วันนี้ (1 สิงหาคม 2554) น่าจะได้รู้กันอย่างเป็นทางการแล้วว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อใครเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกสองคน
แม้มติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคจะมีมติเป็นเอกฉันท์ให้สิทธิขาดนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีและนาย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเป็นผู้พิจารณาและเสนอชื่อคนเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่ง
แต่ก็รู้ๆ กัน เหล่านี้มันก็แค่พิธีกรรมบังหน้า ขนาดตัว “ยงยุทธ” ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงไหน แล้วนับประสาอะไรกับคนอื่นๆ
เพราะทุกอย่างในเพื่อไทยต้องอยู่ภายใต้การบงการ นช.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเท่านั้น จะเอาใครไปนั่งที่ไหน ยย.“ยงยุทธ-ยิ่งลักษณ์” ก็แค่รับออเดอร์ไปทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม ผู้มีอำนาจอีกคนหนึ่งที่มีบทบาทสูงไม่แพ้ ทักษิณ ชินวัตร ถือว่าเป็นผู้ชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลยิ่งลักษณ์คนสำคัญเลยทีเดียว นั่นก็คือ
“มาดามอ้อ พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์”
ศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ของ “ปูแดง-ยิ่งลักษณ์”โดยคนในพรรคต่างก็รู้กันดีว่า ระหว่าง “หญิงอ้อ-ปูแดง” สนิทกันมาก ทักษิณรักน้องสาวคนสุดท้องคนนี้มากแค่ไหน อ้อก็รักไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
เรียกว่า “หญิงอ้อ” สั่งสอน “ปูแดง” ให้เข้ามาเรียนรู้เรื่องการเมืองหลังจากเริ่มตั้งพรรคเพื่อไทยมากับมือก็ว่าได้ แนะนำให้ไปร่วมประชุมพรรค, ให้ไปคอยร่วมสังเกตุการณ์วันประชุมส.ส.พรรค ให้เข้าพรรคเพื่อไปศึกษางานเรื่องการเงินในพรรคโดยเฉพาะการดูแลเรื่องบัญชีจ่ายเงินให้ส.ส.
จน “ยิ่งลักษณ์” ใช้เวลาไม่นานก็เข้าใจระบบบริหารจัดการภายในพรรคเพื่อไทย หลังก่อนหน้านี้ “หญิงอ้อ” ก็เป็นพี่เลี้ยงคอยถ่ายทอดกลยุทธ์เรื่องธุรกิจในเครือชินคอร์ปให้จน “ยิ่งลักษณ์” ได้เป็นระดับผู้บริหารสูงสุดของธุรกิจในเครือชินคอร์ปเช่นเอไอเอสมาแล้วในช่วงทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี
ความใกล้ชิดและสัมพันธ์อันลึกซึ้งของ “อ้อกับปู” และบารมีอันมากล้นของ “หญิงอ้อ” ในพรรคเพื่อไทยที่ ส.ส.เรียกขานกันว่า นายหญิง ด้วยบทบาทการเป็นเงาทะมึนของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงมาตลอด เดินเกมการเมืองสองขาจนประสบชัยชนะยึดประเทศไทยไว้ได้ในวันนี้ ย่อมทำให้เธอมีบทบาทอย่างมากในรัฐบาลชุดนี้
ที่เห็นได้ชัดก็คือ การฟอร์มคณะรัฐมนตรีของยิ่งลักษณ์ เมื่อดูรายชื่อแคนดิเดทแต่ละคนที่ปรากฏผ่านสื่อมวลชนที่มีตรงบ้างไม่ตรงบ้าง หลายคนเห็นชื่อแล้วก็รู้ได้ชัดว่าเป็นเด็กในคาถาสาย “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ของ “หญิงอ้อ” นั่นเอง
เริ่มจาก แคนดิเดท รมว.แรงงาน จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน รายนี้ก็ได้แรงหนุนจากพจมานให้เข้ามาเป็นเลขาธิการพรรคแบบขัดตาทัพไปก่อนในช่วงก่อนการหาเสียงเลือกตั้ง เนื่องจากสถานการณ์ตอนนั้นมีแต่คนลาออกไม่อยากเป็นกรรมการบริหารพรรค ขนาดเลขาธิการพรรคยังไม่คนยอมเป็น เพราะกลัวโดนโทษคดียุบพรรค
“หญิงอ้อ” ดัน-“ทักษิณ” หนุน-“ยิ่งลักษณ์” ก็ไม่ขัดข้อง จารุพงศ์เลยได้กระโดดพรวดเป็นเลขาธิการพรรค ทั้งที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้จัก หลายคนยังไม่เคยเห็นหน้าจารุพงศ์มาก่อนด้วยซ้ำ
นอกจากได้ดีมีตำแหน่งใหญ่ทั้งในพรรค และน่าจะชัวร์ว่าจารุพงศ์ไม่พลาดเป็นรัฐมนตรีแน่นอนที่กระทรวงแรงงานเพื่อไปดูแลเรื่องนโยบาย 300 บาทค่าจ้างขั้นต่ำต่อวัน หลังก่อนหน้านี้ในยุครัฐบาลไทยรักไทยก็ได้แรงหนุนจากหลังบ้านทักษิณให้เติบโตในกระทรวงแรงงานจนได้เป็นปลัดกระทรวงมาแล้ว คราวนี้หากไม่มีอะไรพลิกล็อกถล่มทลาย จารุพงศ์จะกลับเข้ามากระทรวงในฐานะ รมว.แรงงานกับเผือกร้อน 300 บาทค่าจ้างขั้นต่ำกำลังรออยู่
