ASTVผู้จัดการรายวัน-คนนอก แห่ชิ่ง “ครม.ยิ่งลักษณ์ 1” เหตุ “แม้ว”จุ้น!ไม่ทำตามสัญญา ขวางให้คนนอกจัดทีมเอง ส่วนรมต.ความมั่นคง เริ่มนิ่งแล้ว แฉ!”ยุทธศักดิ์”อาจวืด! “นายทุน-เสื้อแดง”ต่อสายจันทร์ส่องหล้า ด้าน“เพื่อไทย”คาด นำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ อังคารนี้ คาด 8ส.ค.โฉมหน้าชัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ส.ค) เวลา 17.00 น. พรรคเพื่อไทยได้นัด ส.ส.ให้มาเตรียมความพร้อม สำหรับพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
ขณะที่วานนี้ (7 ส.ค) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ได้ส่งตัวแทนแจ้งต่อสื่อมวลชนที่รอทำข่าวอยู่หน้าบ้านพัก ของดให้สัมภาษณ์ 1 วัน และไม่มีกำหนดการปฏิบัติภารกิจวันนี้ ส่วนกำหนดการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เคยระบุไว้ จะรอหลังการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อน เพื่อความเหมาะสม
**เขมรเล็งส่งหนังสือแสดงความยินดี
เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ เผยแพร่การรายงานของหนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ว่า ว่ารัฐบาลกัมพูชาเตรียมส่งหนังสือแสดงความยินดีกับรัฐบาลใหม่ของไทย หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการลงมติจากสภาผู้แทนราษฎร ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทย ภายหลังจากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ได้อย่างท่วมท้น
รายงานยังระบุด้วยว่า ขณะนี้หนังสือแสดงความยินดีดังกล่าวยังอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา เนื่องจากติดวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงยังไม่สามารถจัดส่งได้ และเตรียมดำเนินการต่อในวันจันทร์ที่ 8 ส.ค.
ทั้งนี้ ช่วงระหว่างการรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากพระมหาษัตริย์ไทย กัมพูชาหวังว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตลอดจนรัฐบาลใหม่ของไทย จะให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาให้มีความก้าวหน้าและดียิ่งขึ้น
**สามี'ปู'เผยสื่อนอกปรับตัวบทบาทใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศ เกี่ยวกับชีวิตครอบครัวว่าแม้ครอบครัวให้การสนับสนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์ในการลงเล่นการเมือง แต่ตัวเขาและลูกชายก็ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อปรับตัวเข้ากับบทบาทใหม่ และเพื่อหลีกเลี่ยงการคาดหมายต่างๆ นานา
ขณะนี้นายอนุสรณ์ก็ได้ลาออกจากงานในฐานะประธานบริษัทสื่อสารแห่งหนึ่งแล้ว
“ตนเองได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม ลิงก์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นการปรับตัวรับกับสถานะ สามีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ”
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับบทบาทใหม่ นายอนุสรณ์ตอบว่า "จะเรียกอย่างไรดีล่ะ สามีประจำบ้านมั้ง ผมจะเป็นที่ปรึกษาของว่าที่นายกรัฐมนตรีเฉพาะที่บ้านเท่านั้น"
หลังจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ชนะการเลือกตั้ง แม้แต่ลูกชายอย่างน้องศุภเสกข์ก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งในชีวิตที่เปลี่ยนไป และอยากให้คุณแม่กลับบ้านเร็วขึ้นหน่อย
ขณะที่นายอนุสรณ์เปิดใจต่อไปว่า ตอนแรกที่เจอกันก็ตกหลุมรักน.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งมีหน้าตางดงามหมดจด และหลังจากแต่งงานกันแล้ว เขาก็พบว่าความอ่อนน้อมถ่อมตัวเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสามัคคีในครอบครัว
เมื่อถูกถามว่าใครเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษก่อนหลังจากทะเลาะกัน นายอนุสรณ์ตอบว่า "ผมมักเป็นคนเอ่ยปาก เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนตั้งกฎว่า ข้อแรกคือฉันเป็นฝ่ายถูกเสมอ และข้อที่สอง ถ้าฉันผิดก็ให้กลับไปอ่านข้อแรก"
นอกจากนั้น นายอนุสรณ์ยังเล่าว่าเรียกภรรยาว่า "คุณปู หรือบางครั้งก็เรียกว่าแม่ หรือที่รัก"
รายงานข่าวระบุว่าดูเหมือนชีวิตของน.ส.ยิ่งลักษณ์ราบรื่นมาก แต่เธอต้องประสบความลำบากหลายอย่าง รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤติการเมืองของพี่ชายคือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ขณะที่นายอนุสรณ์กล่าวว่าการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์กำลังจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นการท้าทายอย่างมาก แต่ทั้งครอบครัวก็พร้อมรับมือกับการท้าทายนี้ และเขาคอยให้การสนับสนุนภรรยาอยู่ข้างหลังเสมอ
