นราธิวาส - เตรียมเปิดตัว “พิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาส” ณ อาคารศาลากลางจังหวัดนราธิวาสหลังเก่า เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ สะท้อนมรดกวัฒนธรรม แสดงวิถีชีวิต เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ชาติพันธุ์ เครื่องแต่งกาย ประกอบด้วย 10 ห้องภูมิจัดแสดงนิทรรศการ เพียบพร้อมด้วยความรู้ ตื่นตาตื่นใจ หวังใช้มิติวัฒนธรรมแก้ไข สร้างค่านิยมภาคภูมิใจในถิ่นเกิด และหวงแหนมรดกทางวัฒนธรรม
นางอุษณีย์ ธุวโชติ วัฒนธรรมจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า จังหวัดนราธิวาส โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนราธิวาส ริเริ่มให้มีการดำเนินการจัดตั้ง “พิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาส” ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 โดยใช้อาคารศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังเก่า) เป็นที่จัดตั้งและดำเนินการ เพื่อปรับปรุงอาคารให้ใช้เป็นที่จัดทำตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ อันเป็นการนำมิติทางวัฒนธรรมมาแก้ไขสภาพปัญหา เสริมสร้างค่านิยมจิตสำนึกภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่น หวงแหนมรดกวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ มีแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวที่สำคัญ
“ในปี 2554 ได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดนราธิวาส โดยนายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส อนุมัติงบพัฒนาจังหวัดมาให้ประมาณ 22 ล้านบาท เพื่อสานต่อแนวคิดให้เป็นจริงขึ้นมา โดยเราจะได้นำมาปรับปรุงส่วนของพิพิธภัณฑ์ในบริเวณชั้นล่างก่อนในปีนี้ เป็นคล้ายๆ โถงต้อนรับ มีส่วนของประติมากรรม ซึ่งคงต้องหาคนออกแบบสถาปัตยกรรมหรือประติมากรรมให้แสดงถึงนัยความรัก ความผูกพัน ของคนนราธิวาส ที่มีต่อแผ่นดินเกิด”
สำหรับแผนการพัฒนาพื้นที่พิพิธภัณฑ์ฯ ประกอบด้วย 10 ห้องภูมิจัดแสดงนิทรรศการ เพียบพร้อมด้วยความรู้ ความตื่นตาตื่นใจ เช่น ห้องภูมิแผ่นดิน ห้องภูมิหลัง ห้องภูมิเมือง ห้องภูมิชีวิต ห้องภูมิชน ห้องภูมิปัญญา ห้องภูมิธรรม ห้องภูมิภาษาและวรรณกรรม ห้องภูมิบุคคล ห้องภูมิศิลป์
ทั้งนี้ ถัดจากห้องโถงใหญ่ชั้นล่างคือ ห้องบรรยายสรุป มีวิดีทัศน์บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนราธิวาส ใกล้กันเป็นห้องภูมิแผ่นดิน หมายถึงความภาคภูมิใจของชาวนราธิวาสที่มีต่อแผ่นดินนราธิวาส โดยเฉพาะการบรรยายถึงทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ที่ควรภาคภูมิใจ เรื่องทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรประมง ป่าฮาลา-บาลา ป่าพรุสิรินธร น้ำตกสิรินธร ชายทะเลที่สวยงาม หรือน้ำตกที่มีชื่อเสียงของพื้นที่ ใบไม้สีทอง เรือกอและจำลอง ฯลฯ
ตามด้วยห้องภูมิหลัง ซึ่งจะปรากฏเรื่องราวเกี่ยวกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่สมัยยังเป็นเมืองเล็กๆ ขึ้นอยู่กับเมืองสายบุรี สมัยเป็นเมืองระแงะ ถึงสมัยรัตนโกสินทร์จึงแยกออกมาเป็นเมืองบางนรา แล้วขึ้นมาเป็นจังหวัดนราธิวาสในที่สุด
“จากห้องภูมิหลัง ก่อนออกมาจะเป็นห้องจำลองบรรยากาศเมืองนราธิวาสโดยทั่วไป คล้ายๆ กับเดินผ่านเข้ามาในเมืองนราธิวาส แต่เป็นบรรยากาศของการจำลองเมือง หลังจากนั้นผ่านไปยังห้องที่เป็นห้องแสดงภาพเก่าของเมืองนราธิวาส ซึ่งเรามีแนวคิดว่าในห้องแสดงภาพเก่านี้จะติดภาพตามระยะเวลา มีการจัดเป็นนิทรรศการหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป โดยเวลานี้กำลังตั้งกรรมการฝ่ายวิชาการในห้องต่างๆ ก่อนเปิดให้มีการทำประชาพิจารณ์รับฟังเสียงประชาชน เพื่อให้พิพิธภัณฑ์นี้เป็นของชาวนราธิวาสจริงๆ”
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาส ประกอบด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ 1.เพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชุมชนเมือง แหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรม ศาสนา ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต มรดกทางภูมิปัญญาท้องถิ่นในอดีต ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ความสำคัญ ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจแก่ชุมชน 2.ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม ของชุมชน ประชาชน สถาบันการศึกษา และหน่วยงานต่างๆและ3.เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดนราธิวาส
“ตามกำหนดการแล้ว จะเปิดให้บริการในพื้นที่ชั้นล่างได้ในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน พ.ศ.2555 และเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดในปี 2556 ซึ่งถึงเวลานั้นคนนราธิวาสคงได้มีพิพิธภัณฑ์ของตัวเองที่สมบูรณ์ สร้างความภาคภูมิใจได้ และมีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพราะทางผู้ว่าฯ ธนนก็ให้ความสนใจมาก คอยติดตาม อยากให้สำเร็จโดยเร็วเหมือนกัน เพราะอย่างน้อยจังหวัดนราธิวาสมีอะไรที่เป็นสิ่งบอกเล่าเรื่องราวซึ่งเยาวชนทั่วไปควรได้รู้เรื่องราวของตัวเอง แทนที่จะไปซ่อนอยู่ในสมุด หนังสือ ซึ่งไม่มีการรวบรวมเรียบเรียงกันอย่างเป็นระบบ หรือจะมีบ้างก็ไม่มากนัก” นางอุษณีย์กล่าวปิดท้าย