อีกคนหนึ่งที่มีชื่อติดโผตลอดและรู้กันในพรรคว่า เป็นคนใหล้ชิดที่พจมานเชื่อมือมาก นั่นก็คือ คณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรค ที่มีชื่อแกว่งไปแกว่งมาหลายรอบ ทั้ง รมว.ไอซีที-รมช.คลัง-รมช.ศึกษาธิการ-ต่างประเทศ
เหตุเพราะทำงานให้พรรคหลายเรื่องทั้งเรื่องนโยบายด้านไอที-เป็นคนคอยดูแลแขกต่างประเทศให้กับพรรคเพื่อไทยเช่นเอกอัครราชฑูต ผู้ช่วยฑูตของประเทศต่างๆ ที่มายังพรรคเพื่อไทยในทุกกรณี เช่นมาแสดงความยินดีกับยิ่งลักษณ์หรือ มาแลกเปลี่ยนพูดคุยเรื่องการเมืองในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เพื่อไทยก็จะส่งคณวัฒน์คนนี้ไปดูแล
จึงทำให้มีชื่อเป็นแคนดิเดทรัฐมนตรีหลายแห่ง แม้บางคนในพรรคยังมองว่าอาวุโสยังไม่ถึง อาจอยู่กับเพื่อไทยมานานตั้งแต่ไทยรักไทย แต่ก็ไม่เคยเป็น ส.ส. ยังไม่มีบทบาทในเรื่องการเลือกตั้ง ทำแต่งานด้านนโยบาย อีกทั้งไม่มีกลุ่ม ส.ส.หนุนหลัง แต่จุดอ่อนที่ยกมาขวางอาจหมดไปทันที หากได้ “ตั๋วหญิงอ้อ” สั่งเข้ามา
ส่วนคนอื่นๆ ก็ยังมีอีกหลายคนที่ได้แรงหนุนจากพจมาน อาทิ “เสี่ยแดง” พิชัย นริพทะพันธุ์อดีต รมช.คลัง ที่แม้เจ้าตัวไม่เคยแพร่งพรายให้ใครรู้ว่าสนิทสนมเป็นคนในของหญิงอ้อ แต่การที่พจมานเคยเข้าไปเยี่ยมพิชัยถึงห้องพักในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งตอนที่พิชัยเข้าโรงซ่อม ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพจมานให้ความสำคัญกับ “เสี่ยแดง” อย่างมากในฐานะทั้งนายทุนพรรค-มือทำงานเศรษฐกิจและนโยบายของพรรคเพื่อไทย
ทำให้ทุกโผ ครม.จะโผไหนต่อโผไหน พิชัยที่ทั้งรวยและเก่งไม่เคยหลุดหาย เพียงแต่ยังไม่นิ่งว่าจะเป็นที่ไหน จะ รมช.คลังเหมือนเดิม หรือจะ รมว.ไอซีที หรือ รมช.พาณิชย์ ส่วน รมว.พลังงานที่หวังไว้ ดูท่าจะสอดแทรกยากแต่ก็ยังประมาทไม่ได้ พิชัยอาจเบียดมาโค้งสุดท้ายได้
ส่วนอีกสอง “วิ” คือ วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดทรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กับ “วิกรม คุ้มไพโรจน์ อดีตเอกอัครราชฑูตไทยประจำกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
ทั้งสองคนนี้ต่างคุ้นเคยกับหญิงอ้ออย่างลึกซึ้ง โดยรู้กันดีว่า หญิงอ้อลูกค้ารายใหญ่ของแบงก์ไทยพาณิชย์ที่วิชิตเป็นผู้บริหารและมีชื่อเป็นบอร์ดชินคอร์ปด้วย ส่วนวิกรม มักเป็นแขกวีไอพีขาประจำของบ้านพักทักษิณ-พจมาน ที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงที่ทักษิณยังไม่ถูกสหราชอาณาจักรถอนวีซ่าห้ามเข้าประเทศและเป็นเจ้าของสโมรสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่วิกรมเป็นกรรมการบริหารสโมสร ซึ่งดีลซื้อทีมเรือใบสีฟ้าที่มีวิกรมเป็นเรี่ยวแรงสำคัญ ฟันกำไรให้ทักษิณจำนวนมากก่อนถูกห้ามเข้าอังกฤษ ก็ย่อมเป็นเรื่องพอใจของพจมานด้วยแน่นอน
“วิชิต-วิกรม”ที่เป็นคนนอกพรรคเพื่อไทย จึงถือเป็น “สายแข็ง” ที่ทั้งทักษิณ-พจมาน-ยิ่งลักษณ์ ต่างอยากได้ตัวมาทำงานในรัฐบาลชุดใหม่ โดยที่ไม่มีแรงต้านใดๆจากคนในพรรคทั้งสิ้น
เช่นเดียวกับ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตผู้บริหารไอทีวีและกลุ่มชินคอร์ปสายตรงทักษิณ-พจมาน ที่ส่งมาเป็น ส.ส.เพื่อไทยและมีข่าวเตรียมลาออกเพื่อไปทำหน้าที่ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่เป็นเสมือนนายกฯ น้อย ให้กับยิ่งลักษณ์ รายนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ ใครส่งเข้าประกวด
ถ้าไม่ใช่บ้านจันทร์ส่องหล้า
คนที่มีส่วนสำคัญในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จึงไม่ได้มีแค่ ทักษิณ แต่ยังมี หญิงอ้อ อีกคน ที่เป็นเสมือนนายกฯ หญิงคนตัวจริงในรัฐบาลเพื่อไทย แม้แต่ ยิ่งลักษณ์ ก็คงไม่กล้าเถียง!!