ขณะที่ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปค์ บุตรชาย กล่าวเช่นกันว่า สิ่งที่ตนเองต้องการคือ อยากให้แม่กลับบ้านเร็วขึ้นเท่านั้นเอง
**เพื่อไทยเงียบเป็นป่าช้าแฟนคลับหาย
ที่พรรคเพื่อไทย วันเดียวกันเป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่คึกคักเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมา บรรดาพ่อยกแม่ยกและคนเสื้อแดง ที่จะมานั่งจับกลุ่มคุยกัน บริเวณหน้าพรรคและในพรรคเป็นประจำ ในต่างหายหน้าหายตาไปหมด จะมีเพียงผู้สื่อข่าว บางสำนักที่มาเฝ้ารอทำข่าว ขณะที่พรรคได้ยกเลิกการแถลงข่าวประจำสัปดาห์
**คาด นำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ อังคารนี้
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินหน้าแก้ปัญหาน้ำท่วมและอุทกภัยเป็นลำดับแรกเพราะเป็นเรื่องสำคัญและประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก จึงต้องเร่งฟื้นฟูให้เร็วที่สุด หากมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เร็วเท่าใด จะเป็นเรื่องดีที่จะสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ และจัดพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ในวันที่ 12 ส.ค. รวมทั้งดูแลรายละเอียดราคาสินค้าที่สูงและการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ส่วนการจัดโผคณะรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์ 1” นั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 50 แล้ว และคาดว่าหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ในวันอังคารที่ 9 สิงหาคม จะสามารถนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ได้
ขณะนี้ต้องรอขั้นตอนการโปรดเกล้าฯให้เสร็จสิ้นเสียก่อนพร้อมทั้งคาดว่าการโปรดเกล้าฯจะล่วงเลยถึงช่วงค่ำ ส่วนจะทูลเกล้าฯเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่เพียงผู้เดียว
ขณะที่การจัดทำร่างนโยบายของรัฐบาล ขณะนี้ถือว่า ทำเสร็จแล้วเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นหลังโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี จะประสานไปยังพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เพื่อร่วมหารือแลกเปลี่ยนแนวนโยบายร่วมกัน และจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชนตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้ทันที
ส่วนที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยปล่อยข่าวให้ประชาชนเข้าใจผิดนั้น นายพร้อมพงศ์ ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้รีบปล่อยข่าว แต่เป็นการเตรียมความพร้อม เนื่องจากพิธีรับสนองพระบรมราชโองการจะเกิดความผิดพลาดไม่ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเตรียมการล่วงหน้า ซึ่งตนมองว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่ควรใช้อคติในการวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทย เช่นนี้
**เลขาฯระบุโผ ครม.ยังไม่นิ่ง หลัง 8 ส.ค.ชัด
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี "ยิ่งลักษณ์ 1" ว่า ที่ผ่านมา 2 วันนี้ถือได้ว่ามีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล และภายในพรรคไปค่อนข้างมากแล้ว ส่วนผลสรุปยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะออกมาเป็นเช่นไร และเชื่อว่าหลังจากวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคมนี้ จะมีความชัดเจนเรื่องตัวบุคคลและการดำรงตำแหน่งต่างๆ มากขึ้น โดยทั้งหมดจะต้องเป็นภายหลังจากกระบวนการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วอย่างเป็นทางการแล้วเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายจารุพงศ์ ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงเรื่องโผ ครม.ที่ออกมาตามสื่อต่างๆ ในช่วงนี้ ว่าตรงกับความเป็นจริงมากน้อยแค่นี้ โดยโผล่าสุดนั้น ตำแหน่งสำคัญ อาทิ กระทรวงกลาโหม ยังคงเป็น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ส่วนกระทรวงแรงงานเป็นโควตาของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน โดยให้นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้อยู่ในการดูแลของพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อสานงานต่อจากรัฐบาลชุดก่อน
