ศูนย์ข่าวภูมิภาค - หลายพื้นที่ภาคเหนือโดนพิษ"นกเตน"อ่วม! สันกำแพงจม 10 ตำบลเดือดร้อน 20,000 ครอบครัว แพร่สังเวยชีวิตแล้ว 1 ศพ ลำปางฝนตกหนัก"หิน-ดิน"สไลด์ ปิดเส้นทางลำปาง-งาว ขณะที่น้ำป่าจากดอยขุนตาลทะลักท่วมเขตเทศบาลลำปางหลวง ถนนจมกว่า 80 ซม. ด้านชาวบ้านเมืองลับแลหวิดดับยกครัว หลังน้ำทะลักทำบ้านทรุดเกือบทั้งหลังกลางดึก ส่วนหนองคายน้ำลดแล้ว เทศบาลเร่งระดมทำความสะอาด ปภ.เตือนเหนือ-อีสาน 37 จังหวัดระวังน้ำป่าถล่มซ้ำ กทม.พร้อมรับมือพิษนกเตน คาด 10 ส.ค.น้ำเหนือเข้ากรุงเทพฯ
วานนี้ (2 ส.ค.) หลายจังหวัดทางภาคเหนือและอีสานยังคงได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนนกเตน และยังคงถูกน้ำท่วมอยู่อีกในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่ไหลผ่าน อ.เมืองเชียงใหม่ จะเริ่มลดลงตามลำดับแต่สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.สันกำแพง ยังไม่คลี่คลาย โดยน้ำจำนวนมากจาก อ.ดอยสะเก็ด ได้ไหลบ่า เข้าท่วมชุมชนรอบในรวมทั้งหมด 10 ตำบลของ อ.สันกำแพง ซึ่งมีทั้งหมู่บ้านจัดสรรและชุมชนที่อยู่อาศัย โดยระดับน้ำยังทรงตัวอยู่ที่ 30-40 ซม.
ขณะที่หมู่บ้านบ่อสร้าง ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญของ อ.สันกำแพง ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยน้ำได้ไหลเข้าท่วมร้านค้าบริเวณสี่แยกบ่อสร้าง ซึ่งได้สร้างความ เสียหายให้กับผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรมนับสิบแห่ง คาดว่าจะมีผู้ประสบความเดือดร้อนกว่า 20,000 ครอบครัว
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลา 10.00 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอสันกำแพง เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยจำนวน 1,000 ชุด พร้อมลงพื้นที่ตรวจความเสียหาย โดยกำชับให้ทางอำเภอเร่งให้การช่วยเหลือ พร้อมคาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกลงมาอีกน้ำที่ท่วมขังเป็นบริเวณกว้างใน อ.สันกำแพง จะลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติใน 2 วันนี้
**นครเชียงใหม่ระดมป้องกันน้ำท่วม
ส่วนสถานการณ์ในตัวเมืองเชียงใหม่ หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้เร่งเตรียมการป้องกันการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ตัวเมือง โดยเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ร่วมกับกำลัง ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 เร่งบรรจุกระสอบทรายเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน พร้อมทั้งเร่งเสริมแนวคอนกรีตป้องกันในบริเวณจุดเสี่ยงอย่างถนนช้างคลานและถนนเจริญประเทศ
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ กล่าวว่า แม้มีแนวโน้มว่าจะไม่เกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่แล้วก็ตาม แต่ทางเทศบาลก็จะยังคงเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมต่อไป เนื่องจากยังจะมีพายุลูกอื่นที่จะเข้าสู่พื้นที่อีก จึงต้องมีการเตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
