วานนี้(3ส.ค.)นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากครบวาระการบริหารประเทศ นายกรัฐมนตรีมีความประสงค์ที่จะส่งมอบการบริหารประเทศไทยโดยการรายงานพิเศษซึ่งมีการบันทึกเทปในวันนี้ ภายใต้ชื่อ“รายงานสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อการส่งมอบการบริหารประเทศ” โดยเนื้อหาจะพูดถึงงานสำคัญเร่งด่วนที่อยากฝากรัฐบาลให้ดำเนินการต่อ และรายงานสถานะทางการคลังของประเทศเพื่อให้ประชาชนและรัฐบาลใหม่ได้รับทราบข้อมูลพร้อมๆกัน
นอกจากนี้จะมีการพูดถึงสถานะทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ส่วนสุดท้ายจะพูดถึงสถานะทางสังคมและความมั่นคง ที่มีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงความั่นคงภายในประเทศเรื่องความปรองดอง ซึ่งจะขอความร่วมมือโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ออกอากาศพร้อมกันในวันที่ 4 ส.ค.เวลา 20.30 น.เนื้อหามีความยาวประมาณ 10 นาที จะรวบรวมเนื้อหาดังกล่าวเพื่อจัดพิมพ์รูปเล่มอีก 50-100 เล่ม เพื่อส่งให้รัฐบาลใหม่และสื่อมวลชนเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ ทั้งนี้เท่าที่มีการตรวจสอบรัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีการรายงานลักษณะแบบนี้ คิดว่าเป็นครั้งแรก เพราะเราเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญว่าช่วงรัฐบาลต่อรัฐบาลควรมีการรายงานสถานะ เพื่อให้ประชาชนได้สบายใจว่ารัฐบาลชุดเดิมที่ทำงานทำให้สถานะประเทศมีปัญหา หรือดำเนินการด้านใดที่ดีขึ้น และมีงานที่ต้องสานต่ออย่างไรบ้าง
ทั้งนี้สาระสำคัญในการแถลง นายอภิสิทธิ์ จะใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยเน้นการชี้แจงข้อมูลสถานะการคลังประเทศที่เป็นตัวเลขสำคัญๆ และเน้นปัญหาความเดือดร้อนปากท้องพี่น้องประชาชนสินค้าราคาแพง รวมถึงปัญหาสังคมและความมั่นคงโดยเฉพาะปัญหาปราสาทพระวิหารไทย - กัมพูชา ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และที่สำคัญแนวทางการปรองดองทางการเมืองด้วย
**มาร์คปิดบ้าน “แมลงสาบว่อน”
เวลา 07.00 น. วันเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นคล้ายวันเกิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ครบรอบ 47 ปี โดยเช้านี้บรรยากาศบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 32/3 บ้านพักของนายอภิสิทธิ์ ในซอยสุขุมวิท 31 คึกคักด้วยกองทัพสื่อมวลชนเช่นทุกปี แต่ไม่ได้อนุญาตเข้าไปบันทึกภาพ
ปีนี้นายอภิสิทธิ์ยังคงปฏิบัติเช่นทุกปีคือได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูปจากวัดดาวดึงษ์ เข้าไปทำพิธีทำบุญตักบาตรภายในบ้านพักแบบเป็นส่วนตัวและเรียบง่าย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแฟนคลับนั้น ปรากฏชายวัยกลางคน 2 คนนำกรอบรูปขนาดใหญ่ของนายอภิสิทธิ์ในอริยาบถต่างๆ ตั้งแต่ก่อนและหลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยไข่ไก่ 10 แผงมามอบให้นายอภิสิทธิ์ด้วย
ชายคนหนึ่งเปิดเผยว่า ได้รับการจ้างวานจาก นางภัคณัฐ ตันยะบุตร อายุ 45 ปีซึ่งเป็น “แม่ยก”นายอภิสิทธิ์ให้นำสิ่งของทั้งสองอย่างมามอบให้เป็นของขวัญวันเกิด
** “ปู”อวยพรให้แข็งแรงพร้อมร่วมงาน
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี อวยพรวันเกิด นายอภิสิทธิ์ว่า "ขอให้นายอภิสิทธิ์ มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตนในฐานะเป็นน้องใหม่ คงจะมีโอกาสร่วมงานกัน เชื่อว่าทุกอย่างจะต้องทำงานอย่างสร้างสรรค์ เพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป"