**ยัน”นายกปู”ไม่มีวอลเปเปอร์ มีแต่ทีมงาน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ผลสำรวจจากสวนดุสิตโพลระบุว่าไม่ต้องการให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีมีวอลเปเปอร์ แต่ต้องการให้เดินไปอย่างผู้หญิงแกร่ง ว่า จากผลสำรวจของประชาชนคงจะมองรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่มีวอลเปเปอร์ ซึ่งเป็นลักษณะนักการเมืองที่ไปเดินตาม วอลเปเปอร์ถ้าเป็นสิ่งที่ดีก็เป็นภาพที่ดีต่อนายกฯ แต่ถ้าวอลเปเปอร์ไปทำเรื่องเสียหายนายกฯก็เสียด้วย แต่กรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นภาพของทีมงานเป็นธรรมดาที่จะต้องมีทีมงานคอยประสานงานต่างๆเป็นไปโดยเรียบร้อย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้นคนที่ยืนข้างๆก็ต้องเป็นคนที่มีหน้าที่ คนที่ไม่มีหน้าที่ก็จะต้องไม่ไปยืน หรือทำหน้าที่เหมือนวอลเปเปอร์เพื่อไปหาประโยชน์ เนื่องจากประชาชนมองว่าคนที่ไปยืนเป็นวอลเปเปอร์น่าจะเป็นคนที่คอยไปหาผลประโยชน์ หรือไปมองว่าเป็นภาพที่มีความไกล้ชิดกับนายกฯ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลอภิสิทธิ์ก็มีปัญหาภาพลักษณ์ทำให้เกิดปัญหา เช่นมีปัญหาไปกระทบกับการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ถ้าเป็นการทำหน้าที่ตนก็มองว่าเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของผู้บริหาร มันอยู่ที่คน คือนายกฯจะต้องมีทีมงานที่ประสานงาน และทำหน้าที่ผู้ช่วยซึ่งห้ามไม่ได้ แต่ทีมงานจะต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีเพราะถ้าภาพลักษณ์ไม่ดีก็จะทำให้งานมีปัญหาด้วย
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฉะนั้นการที่ผลสำรวจออกมาว่าไม่อยากให้มีวอลเปเปอร์อยู่หลังนายกฯก็คงจะมองในส่วนของรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์เราจะไม่ทำและไม่มีวอลเปเปอร์ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้บริหารมืออาชีพ เป็นผู้หญิงแกร่ง ดังนั้นเชื่อว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะเลือกคนให้ถูกกับงานอย่างแน่นอน ซึ่งพรรคเพื่อไทยยอมรับความคิดเห็นของประชาชน แต่ต้องมองถึงความจำเป็นของผู้บริหารด้วย
“ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องมีนักการเมืองเดินตามนายกฯ เพราะโดยบุคคลิกน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ชอบพะรุงพะรังคนเดินตามเยอะๆ อันนี้น่าจะเป็นบุคลิกที่ต่างจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ถ้าว่าต้องมีคนติดตามหรือไม่ก็ต้องมีเพราะต้องมีคนทำงานประสานงานเพื่อความฉับไวเพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนทำงานไว และมีความคล่องตัวสูง”นายพร้อมพงศ์ กล่าว
**แนะครม.เงาตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อีกครั้ง เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความสามารถจริง ดังนั้นแม้จะมีการประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคแล้ว แต่สมาชิกพรรคยังคงเลือกกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง ส่วนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของพรรคประชาธิปัตย์นั้น มีความผิดหวังเล็กน้อย เพราะมีการปรับตัวบุคคลไม่มาก ดังนั้นรูปแบบการทำงานคงไม่แตกต่างจากเดิม มีแนวคิดแบบเดิม ซึ่งเห็นว่าน่าจะปรับเปลี่ยนให้สมัยใหม่มากกว่านี้
อย่างไรก็ตามเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นฝ่ายค้านต้องการให้ดำเนินการอย่างสร้างสรรค์ และการสร้าง ครม.เงา ขึ้นมาตรวจสอบรัฐบาลเป็นรายกระทรวงถือเป็นเรื่องดี เพราะทำให้รัฐบาลระมัดระวังมากยิ่งขึ้น แต่ขอให้การตรวจสอบรัฐบาลเป็นไปอย่างไม่มีอคติ และขอโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงาน 3 เดือน เพื่อพิสูจน์ฝีมือก่อน โดยยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย พร้อมรับการตรวจสอบอย่างแน่นอน
**ซัดเทือกให้ทำบนดินอย่าทำใต้ดิน
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเตรียมเดินเกมส์ใต้ดินโยงใยความสัมพันธ์ของคนเสื้อแดงทั้งในและนอกประเทศ และประกาศทำธงไตรรงค์ให้ครบสี โดยจะเผยแพร่ข้อเท็จจริงด้วยตัวเองนั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า นายสุเทพก็เคยเป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงถ้าคิดทำอย่างนั้นจริงๆมันเป็นสิ่งที่ตนบอกแล้วว่าเป็นการค้านอย่างมีอารมณ์ค้าง ค้านอย่างมีอารมณ์แค้นซึ่งไม่สร้างสรรค์และจะไม่เป็นผลดีกับประเทศชาติและประชาชนเลย ตนเชื่อว่าทำอย่างนั้นประชาชนจะประนามและจะเป็นอันตรายกับระบอบประชาธิปไตยและทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาเป็นรอบใหม่ ลักษณะอย่างนี้ไม่ควรกระทำ คนที่เคยบริหารบ้านเมืองมาแล้วควรจะต้องมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองด้วยเช่นกัน ถึงวันนี้นายสุเทพจะไม่ได้อยู่ฝ่ายบริหารไปอยู่ฝ่ายค้านก็ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองเช่นกัน