**ดินสไลด์ปิดถนนลำปาง-งาว
ขณะที่ จ.ลำปาง มีรายงานข่าวว่า ที่บริเวณถนนพหลโยธินลำปาง-งาวขาขึ้นหลัก กม.ที่ 746-747 เขตบ้านจำปุย ม.4 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ก่อนถึงค่ายฝึกรบพิเศษ ประตูฝา 2 กม.เจ้าหน้าที่แขวงการทางลำปาง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยตำบลบ้านดง อ.แม่เมาะ ต้องนำป้ายเตือนให้ผู้ขับขี่ให้ระมัดระวังพร้อมปิดช่องทางจารจร 1 ช่องทางเพื่อความ ปลอดภัย เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกลงต่อเนื่อง ทำให้ดินบนภูเขาทรุดและสไลด์ลงมาปิดเส้นทางจราจร ทั้งยังมีเศษหินและดินบนภูเขาหล่นลงมาอย่างต่อเนื่อง เกรงว่า จะทำให้ก้อนหินขนาดใหญ่หล่นลงมากีดขวางทางจราจรและเกิดอุบัติเหตุได้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ใช้รถใช้ถนนอีกว่า มีหินขนาดใหญ่กลิ้งลงขวางถนนจำนวนมากบริเวณถนนสายลำปาง-แพร่ กม.ที่ 8 บนดอยพระบาท บ้านผา ลาด อ.เมืองลำปาง โดยหินขนาดใหญ่และดินสไลด์ขวางอยู่กลางถนนดังกล่าว
**น้ำป่าขุนตาลทะลักท่วมเกาะคา
ส่วนที่เขตเทศบาลตำบลลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง นายอดุลย์ กันธิดา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลำปางหลวง ได้ออกสำรวจพื้นที่หลายหมู่บ้านใน ต.ลำปางหลวง หลังน้ำจากลำน้ำแม่ตาล ลำน้ำแม่เถาวัลย์ ซึ่งรับน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาขุนตาล ไหลเข้าท่วมบ้านราษฎรในพื้นที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะที่บ้านนางเหลียว ม.4 ต.ลำปางหลวง ชาวบ้านต้องเร่งขนของไปไว้ในที่สูงเพื่อหนีน้ำ บ้านบางหลังได้ถูกน้ำไหลทะลักเข้าไปในตัวบ้านเสียหายหมดทั้งหลัง ถนนบางเส้นในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 80 ซม.
**น้ำท่วมแพร่8อำเภอ-สูญหาย1ราย
ที่ จ.แพร่ นายสมคิด ผานุการณ์ รักษาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.แพร่ขณะนี้ได้รับผลกระทบหมดทั้ง 8 อำเภอโดย อ.เมืองและ อ.วังชิ้นได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด โดยบริเวณ อ.เมือง ในเขตเทศบาลเมืองแพร่ พบว่าระดับน้ำท่วมสูงถึง 1.50-1.60 เมตร ชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือน ไม่สามารถเดินทางออกบริเวณบ้านได้ ส่วนหนึ่งต้องอาศัยอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งก็นำอาหารกล่องและน้ำดื่มเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น
ส่วนที่อ.วังชิ้น พบว่าน้ำท่วมหมดทั้ง 7 ตำบลโดย ต.แม่ป้าก และ ต.แม่เกิ้ง ได้รับความเสียหายมากที่สุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และพบมีผู้สูญหาย 1 รายที่ ต.น้ำชำ อ.สูงเม่น โดยผู้สูญหายได้เดินทางออกไปสวนหน่อไม้ใกล้บ้าน ช่วงที่น้ำเริ่มไหลเข้าท่วมพื้นที่ผู้สูญหายก็ไม่ได้เดินทางกลับบ้าน พบเพียงรถจักรยานบริเวณใกล้ลำน้ำร่องเสี้ยวเท่านั้น
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวเมื่อช่วงเวลา 18.00 น.วานนี้ว่า ระดับน้ำในบางพื้นที่ของ จ.แพร่ได้ลดระดับแล้วเนื่องจากฝนเริ่มหยุดตก
**ชาวบ้านอุตรดิตถ์หวิดดับยกครัว
ที่ จ.อุตรดิตถ์ วานนี้ได้เกิดเหตุบ้านที่ตั้งอยู่ริมตลิ่งลำคลองห้วยใหญ่ ที่รับน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกแม่พูล ของนายสง ห้องข้าว บ้านเลขที่ 60/1 ม.7 ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งอาศัยอยู่กับลูกๆ ภรรยาและหลานสาววัย 4 ขวบรวม 5 คนถูกน้ำเซาะบ้านพังเสียหายเกือบทั้งหลัง เกือบถูกกระแสน้ำพัดหายไปทั้งครอบครัว
นายสุมิตร เกิดกล่ำ นายอำเภอลับแล กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบความเสียหาย และสั่งการให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านออกประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณลำคลองห้วยใหญ่ ให้ระมัดระวังเหตุการณ์นำป่าไหลหลากดังกล่าวแล้ว
