เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (9ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรค ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยมีกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ว่าที่เลขาธิการพรรค นายอลงกรณ์ พลบุตร ว่าที่รองหัวหน้าภาคกลาง นายถาวร เสนเนียม ว่าที่รองหัวหน้าภาคใต้ นายกรณ์ จาติกวณิช ว่าที่รองหัวหน้ากทม. นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ว่าที่รองหัวหน้าภาคเหนือ นายนิพนธ์ บุญญามณี ว่าที่รองเลขาธิการ เป็นต้น
ต่อมา 12.00 น. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ว่าที่โฆษกพรรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า ที่ประชุมได้มีการหารือเบื้องต้นถึงแนวทางการทำงานในระหว่างที่รอการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้มอบหมายบทบาทการทำงานของแต่ละคน โดยในส่วนของรองหัวหน้าพรรคคือ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ ดูแลด้านการเมืองและสภาฯ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ดูแลเรื่องนโยบายยุทธศาสตร์ ส่วนนายจุติ ไกรฤกษ์ ดูแลด้านการมีส่วนร่วมของส.ส.และการประสานสาขาพรรคต่างๆ
ส่วนการเตรียมยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้านั้นคงต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน จากนั้นจะจัดให้มีการสัมมนาคณะกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ในช่วงปลายเดือนส.ค.นี้ เพื่อให้แต่ละคนได้ไปเตรียมแผนงานของตัวเองมาเสนอยังที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะการดำเนินยุทธศาสตร์นโยบายให้ถูกใจประชาชนมากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นเน้นถึงกลไกการทำงานกับประชาชน เพราะที่ผ่านมายังเข้าถึงประชาชนได้ไม่เต็มที่ เน้นประเด็นเรื่องการสื่อสารกับประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่ไว้วางใจกับพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะมีการเข้าถึงกลุ่มเหล่านี้อย่างไร รวมถึงช่อทางการรับฟังความคิดเห็นและความต้องการ ข้อเรียกร้องต่างของประชาชนว่าจะมีการเปิดช่องทางตรงไหนบ้าง โดยจะมีการมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
นายชวนนท์ กล่าวว่า ส่วนการตั้งครม.เงานั้น นายอภิสิทธิ์เห็นว่าควรให้มีครม.จริงก่อนที่จะจัดสรรบุคคลที่จะเป็นครม.เงาได้อย่างลงตัวและเหมาะสม ซึ่งอาจจะมีอดีตรัฐมนตรีบางคนที่ผ่านงานมาแล้วรวมอยู่ด้วย ซึ่งก็ต้องดูว่าใครมีความรู้ความสามารถและเหมาะสมเป็นหลักมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดคุยถึงเรื่องเลขาฯ พรรคคนใหม่หรือไม่เพราะยังมีบางส่วนที่ยังไม่ยอมรับ นายชวนนท์กล่าวว่า หัวหน้าพรรคได้พูดชัดเจนแล้วว่า ในเมื่อมีการเปลี่ยนเลขาฯใหม่ก็ต้องมีบางส่วนที่ยังไม่แน่ใจ ก็จะต้องเป็นหน้าที่ของเลขา ฯที่จะนำพาพรรคเดินไปข้างหน้าและสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกพรรคทุกคน เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์ให้เหตุผลไว้ว่าที่เลือกนายเฉลิมชัยมาทำหน้าที่เลขาฯเพราะต้องการขยายฐานเสียงภาคกลางวันนี้ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้หรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า วันนี้พูดในภาพรวมว่า ส.ส.ในภาคกลาง เหนือและอีสาน มีกระบวนการในการวางยุทธศาสตร์อย่างชัดเจน รวมทั้งในพื้นที่ภาคใต้เอง มีการกำชับให้ ส.ส.ให้ทำงานหนักขึ้น เข้าถึงประชาชนมากขึ้น
เมื่อถามว่า แสดงว่าที่ผ่านมาการประชาสัมพันธ์เป็นจุดอ่อนในการหาเสียงของพรรคในการเลือกตั้งที่ผ่านมาใช่หรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นส่วนหนึ่ง เพราะการประชาสัมพันธ์เป็นช่องทางการสื่อสารที่เราจะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาชน และการรับทราบความต้องการของพี่น้องประชาชนเพื่อปรับใช้ยุทธศาสตร์ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องรับผิดชอบ