ต่อข้อถามว่าหากมีการทำลักษณะการเคลื่อนไหวมวลชนใต้ดินจริงๆจะเข้าข่ายผิดกฎหมายความมั่นคงหรือไม่ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนมองว่าถ้าเกิดการเคลื่อนไหวของนายสุเทพแล้วมีปัญหา รัฐบาลหรือคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อฝายความมั่นคงก็จะต้องตรวจสอบ อะไรที่ทำเกินกฎหมายหรือระดมมวลชนที่เป็นลักษณะสุ่มเสี่ยงก็จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย แต่สิ่งที่สำคัญคืออยากเรียกร้องคุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมือง ว่าอย่าลักษณะเหมือนเอาชนะคะคานกัน ไม่ใช่ว่าแต่เขา แต่ตัวเองทำเสียเองซึ่งมันไม่ได้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า วันนี้บ้านเมืองต้องหันหน้าและมาร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ ทำหน้าที่กันหากฝ่ายค้านทำหน้าที่อย่างสร้างสรร โดยใช้เวทีสภาฯในการทำหน้าที่คะแนนนิยมที่ประชาชนจะมอบให้ก็จะกลับมาแน่นอน ดังนั้นขออย่าให้นายสุเทพทำอย่างนั้นขอให้ทำบนดินอย่าทำใต้ดิน แต่ถ้าจะทำเราก็คงห้ามไม่ได้แต่คนที่ดูแลฝ่ายความมั่นคงก็คงต้องมาตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะมันจะทำให้เกิดน้ำผึ้งหยดเดียวที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดปัญหาขึ้นมาอีก
**แดงลับแล หนุน“เต้น-โรมานอฟ”นั่ง รมต.
นายปัณณวัฒน์ นาคมูล ผู้ประสานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า การจัดโผคณะรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยที่มีกระแสข่าวว่าสมาชิกพรรคบางส่วนออกมาคัดค้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สร้างความผิดหวังให้กับคนเสื้อแดงอย่างมาก และถือว่าไม่ให้ความเป็นธรรมกัน เนื่องจากที่ผ่านมาเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยต่อสู้กันมาแบบเคียงบ่าเคียงไหล่ และรับไม่ได้กับระบบสองมาตรฐาน
“วันนี้พรรคเพื่อไทยกำลังใช้สองมาตรฐานกับคนเสื้อแดงได้อย่างไร แม้ที่ผ่านมาการต่อสู้ของคนเสื้อแดงจะไม่คาดหวังเรื่องตำแหน่งทางการเมือง แต่เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว มีทั้งความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ก็ควรได้รับโอกาสนี้ เช่นเดียวกับกรณีของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ที่เป็นคนเก่งคนหนึ่ง เหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ”
**ผบ.ตร.รับได้ว่าที่รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณสมบัติ หรือความคาดหวังต่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ว่า ผบ.ตร.จะบอกถึงสเปคของผู้มาดำรงตำแหน่งนี้ไม่ได้ บอกได้เพียงว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะทำหน้าที่เป็นกลไกลของรัฐบาลในการดูแลรักษาความสงบเรียบตามมาตรการต่างๆ ให้แก่ประชาชนให้ดีที่สุด และทำงานเป็นผู้รักษากฎหมายอย่างเสมอภาค เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
ส่วนการที่โผรายชื่อของของตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้บริหารระดับสูงของตร.นั้น หน้าที่หลักของเราต้องทำงานตามนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ว่าท่านใดจะได้เข้ามาอยู่ในตำแหน่งดังกล่าว เราก็จะทำตามนโยบายรัฐบาล
รายงานข่าวแจ้งว่า มีการคาดการณ์ว่า ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง อาจเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาทิ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
**โผครม.รายวัน คนนอกชิ่ง “ปู 1 “
ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 ว่า จนถึงขณะนี้โผ ครม.ทั้งหมดยังไม่ลงตัว โดยเฉพาะตำแหน่งกระทรวงหลักสำคัญบางกระทรวง เนื่องจากคนนอกที่เชิญเข้ามาร่วมงานตั้งแต่ต้นได้ขอถอนตัว จึงต้องหาคนใหม่ แม้ที่ผ่านมานายเสนาะ เทียนทอง จะเคยบอกว่า มีคนนอกถึง 4-5 คน
ก่อนหน้ามีการทาบทาม นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ มาเป้นรมว.คลัง นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการกลุ่มน้ำตาลมิตรผล มาเป็นรมว.พาณิชย์ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ รวมถึงนายชญานินทร์ เทพาคำ อดีตเลขานุการ รมว.ทรัพยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) (นายยงยุทธ ติยะไพรัช) มาเป็น รมว.ทส.