**หลายพื้นที่ในเมืองสุโขทัยเริ่มอ่วม
ที่จ.สุโขทัย หลายพื้นที่เข้าขั้นวิกฤต ปริมาณน้ำยมที่สูงขึ้นต่อเนื่องได้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอประกอบด้วยบ้านสุเม่น และบ้านหาดแค ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย ชาวบ้านกว่า 500 หลังคาเรือนเดือดร้อนหนักถนนสายศรีสัชนาลัย-วังชิ้นบริเวณบ้านหาดแค มีน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตรรถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้
ส่วนพื้นที่ ต.เมืองบางยม อ.สวรรคโลก, ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง และ ต.ปากแคว ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย ถูกน้ำท่วมหลายหมู่บ้านถนนหลัก 3 สายคือสายสุโขทัย-ศรีสำโรง(สายหน้า)ตรงหน้าการประปาส่วนภูมิภาค ต.ปากแคว, สายสุโขทัย-ศรีสำโรง(สายหลัง) ตรงหมู่ 7 บ้านบางคลอง ต.ปากแคว และถนนสายสุโขทัย-บางระกำ ตรงบ้านลัดทรายมูล ต.ปากพระ ก็มีน้ำท่วมสูงเช่นกันรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
อย่างไรก็ตาม ได้มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องในจังหวัดรวมทั้งมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก, ตชด.ค่ายรามคำแหง สุโขทัย, ตชด.ที่ 31 พิษณุโลก และจังหวัดทหารบก พิษณุโลกอีก 100 นายได้เข้ามาในพื้นที่ประสบภัยเพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว
**หนองคายเร่งทำความสะอาดหลังน้ำลด
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคอีสาน หลายจังหวัดเริ่มคลี่คลายแล้ว โดยเฉพาะที่ จ.หนองตาย หลังน้ำลดนายทรงพล โกวิทศิริกุล นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย ได้ระดมกำลังพนักงานเทศบาลออกล้างและทำความสะอาดถนนประจักษ์ศิลปาคมตลอดสาย รวมทั้งการจัดเก็บขยะตามทางระบายน้ำ และได้ออกหน่วยเคลื่อนที่ที่ชุมชนสวนอ้อย โดยนำพนักงานสาธารณสุขไปให้บริการและนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย 100 ถุง
**ปภ.เตือน37จังหวัดระวังน้ำป่า
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากอิทธิพลจากพายุโซนร้อนนกเตนทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่ น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก นครพนม อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และสกลนคร รวม 43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้านมีผู้เสียชีวิต 1 รายที่ จ.อุดรธานี
"ฝากเตือนภัยไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม 37 จังหวัด เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในช่วง 1-2 วันนี้ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย หมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นลมแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้"
ส่วนพายุหมุยฟ้า ขณะนี้ได้เคลื่อนตัวเข้าฝั่งประเทศไต้หวันแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีอิทธิพลต่อฝนที่จะตกหนักในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมชลประทานได้ออกประกาศเตือนภัยหลังจากมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่อาจจะส่งผลให้มีน้ำเหนือไหลลงสู่แม่น้ำสายหลัก และไหลลงเขื่อน
**คาด10ส.ค.น้ำเหนือเข้ากรุง
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า คาดว่าประมาณวันที่ 10 ส.ค.กทม.จะได้รับผลกระทบปริมาณน้ำจากภาคเหนือ ซึ่งได้สั่งการให้สำนักการระบายน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา และให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์จำนวน 13 เขต 27 ชุมชน รวมประมาณ 1,200 ครัวเรือน ทั้งนี้ กทม.ได้สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว โดยนำกระสอบทรายไปกั้นปิดทางน้ำไว้ทั้งหมดแล้ว และกทม.ยังมีเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำเหนือและปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ได้