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เมื่อทราบข่าวได้ กล่าวขอบคุณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ยินดีที่จะทำงานร่วมกันในสภาเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า เนื่องในวันเกิด อยากขอสิ่งใดจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ให้ทำเพื่อประเทศ”
**“สาธิต” เปิดท้าชิง “จ้อน”
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมีขึ้นในวันที่6ส.ค.นี้ ตนจะเสนอตัวชิงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภาคกลาง โดยมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนเพราะตนมีคุณสมบัติเหมาะสม ประกอบไปด้วย 1.เป็นสายเลือดพรรคประชาธิปัตย์ โดยเป็นสมาชิกพรรค 14ปี เป็นส.ส.ในนามพรรรค4สมัย และเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ รองโฆษกพรรค คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร์ 2.มีส่วนสำคัญในการบริหารงานเลือกตั้งในจ.ระยอง โดยช่วยพัฒนาผลการเลือกตั้งในพื้นที่จากที่เคยมีส.ส.เพียงคนเดียวก็ได้ส.ส.ยกจังหวัด ทั้งนี้ตนพร้อมที่จะช่วยงานพรรคในตำแหน่งรองหัวหน้า อย่างไรก็ตามหากแพ้การเลือกตั้งในวันที่6ส.ค.นี้ ก็พร้อมจะช่วยงานนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งลงแข่งขันชิงตำแหน่งดังกล่าวเช่นเดียวกัน
นายสาธิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้หาเสียงกับผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนมาบ้างแล้วและได้รับการตอบรับดี หากตนได้เป็นรองหัวหน้าพรรคภาคกลางจะนำแนวทางการบริหารงานเลือกตั้งในจ.ระยองมาใช้กับภาคกลาง โดยตั้งเป้าหมายให้พรรคประชาธิปัตย์ได้จำนวนส.ส.ในภาคกลางอย่างน้อย 45ที่นั่ง จากจำนวนส.ส.ภาคกลางทั้งหมด 96ที่นั่ง
** “คุณหญิงกัลยา”ร่วมเจาะฐานแดง
ด้านภาคอีสาน คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. กล่าวว่า ขอเสนอตัวลงชิงในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน ใจตนตลอดเวลาที่เข้ามาอยู่กับพรรคก็ช่วยพรรคตลอดเวลาอยู่แล้ว เพียงแต่คราวนี้เรามองเห็นว่าจุดอ่อนของพรรคอยู่ที่ภาคอีสาน และตนเป็นคนอีสานเลือดเนื้อเชื้อไขอยู่ที่อีสาน เชื่อว่าเป็นคนที่รู้จักคนอีสานดีพอสมควร และรู้สึกว่าคนอีสานเป็นคนน่ารักถ้าเราสร้างความเข้าใจกับคนอีสานอย่างถูกต้อง
“ดิฉันจะใช้เวลาทุ่มเทให้กับภาคอีสาน เพราะถ้าพรรคเป็นอย่างที่ผ่านมามันไม่ได้แล้ว ภาคอีสานถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ และพรรคเป็นอย่างนี้มาเป็นสิบปีแล้ว ก็ยังล้มเหลวเป็นสิบปี ดิฉันได้เริ่มหาเสียงแล้ว มีทั้ง ส.ส.กทม.และต่างจังหวัด ทุกคนที่ทราบก็พอใจ และบอกว่าดี และพร้อมจะลงไปช่วยในพื้นที่ และขอดูเป็นจังหวัดๆ ไปเลย ถ้าได้รับการไว้วางใจจากสมาชิกพรรค ก็พร้อมเป็นแม่ทัพอีสาน เพราะอิฉันเป็นลูกหลานย่าโม”
** “หมอผี” ยันไม่ขวาง “เสี่ยต่อ”
นายสัมพันธุ์ ทองสมัคร แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้สมาชิกที่ออกมาปล่อยข่าวหยุดให้ข่าวเท็จทำลายพรรคได้แล้ว ยืนยันไม่มีส.ส.ภาคใต้ของพรรคออกมาต่อต้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธุ์ รองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบสมาชิกภาคกลาง ที่เป็นแคนดิเดทสำคัญที่จะมาเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ หลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยืนยันไม่ขอรับตำแหน่งนี้แล้วขณะที่พรรคต้องการความสามัคคีประกอบกับนายเฉลิมชัยก็เป็นบุคคลที่ส.ส.ภาคใต้ตั้งแต่ จ.ชุมพรลงไปถึง 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้การยอมรับ