สำหรับ ประวัติของนายชญานินทร์ เป็นลูกชายของ พล.ท.อัศวิน และท่านผู้หญิงสุวรี เทพาคำ อดีตนางสนองพระโอษฐ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
มีรายงานแจ้งว่า ขณะนี้คนในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มอีสาน ที่เบื้องต้นจะเหลือตำแหน่งรัฐมนตรีแค่ 3 ที่ ได้วิ่งเต้นล็อบบี้ตำแหน่งเพิ่ม รวมถึงแกนนำคนเสื้อแดง กลุ่มนายสันติ พร้อมพัฒน์ กลุ่มนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล ฯลฯ ก็วิ่งหาตำแหน่งเพิ่มเช่นกันกันอีก เนื่องจากขณะนี้คนนอกที่เหมาะสมสว่นใหญ่ปฏิเสธจะเข้ามาเป็นครม. แนวโน้มก็คงต้องเป็นคนในพรรค
**แม้วผิดสัญญา คนนอกชิ่งหนี
รายงานข่าวแจ้งว่า มีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่คนนอกปฏิเสธที่จะเข้ามาร่วมรัฐบาล “ปู 1” โดยเฉพาะท่าทีของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทำผิดเงื่อนไขกับกลุ่มว่าที่รัฐมนตรีคนนอกที่เคยมีข้อตกลงกันไว้ว่า โดยเฉพาะกรณีที่ทีมรัฐมนตรีคนนอกขอเลือกคนที่ทำงานร่วมกันได้ในกระทรวงหลักสำคัญ แต่คนจัดรับบาลอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้โควต้าคนในพรรคให้มีสัดส่วนที่สามารถควบคุมได้
มีการวิเคราะห์ด้วยว่า หากไม่สามารถหาคนนอกเข้ามาร่วมรัฐบาลตามที่พ.ต.ท.ทักษิณเคยให้สัมภาษณ์ว่า ครม.จะมีคนที่หน้าตาดี และสร้างภาพลักษณ์ให้ ครม.ใหม่เป็นภาพรัฐบาลปรองดองสำหรับทุกภาคส่วน ก็จะทำให้เกิดภาพ “ยี้”ตามมาในอนาคต
อย้างไรก็ตามตำแหน่งของทั้งคนนอกและคนในจะสรุปอีกครั้งหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และอาจต้องรอให้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรีเรียบร้อยพร้อมจะทูลเกล้าฯแล้ว จึงจะแจ้งให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อรับทราบ
**โผรมต.ความมั่นคงเริ่มนิ่งแล้ว
ทั้งนี้ยังมีความเป็นไปได้สูงว่า “รมต.ด้านความั่นคง”มีเริ่มนื่งแล้ว เช่น พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) น่าจะได้รับการวางตัวเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย คาดว่าจะไปนั่ง รมว.ยุติธรรม
ส่วนตำแหน่ง รมว.กลาโหม ที่คาดหมายกันว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา จะได้นั่งนั้น เริ่มจะมีสัญญาณไม่ชัดแล้ว
**นายทุนต่อสายจันทร์ส่องหล้า
มีรายงานต่อว่า ขณะที่กลุ่มนายทุนของพรรคที่หลุดจากแคนดิเดท ตำแหน่งรัฐมนตรีไปก่อนหน้านี้ ได้พยายามต่อสายไปยังบ้านจันทร์ส่องหล้าแทนต่อสายถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อขอโควตารัฐมนตรีให้ อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งล่าสุดพ.ต.ท.ทักษิณเปิดโอกาสให้เสนอบุคคลที่เป็นตัวแทนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีได้ แต่จะขอดูคุณสมบัติก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่
ส่วนตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น มีชื่อนายบัญฑูรย์ สุภัควณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นอดีตผอ.สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง แม้ก่อนหน้านี้จะมีชื่อนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่คาดว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีมากกว่า.