**“มาร์ค”เตรียมวางกรอบทำงานฝ่ายค้าน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำหน้าที่ฝ่ายค้านว่า พรรคจะมีการจัดสัมมนาปลายเดือนส.ค.หลังรัฐบาลแถลงนโยบายแล้ว เพื่อสรุปยุทธศาสตร์การทำงานของพรรคทั้งงานการเมืองและงานรัฐสภา โดยขณะนี้แต่งตั้งให้คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นประธานส.ส. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ เป็นประธานวิปฝ่ายค้าน
ในส่วนการตั้งครม.เงาจะดูตามความจำเป็นของเนื้องาน ซึ่งจะตั้งขึ้นมาหลังรัฐบาลแถลงนโยบาย โดยกรอบการทำงานของครม.เงาจะเข้ามาดำเนินการติดตามนโยบาย และการตรวจสอบปัญหาการใช้อำนาจมิชอบ การทุจริต การช่วยเหลือพวกพ้อง
“น่าเป็นห่วงว่าพรรคเพื่อไทยนำเสนอนโยบายช่วงหาเสียงในลักษณะคาดหวัง ซึ่งการแถลงนโยบายครั้งนี้ฝ่ายค้านจะอภิปรายให้เห็นว่าการนำเสนอนโยบายกับคนหมู่มากโดยไม่เตรียมการ ไม่มีความพร้อมจะทำให้เกิดปัญหา ดังนั้นรัฐบาลต้องให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการตามนโยบายหาเสียงทั้งเรื่องค่าแรง เพิ่มเงินเดือน และนโยบายรับจำนำที่จะต้องมีความชัดเจนในทิศทาง และในการแถลงนโยบายเราจะต้องทราบว่านโยบายที่หาเสียงไว้จะดำเนินการได้เมื่อไร”
อย่างไรก็ตามต้องให้โอกาสรัฐบาลและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนใหม่ในการทำงานเพื่อพิสูจน์ก่อน แต่สิ่งที่หนักใจของรัฐบาลนี้คือปัญหาผลประโยชน์ที่มีความทับซ้อนอยู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปฏิเสธได้ยาก เมื่อวันนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์สวมหมวกเป็นรัฐบาลจึงมีหน้าที่จะทำอย่างไรที่จะก้าวข้ามปัญหาทับซ้อนนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงเป็นเพียงการแสดงเจตนาในการเข้ามาทำงาน แต่ในวันแถลงนโยบาย เป็นเรื่องที่ประชาชนคาดหวัง และต้องยอมรับว่าวันนี้มีประชาชนที่เขาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย มียังหลายเรื่องที่เริ่มมีการสอบถามแล้ว คงจะต้องมีคำตอบให้ประชาชน ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะสามารถ ชี้แจงต่อสภาฯได้หรือไม่ รัฐบาลก็จะต้องรับผิดชอบต่อผู้แทนของประชาชน
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ความท้ายในเรื่องการทำงานให้ก้าวข้ามความเป็นผู้หญิง เพราะไม่ใช่อุปสรรคนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดเรื่องความเป็นผู้ชายผู้หญิง แต่สิ่งที่น่าหนักใจคือเรืองปัญหาของผลประโยชน์ที่ซ้อนกันอยู่ และปฏิเสธได้ยาก ตนเคยพุดเรื่องนี้หลายครั้ง เรื่องความเป็นพี่น้อง แต่เมื่อวันนี้มาสวมหมวก ผู้นำรัฐบาล ตรงนี้คิดว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายและอยากให้นายกคนใหม่ก้าวข้ามไปโดยเร็วที่สุด
ต่อมา 12.00 น. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ว่าที่โฆษกพรรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า ที่ประชุมได้มีการหารือเบื้องต้นถึงแนวทางการทำงานในระหว่างที่รอการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้มอบหมายบทบาทการทำงานของแต่ละคน โดยในส่วนของรองหัวหน้าพรรคคือ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ ดูแลด้านการเมืองและสภาฯ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ดูแลเรื่องนโยบายยุทธศาสตร์ ส่วนนายจุติ ไกรฤกษ์ ดูแลด้านการมีส่วนร่วมของส.ส.และการประสานสาขาพรรคต่างๆ
ส่วนการเตรียมยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้านั้นคงต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน จากนั้นจะจัดให้มีการสัมมนาคณะกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ในช่วงปลายเดือนส.ค.นี้ เพื่อให้แต่ละคนได้ไปเตรียมแผนงานของตัวเองมาเสนอยังที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะการดำเนินยุทธศาสตร์นโยบายให้ถูกใจประชาชนมากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นเน้นถึงกลไกการทำงานกับประชาชน เพราะที่ผ่านมายังเข้าถึงประชาชนได้ไม่เต็มที่ เน้นประเด็นเรื่องการสื่อสารกับประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่ไว้วางใจกับพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะมีการเข้าถึงกลุ่มเหล่านี้อย่างไร รวมถึงช่อทางการรับฟังความคิดเห็นและความต้องการ ข้อเรียกร้องต่างของประชาชนว่าจะมีการเปิดช่องทางตรงไหนบ้าง โดยจะมีการมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
