“มาร์ค”ดอดเข้าพื้นที่ปากน้ำโพ-ตรวจน้ำท่วม ไร้เงาเสื้อแดงป่วน

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - "อภิสิทธิ์" ดอดลงพื้นที่ท่าตะโก เมืองปากน้ำโพ นำทีมตรวจน้ำท่วม ท่ามกลาง 6 ผู้สมัครของ ปชป.สนามนครสวรรค์ ร่วมต้อนรับพร้อมหน้า โดยไร้เงาเสื้อแดง

วันนี้(11 มิ.ย.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นาย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.จังหวัดตรัง หลายสมัย พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่ทำการเทศบาล ต.ท่าตะโก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ มีนายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ และผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 6 เขต ที่คือ นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร เขต 1,นายสมควร โอบอ้อม เขต 2,นาย ศัตวรรษ แสนมุข เขต 3, นายสัญญพงษ์ จิระธนประเสริฐ เขต 4, จ่าอากาศตรี วิริยะ วรรณทอง เขต 5 , และนายสำรอง เยี่ยงยงค์ เขต 6 ร่วมให้การต้อนรับ

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้บรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดนครสวรรค์ ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลท่าตะโก ว่า ขณะนี้นครสวรรค์ประสบอุทกภัย 10 อำเภอ 55 ตำบล 456 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 24,556 ครัวเรือน 52,519 คน นาข้าวเสียหาย 102,684 ไร่ ถนน 77 สาย บ่อปลา 17 บ่อ ซึ่งสภาพทั่วไปน้ำยังคงท่วมขังในพื้นที่อยู่ เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์และลพบุรีที่อยู่ทางโซนตะวันออกเฉียงเหนือของนครสวรรค์ ประกอบกับคลองท่าตะโก ตื้นเขิน และถนนบางสายตัดขวางเส้นทางน้ำ จึงทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหาย

จังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และสำรวจความเสียหายเพื่อชดเชยให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์และระเบียบการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยต่อไป

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ปราศรัยกับราษฎรที่มารอต้อนรับกว่า 1,000 คนว่า ขอแสดงความเสียใจและเห็นใจประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งตนได้หารือกับส่วนราชการในการให้ความช่วยเหลือและเร่งให้ดำเนินการตามกฎเกณฑ์ทันที ส่วนทางคณะรัฐมนตรีกำลังพิจารณาอนุมัติโครงการประกันพืชผลทางการเกษตร นอกเหนือจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรและโครงการอื่นๆแล้ว

ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยท่ามกลางกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 100 นาย ที่ดูแลรักษาความสงบและเป็นไปอย่างราบรื่น เนื่องจากการลงพื้นที่นครสวรรค์ของนายอภิสิทธิ์ และคณะ ครั้งนี้เป็นการมาดูและแก้ไขความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ไม่ได้เน้นการหาเสียงหรือจัดเวทีปราศรัย จึงทำให้ปราศจากกลุ่มคนเสื้อแดง หรือฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใดหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจจึงเดินทางต่อไปจังหวัดระยองต่อไป