วานนี้ (2 ส.ค.) หลายจังหวัดทางภาคเหนือและอีสานยังคงได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนนกเตน และยังคงถูกน้ำท่วมอยู่อีกในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่ไหลผ่าน อ.เมืองเชียงใหม่ จะเริ่มลดลงตามลำดับแต่สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.สันกำแพง ยังไม่คลี่คลาย โดยน้ำจำนวนมากจาก อ.ดอยสะเก็ด ได้ไหลบ่า เข้าท่วมชุมชนรอบในรวมทั้งหมด 10 ตำบลของ อ.สันกำแพง ซึ่งมีทั้งหมู่บ้านจัดสรรและชุมชนที่อยู่อาศัย โดยระดับน้ำยังทรงตัวอยู่ที่ 30-40 ซม.
ขณะที่หมู่บ้านบ่อสร้าง ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญของ อ.สันกำแพง ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยน้ำได้ไหลเข้าท่วมร้านค้าบริเวณสี่แยกบ่อสร้าง ซึ่งได้สร้างความ เสียหายให้กับผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรมนับสิบแห่ง คาดว่าจะมีผู้ประสบความเดือดร้อนกว่า 20,000 ครอบครัว
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลา 10.00 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอสันกำแพง เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยจำนวน 1,000 ชุด พร้อมลงพื้นที่ตรวจความเสียหาย โดยกำชับให้ทางอำเภอเร่งให้การช่วยเหลือ พร้อมคาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกลงมาอีกน้ำที่ท่วมขังเป็นบริเวณกว้างใน อ.สันกำแพง จะลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติใน 2 วันนี้
**นครเชียงใหม่ระดมป้องกันน้ำท่วม
ส่วนสถานการณ์ในตัวเมืองเชียงใหม่ หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้เร่งเตรียมการป้องกันการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ตัวเมือง โดยเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ร่วมกับกำลัง ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 เร่งบรรจุกระสอบทรายเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน พร้อมทั้งเร่งเสริมแนวคอนกรีตป้องกันในบริเวณจุดเสี่ยงอย่างถนนช้างคลานและถนนเจริญประเทศ
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ กล่าวว่า แม้มีแนวโน้มว่าจะไม่เกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่แล้วก็ตาม แต่ทางเทศบาลก็จะยังคงเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมต่อไป เนื่องจากยังจะมีพายุลูกอื่นที่จะเข้าสู่พื้นที่อีก จึงต้องมีการเตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
**ดินสไลด์ปิดถนนลำปาง-งาว
ขณะที่ จ.ลำปาง มีรายงานข่าวว่า ที่บริเวณถนนพหลโยธินลำปาง-งาวขาขึ้นหลัก กม.ที่ 746-747 เขตบ้านจำปุย ม.4 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ก่อนถึงค่ายฝึกรบพิเศษ ประตูฝา 2 กม.เจ้าหน้าที่แขวงการทางลำปาง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยตำบลบ้านดง อ.แม่เมาะ ต้องนำป้ายเตือนให้ผู้ขับขี่ให้ระมัดระวังพร้อมปิดช่องทางจารจร 1 ช่องทางเพื่อความ ปลอดภัย เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกลงต่อเนื่อง ทำให้ดินบนภูเขาทรุดและสไลด์ลงมาปิดเส้นทางจราจร ทั้งยังมีเศษหินและดินบนภูเขาหล่นลงมาอย่างต่อเนื่อง เกรงว่า จะทำให้ก้อนหินขนาดใหญ่หล่นลงมากีดขวางทางจราจรและเกิดอุบัติเหตุได้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ใช้รถใช้ถนนอีกว่า มีหินขนาดใหญ่กลิ้งลงขวางถนนจำนวนมากบริเวณถนนสายลำปาง-แพร่ กม.ที่ 8 บนดอยพระบาท บ้านผา ลาด อ.เมืองลำปาง โดยหินขนาดใหญ่และดินสไลด์ขวางอยู่กลางถนนดังกล่าว