**โฆษกปชป."ชวนนท์-นพ.วรงค์"ชิงดำ
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ รักษาการโฆษกประจำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รายชื่อโฆษกพรรคที่เคยปรากฎตามสื่อก่อนหน้านี้นั้น อาทิ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลกนั้นตรงนี้ก็เป็นสิทธิของหัวหน้าพรรคที่จะเป็นผู้คัดเลือก เพราะทุกคนเป็นบุคลที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ ซึ่งตนก็พร้อมให้การสนับสนุน
สำหรับตนนั้นพรรคได้มอบหมายให้ไปทำงานจัดตั้งสถาบันเพื่อทำงานทางด้านวิชาการ โดยจะมีองค์กรในลักษณะที่จะทำงานติดตามนโยบายและรวมถึงการติดตามการทุจริตภายใต้ชื่อสถาบันนโยบายและติดตามการทุจริตคอร์รัปชั่น (Policy And Corruption Watch) เพื่อเป็นกลไกถาวรอย่างเป็นทางการที่จะทำงานคู่ขนานกับครม.เงาที่พรรคจะตั้งอีกครั้ง โดยสถาบันดังกล่าวจะทำงานตรวจสอบรัฐบาล และนำเสนอทางเลือกเชิงนโยบายทางด้านต่าง ๆ ที่จะเอามาพัฒนาประเทศสามารถนำมา เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศและความน่าเชื่อถือ พร้อมประสานงานกับองค์กรทางวิชาการที่ทำงานทางด้านค้นคว้าวิจัย และศึกษาเรื่องนโยบาย ทั้งในและนอกประเทศ เป็นไปตามโครงสร้างใหม่ที่จะมีการเสนอต่อกรรมการบริหารพรรค และเป็นการทำงานที่สำคัญในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมือง
นอกจากนี้จะมีการพูดถึงสถานะทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ส่วนสุดท้ายจะพูดถึงสถานะทางสังคมและความมั่นคง ที่มีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงความั่นคงภายในประเทศเรื่องความปรองดอง ซึ่งจะขอความร่วมมือโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ออกอากาศพร้อมกันในวันที่ 4 ส.ค.เวลา 20.30 น.เนื้อหามีความยาวประมาณ 10 นาที จะรวบรวมเนื้อหาดังกล่าวเพื่อจัดพิมพ์รูปเล่มอีก 50-100 เล่ม เพื่อส่งให้รัฐบาลใหม่และสื่อมวลชนเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ ทั้งนี้เท่าที่มีการตรวจสอบรัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีการรายงานลักษณะแบบนี้ คิดว่าเป็นครั้งแรก เพราะเราเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญว่าช่วงรัฐบาลต่อรัฐบาลควรมีการรายงานสถานะ เพื่อให้ประชาชนได้สบายใจว่ารัฐบาลชุดเดิมที่ทำงานทำให้สถานะประเทศมีปัญหา หรือดำเนินการด้านใดที่ดีขึ้น และมีงานที่ต้องสานต่ออย่างไรบ้าง
ทั้งนี้สาระสำคัญในการแถลง นายอภิสิทธิ์ จะใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยเน้นการชี้แจงข้อมูลสถานะการคลังประเทศที่เป็นตัวเลขสำคัญๆ และเน้นปัญหาความเดือดร้อนปากท้องพี่น้องประชาชนสินค้าราคาแพง รวมถึงปัญหาสังคมและความมั่นคงโดยเฉพาะปัญหาปราสาทพระวิหารไทย - กัมพูชา ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และที่สำคัญแนวทางการปรองดองทางการเมืองด้วย
**มาร์คปิดบ้าน “แมลงสาบว่อน”
เวลา 07.00 น. วันเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นคล้ายวันเกิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ครบรอบ 47 ปี โดยเช้านี้บรรยากาศบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 32/3 บ้านพักของนายอภิสิทธิ์ ในซอยสุขุมวิท 31 คึกคักด้วยกองทัพสื่อมวลชนเช่นทุกปี แต่ไม่ได้อนุญาตเข้าไปบันทึกภาพ
