจากกรมชลประทาน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านกระแสน้ำ รายงานถึงมวลน้ำจากภาคเหนือที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตอนนี้กระแสน้ำไม่เกินขีดจำกัดของการรับน้ำ
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับทราบรายงานสถานการณ์น้ำจากกรมชลประทาน ระบุว่า มีการไหลผ่านเขื่อนชัยนาทซึ่งอยู่ในระดับที่ไม่เกิน 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ยังไม่น่าเป็นห่วง และได้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้า เพราะการเปลี่ยนแปลงของมวลน้ำสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วและตลอดเวลา เรื่องที่สองเป็นการน้อมนำพระราชเสาวนีย์ในการส่งเสริมโครงการหลวง ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการดำเนินการต่างๆ นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ สนับสนุนโครงการหลวงอย่างต่อเนื่อง
โดยมอบหมายให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละจังหวัดอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้รายงานตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการจัดเตรียมแผนระยะกลางและระยะยาวในการป้องกันอุทกภัยในอนาคต โดยให้กระทรวงไอซีทีเป็นหน่วยงานหลักในการให้ข้อมูล
นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้ให้หน่วยแพทย์เคลื่อนที่โดยเฉพาะสาธารณสุขประจำจังหวัดดูแลในเรื่องของยารักษาโรคที่เกิดจากน้ำท่วม และเยียวยาหลังจากน้ำลดลงแล้ว โดยบุคลากรที่ลงไปในพื้นที่ก็มีการเฝ้าระวังตลอดเวลา และเฝ้าสถานการณ์ปริมาณน้ำฝน และสัปดาห์นี้นายกฯ อาจจะลงพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา อ่างทองเนื่องจากจะมีน้ำที่ไหลมาจากพิษณุโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุดที่ จ.สุโขทัย หลายพื้นที่ยังคงถูกน้ำท่วมสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำยม ตั้งแต่ อ.สวรรคโลก ลงมา อ.ศรีสำโรง อ.เมืองสุโขทัย และ อ.กงไกรลาศ ถือว่าได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ที่หนักสุดคือถนนสายสุโขทัย-เมืองเก่า ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวหลักไปยังอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ขณะที่โรงพยาบาลสุโขทัยได้เตรียมความพร้อมทุกด้านกรณีมีเหตุฉุกเฉิน
ที่ จ.เชียงราย อ.แม่จัน และ อ.เชียงแสน ในหลายตำบล ล่าสุดระดับน้ำได้ไหลทะลักลงสู่ปากแม่น้ำคำก่อนลงสู่แม่น้ำโขง ตรงบริเวณหมู่บ้านสบคำ ม.5 ต.เวียง อ.เชียงแสน ห่างจากตัวเมืองเชียงแสนประมาณ 4 กิโลเมตร การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก ได้ทำให้น้ำได้ไหลเข้าพัดสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำคำตัวสะพานที่มีคานคอนกรีตได้ถูกน้ำพัดจนหลุดออกจากฐานของเสาตอม่อทั้งสองฝั่งจมหายไปกับกระแสน้ำ
ที่ จ.อำนาจเจริญ ลำน้ำเซบายใน อ.หัวตะพาน ได้ล้นตลิ่งไหลท่วมพื้นที่ที่พักอาศัย และพื้นที่เกษตรกรรมเป็นบริเวณกว้าง นาข้าวจมอยู่ใต้น้ำประมาณ 5,000 ไร่ สำหรับภาพรวมมีพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านถูกน้ำท่วมเกือบ 4 หมื่นไร่ ส่วนระดับน้ำโขงมีระดับน้ำทรงตัวที่ 12 เมตร แต่น้ำได้ไหลท่วมพื้นที่ราบลุ่มบางส่วนของลุ่มน้ำ
วันเดียวกัน นายนิยม ติวุตานนท์ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เขียนบทความเผยแพร่เรื่อง “เขื่อนแก่งเสือเต้น... จะดับเส้นชีวิตลุ่มแม่น้ำยมตอนล่าง” ว่าชื่อเขื่อนแก่งเสือเต้นทำให้รัฐบาลนี้ เต้นไปตามกระแสของพวกที่ต้องการให้สร้าง โดยขอเสนอข้อมูลเกี่ยวกับลุ่มน้ำแม่ยมตอนล่าง เพื่อให้เห็นว่าการมีเขื่อนแก่งเสือเต้นจะทำลายเส้นทางชีวิตของพวกเขาเพียงใด ลุ่มแม่น้ำยมตอนล่างตั้งแต่ตำบลทับผึ้ง อำเภอศรีสำโรงลงมา ตลอดถึงอำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอกงไกรลาศ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ไปจนถึงปากน้ำโพ สองฝั่งลุ่มแม่น้ำยมตอนล่างดังกล่าวนี้ น้ำท่วมเป็นประจำทุกปี แต่ประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำไม่เดือดร้อน กลับเป็นผลดีแก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก โดยชาวบ้านยังได้อาชีพเสริมอีกอย่างหนึ่ง คือ การจับปลาน้ำจืดชนิดต่าง ๆ
“ในฤดูน้ำลดมันจะว่ายทวนน้ำขึ้นไปอาศัยอยู่ตามวังน้ำลึก ที่เป็นแก่งเสือเต้น พอถึงฤดูฝนน้ำไหลหลากลงไปตามที่ลุ่ม มันจะไปตามน้ำเข้าไปในคลองจนถึงถึงตามทุ่งตามท่า ตามป่า ซึ่งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำยมตอนล่างดังกล่าวแล้ว มันจะไปวางไข่แล้วก็แพร่พันธุ์เจริญเติบโต และว่ายออกมาเมื่อถึงฤดูน้ำลด พวกชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำยมตอนล่างก็จับปลาเอามาขาย”
นายนิยม ระบุว่า วงเวียนชีวิตของปลาดังกล่าวถ้าถูกปิดกั้นด้วยเขื่อนมันจะสูญพันธุ์หรือลดจำนวนลง ทั้งนี้มีตัวอย่างให้เห็นแล้วจากลุ่มแม่น้ำน่านตอนล่าง ตั้งแต่อำเภอบางมูลนาก อำเภอชุมแสง ตลอดไปจนถึงปากน้ำโพ
คนที่ต้องการสร้างเขื่อนเคยทราบ ข้อมูล เหล่านี้หรือไม่ ถ้ายังไม่ทราบก็ควรไปศึกษาและรายงานให้มันตรงกับความจริงด้วย เพื่อจะได้เป็นข้อประกอบในการพิจารณาถึงผลดี และผลกระทบของการสร้างเขื่อนบ้านเมืองเรามักจะทำอะไรตามแบบอย่างของฝรั่ง การสร้างเขื่อนก็เอาแบบฝรั่ง แต่เวลานี้ฝรั่งเขาไม่สร้างเขื่อนอีกแล้ว และจะทุบทิ้งเขื่อนบางแห่งอีกด้วย คือ เขื่อนเอลวา และเขื่อนไกลน์แคนยอน ที่สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้เพราะเขาได้รับบทเรียนว่าเขื่อนทำลายสิ่งแวดล้อม และวัฏจักรของปลาแซมมอน เขายอมทุบเขื่อนทิ้งเพื่อรักษาพันธุ์ปลา ส่วนของเรากำลังจะทำลายพันธุ์ปลาน้ำจืดด้วยการสร้างเขื่อน ถ้าเห็นว่าผลประโยชน์ของคนตามลุ่มแม่น้ำตอนล่างเป็นเรื่องเล็กก็เชิญสร้างเขื่อนเถอะ