**น้ำป่าขุนตาลทะลักท่วมเกาะคา
ส่วนที่เขตเทศบาลตำบลลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง นายอดุลย์ กันธิดา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลำปางหลวง ได้ออกสำรวจพื้นที่หลายหมู่บ้านใน ต.ลำปางหลวง หลังน้ำจากลำน้ำแม่ตาล ลำน้ำแม่เถาวัลย์ ซึ่งรับน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาขุนตาล ไหลเข้าท่วมบ้านราษฎรในพื้นที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะที่บ้านนางเหลียว ม.4 ต.ลำปางหลวง ชาวบ้านต้องเร่งขนของไปไว้ในที่สูงเพื่อหนีน้ำ บ้านบางหลังได้ถูกน้ำไหลทะลักเข้าไปในตัวบ้านเสียหายหมดทั้งหลัง ถนนบางเส้นในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 80 ซม.
**น้ำท่วมแพร่8อำเภอ-สูญหาย1ราย
ที่ จ.แพร่ นายสมคิด ผานุการณ์ รักษาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.แพร่ขณะนี้ได้รับผลกระทบหมดทั้ง 8 อำเภอโดย อ.เมืองและ อ.วังชิ้นได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด โดยบริเวณ อ.เมือง ในเขตเทศบาลเมืองแพร่ พบว่าระดับน้ำท่วมสูงถึง 1.50-1.60 เมตร ชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือน ไม่สามารถเดินทางออกบริเวณบ้านได้ ส่วนหนึ่งต้องอาศัยอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งก็นำอาหารกล่องและน้ำดื่มเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น
ส่วนที่อ.วังชิ้น พบว่าน้ำท่วมหมดทั้ง 7 ตำบลโดย ต.แม่ป้าก และ ต.แม่เกิ้ง ได้รับความเสียหายมากที่สุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และพบมีผู้สูญหาย 1 รายที่ ต.น้ำชำ อ.สูงเม่น โดยผู้สูญหายได้เดินทางออกไปสวนหน่อไม้ใกล้บ้าน ช่วงที่น้ำเริ่มไหลเข้าท่วมพื้นที่ผู้สูญหายก็ไม่ได้เดินทางกลับบ้าน พบเพียงรถจักรยานบริเวณใกล้ลำน้ำร่องเสี้ยวเท่านั้น
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวเมื่อช่วงเวลา 18.00 น.วานนี้ว่า ระดับน้ำในบางพื้นที่ของ จ.แพร่ได้ลดระดับแล้วเนื่องจากฝนเริ่มหยุดตก
**ชาวบ้านอุตรดิตถ์หวิดดับยกครัว
ที่ จ.อุตรดิตถ์ วานนี้ได้เกิดเหตุบ้านที่ตั้งอยู่ริมตลิ่งลำคลองห้วยใหญ่ ที่รับน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกแม่พูล ของนายสง ห้องข้าว บ้านเลขที่ 60/1 ม.7 ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งอาศัยอยู่กับลูกๆ ภรรยาและหลานสาววัย 4 ขวบรวม 5 คนถูกน้ำเซาะบ้านพังเสียหายเกือบทั้งหลัง เกือบถูกกระแสน้ำพัดหายไปทั้งครอบครัว
นายสุมิตร เกิดกล่ำ นายอำเภอลับแล กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบความเสียหาย และสั่งการให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านออกประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณลำคลองห้วยใหญ่ ให้ระมัดระวังเหตุการณ์นำป่าไหลหลากดังกล่าวแล้ว
**หลายพื้นที่ในเมืองสุโขทัยเริ่มอ่วม
ที่จ.สุโขทัย หลายพื้นที่เข้าขั้นวิกฤต ปริมาณน้ำยมที่สูงขึ้นต่อเนื่องได้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอประกอบด้วยบ้านสุเม่น และบ้านหาดแค ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย ชาวบ้านกว่า 500 หลังคาเรือนเดือดร้อนหนักถนนสายศรีสัชนาลัย-วังชิ้นบริเวณบ้านหาดแค มีน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตรรถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้