นายชวนนท์ กล่าวว่า ส่วนการตั้งครม.เงานั้น นายอภิสิทธิ์เห็นว่าควรให้มีครม.จริงก่อนที่จะจัดสรรบุคคลที่จะเป็นครม.เงาได้อย่างลงตัวและเหมาะสม ซึ่งอาจจะมีอดีตรัฐมนตรีบางคนที่ผ่านงานมาแล้วรวมอยู่ด้วย ซึ่งก็ต้องดูว่าใครมีความรู้ความสามารถและเหมาะสมเป็นหลักมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดคุยถึงเรื่องเลขาฯ พรรคคนใหม่หรือไม่เพราะยังมีบางส่วนที่ยังไม่ยอมรับ นายชวนนท์กล่าวว่า หัวหน้าพรรคได้พูดชัดเจนแล้วว่า ในเมื่อมีการเปลี่ยนเลขาฯใหม่ก็ต้องมีบางส่วนที่ยังไม่แน่ใจ ก็จะต้องเป็นหน้าที่ของเลขา ฯที่จะนำพาพรรคเดินไปข้างหน้าและสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกพรรคทุกคน เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์ให้เหตุผลไว้ว่าที่เลือกนายเฉลิมชัยมาทำหน้าที่เลขาฯเพราะต้องการขยายฐานเสียงภาคกลางวันนี้ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้หรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า วันนี้พูดในภาพรวมว่า ส.ส.ในภาคกลาง เหนือและอีสาน มีกระบวนการในการวางยุทธศาสตร์อย่างชัดเจน รวมทั้งในพื้นที่ภาคใต้เอง มีการกำชับให้ ส.ส.ให้ทำงานหนักขึ้น เข้าถึงประชาชนมากขึ้น
เมื่อถามว่า แสดงว่าที่ผ่านมาการประชาสัมพันธ์เป็นจุดอ่อนในการหาเสียงของพรรคในการเลือกตั้งที่ผ่านมาใช่หรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นส่วนหนึ่ง เพราะการประชาสัมพันธ์เป็นช่องทางการสื่อสารที่เราจะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาชน และการรับทราบความต้องการของพี่น้องประชาชนเพื่อปรับใช้ยุทธศาสตร์ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องรับผิดชอบ
**“มาร์ค”เตรียมวางกรอบทำงานฝ่ายค้าน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำหน้าที่ฝ่ายค้านว่า พรรคจะมีการจัดสัมมนาปลายเดือนส.ค.หลังรัฐบาลแถลงนโยบายแล้ว เพื่อสรุปยุทธศาสตร์การทำงานของพรรคทั้งงานการเมืองและงานรัฐสภา โดยขณะนี้แต่งตั้งให้คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นประธานส.ส. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ เป็นประธานวิปฝ่ายค้าน
ในส่วนการตั้งครม.เงาจะดูตามความจำเป็นของเนื้องาน ซึ่งจะตั้งขึ้นมาหลังรัฐบาลแถลงนโยบาย โดยกรอบการทำงานของครม.เงาจะเข้ามาดำเนินการติดตามนโยบาย และการตรวจสอบปัญหาการใช้อำนาจมิชอบ การทุจริต การช่วยเหลือพวกพ้อง
“น่าเป็นห่วงว่าพรรคเพื่อไทยนำเสนอนโยบายช่วงหาเสียงในลักษณะคาดหวัง ซึ่งการแถลงนโยบายครั้งนี้ฝ่ายค้านจะอภิปรายให้เห็นว่าการนำเสนอนโยบายกับคนหมู่มากโดยไม่เตรียมการ ไม่มีความพร้อมจะทำให้เกิดปัญหา ดังนั้นรัฐบาลต้องให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการตามนโยบายหาเสียงทั้งเรื่องค่าแรง เพิ่มเงินเดือน และนโยบายรับจำนำที่จะต้องมีความชัดเจนในทิศทาง และในการแถลงนโยบายเราจะต้องทราบว่านโยบายที่หาเสียงไว้จะดำเนินการได้เมื่อไร”
อย่างไรก็ตามต้องให้โอกาสรัฐบาลและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนใหม่ในการทำงานเพื่อพิสูจน์ก่อน แต่สิ่งที่หนักใจของรัฐบาลนี้คือปัญหาผลประโยชน์ที่มีความทับซ้อนอยู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปฏิเสธได้ยาก เมื่อวันนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์สวมหมวกเป็นรัฐบาลจึงมีหน้าที่จะทำอย่างไรที่จะก้าวข้ามปัญหาทับซ้อนนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงเป็นเพียงการแสดงเจตนาในการเข้ามาทำงาน แต่ในวันแถลงนโยบาย เป็นเรื่องที่ประชาชนคาดหวัง และต้องยอมรับว่าวันนี้มีประชาชนที่เขาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย มียังหลายเรื่องที่เริ่มมีการสอบถามแล้ว คงจะต้องมีคำตอบให้ประชาชน ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะสามารถ ชี้แจงต่อสภาฯได้หรือไม่ รัฐบาลก็จะต้องรับผิดชอบต่อผู้แทนของประชาชน
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ความท้ายในเรื่องการทำงานให้ก้าวข้ามความเป็นผู้หญิง เพราะไม่ใช่อุปสรรคนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดเรื่องความเป็นผู้ชายผู้หญิง แต่สิ่งที่น่าหนักใจคือเรืองปัญหาของผลประโยชน์ที่ซ้อนกันอยู่ และปฏิเสธได้ยาก ตนเคยพุดเรื่องนี้หลายครั้ง เรื่องความเป็นพี่น้อง แต่เมื่อวันนี้มาสวมหมวก ผู้นำรัฐบาล ตรงนี้คิดว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายและอยากให้นายกคนใหม่ก้าวข้ามไปโดยเร็วที่สุด