ส่วนพื้นที่ ต.เมืองบางยม อ.สวรรคโลก, ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง และ ต.ปากแคว ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย ถูกน้ำท่วมหลายหมู่บ้านถนนหลัก 3 สายคือสายสุโขทัย-ศรีสำโรง(สายหน้า)ตรงหน้าการประปาส่วนภูมิภาค ต.ปากแคว, สายสุโขทัย-ศรีสำโรง(สายหลัง) ตรงหมู่ 7 บ้านบางคลอง ต.ปากแคว และถนนสายสุโขทัย-บางระกำ ตรงบ้านลัดทรายมูล ต.ปากพระ ก็มีน้ำท่วมสูงเช่นกันรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
อย่างไรก็ตาม ได้มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องในจังหวัดรวมทั้งมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก, ตชด.ค่ายรามคำแหง สุโขทัย, ตชด.ที่ 31 พิษณุโลก และจังหวัดทหารบก พิษณุโลกอีก 100 นายได้เข้ามาในพื้นที่ประสบภัยเพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว
**หนองคายเร่งทำความสะอาดหลังน้ำลด
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคอีสาน หลายจังหวัดเริ่มคลี่คลายแล้ว โดยเฉพาะที่ จ.หนองตาย หลังน้ำลดนายทรงพล โกวิทศิริกุล นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย ได้ระดมกำลังพนักงานเทศบาลออกล้างและทำความสะอาดถนนประจักษ์ศิลปาคมตลอดสาย รวมทั้งการจัดเก็บขยะตามทางระบายน้ำ และได้ออกหน่วยเคลื่อนที่ที่ชุมชนสวนอ้อย โดยนำพนักงานสาธารณสุขไปให้บริการและนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย 100 ถุง
**ปภ.เตือน37จังหวัดระวังน้ำป่า
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากอิทธิพลจากพายุโซนร้อนนกเตนทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่ น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก นครพนม อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และสกลนคร รวม 43 อำเภอ 134 ตำบล 492 หมู่บ้านมีผู้เสียชีวิต 1 รายที่ จ.อุดรธานี
"ฝากเตือนภัยไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม 37 จังหวัด เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในช่วง 1-2 วันนี้ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย หมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นลมแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้"
ส่วนพายุหมุยฟ้า ขณะนี้ได้เคลื่อนตัวเข้าฝั่งประเทศไต้หวันแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีอิทธิพลต่อฝนที่จะตกหนักในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมชลประทานได้ออกประกาศเตือนภัยหลังจากมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่อาจจะส่งผลให้มีน้ำเหนือไหลลงสู่แม่น้ำสายหลัก และไหลลงเขื่อน
**คาด10ส.ค.น้ำเหนือเข้ากรุง
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า คาดว่าประมาณวันที่ 10 ส.ค.กทม.จะได้รับผลกระทบปริมาณน้ำจากภาคเหนือ ซึ่งได้สั่งการให้สำนักการระบายน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา และให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์จำนวน 13 เขต 27 ชุมชน รวมประมาณ 1,200 ครัวเรือน ทั้งนี้ กทม.ได้สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว โดยนำกระสอบทรายไปกั้นปิดทางน้ำไว้ทั้งหมดแล้ว และกทม.ยังมีเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำเหนือและปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ได้