ปีนี้นายอภิสิทธิ์ยังคงปฏิบัติเช่นทุกปีคือได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูปจากวัดดาวดึงษ์ เข้าไปทำพิธีทำบุญตักบาตรภายในบ้านพักแบบเป็นส่วนตัวและเรียบง่าย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแฟนคลับนั้น ปรากฏชายวัยกลางคน 2 คนนำกรอบรูปขนาดใหญ่ของนายอภิสิทธิ์ในอริยาบถต่างๆ ตั้งแต่ก่อนและหลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยไข่ไก่ 10 แผงมามอบให้นายอภิสิทธิ์ด้วย
ชายคนหนึ่งเปิดเผยว่า ได้รับการจ้างวานจาก นางภัคณัฐ ตันยะบุตร อายุ 45 ปีซึ่งเป็น “แม่ยก”นายอภิสิทธิ์ให้นำสิ่งของทั้งสองอย่างมามอบให้เป็นของขวัญวันเกิด
** “ปู”อวยพรให้แข็งแรงพร้อมร่วมงาน
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี อวยพรวันเกิด นายอภิสิทธิ์ว่า "ขอให้นายอภิสิทธิ์ มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตนในฐานะเป็นน้องใหม่ คงจะมีโอกาสร่วมงานกัน เชื่อว่าทุกอย่างจะต้องทำงานอย่างสร้างสรรค์ เพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป"
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เมื่อทราบข่าวได้ กล่าวขอบคุณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ยินดีที่จะทำงานร่วมกันในสภาเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า เนื่องในวันเกิด อยากขอสิ่งใดจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ให้ทำเพื่อประเทศ”
**“สาธิต” เปิดท้าชิง “จ้อน”
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมีขึ้นในวันที่6ส.ค.นี้ ตนจะเสนอตัวชิงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภาคกลาง โดยมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนเพราะตนมีคุณสมบัติเหมาะสม ประกอบไปด้วย 1.เป็นสายเลือดพรรคประชาธิปัตย์ โดยเป็นสมาชิกพรรค 14ปี เป็นส.ส.ในนามพรรรค4สมัย และเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ รองโฆษกพรรค คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร์ 2.มีส่วนสำคัญในการบริหารงานเลือกตั้งในจ.ระยอง โดยช่วยพัฒนาผลการเลือกตั้งในพื้นที่จากที่เคยมีส.ส.เพียงคนเดียวก็ได้ส.ส.ยกจังหวัด ทั้งนี้ตนพร้อมที่จะช่วยงานพรรคในตำแหน่งรองหัวหน้า อย่างไรก็ตามหากแพ้การเลือกตั้งในวันที่6ส.ค.นี้ ก็พร้อมจะช่วยงานนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งลงแข่งขันชิงตำแหน่งดังกล่าวเช่นเดียวกัน
นายสาธิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้หาเสียงกับผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนมาบ้างแล้วและได้รับการตอบรับดี หากตนได้เป็นรองหัวหน้าพรรคภาคกลางจะนำแนวทางการบริหารงานเลือกตั้งในจ.ระยองมาใช้กับภาคกลาง โดยตั้งเป้าหมายให้พรรคประชาธิปัตย์ได้จำนวนส.ส.ในภาคกลางอย่างน้อย 45ที่นั่ง จากจำนวนส.ส.ภาคกลางทั้งหมด 96ที่นั่ง
** “คุณหญิงกัลยา”ร่วมเจาะฐานแดง
ด้านภาคอีสาน คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. กล่าวว่า ขอเสนอตัวลงชิงในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน ใจตนตลอดเวลาที่เข้ามาอยู่กับพรรคก็ช่วยพรรคตลอดเวลาอยู่แล้ว เพียงแต่คราวนี้เรามองเห็นว่าจุดอ่อนของพรรคอยู่ที่ภาคอีสาน และตนเป็นคนอีสานเลือดเนื้อเชื้อไขอยู่ที่อีสาน เชื่อว่าเป็นคนที่รู้จักคนอีสานดีพอสมควร และรู้สึกว่าคนอีสานเป็นคนน่ารักถ้าเราสร้างความเข้าใจกับคนอีสานอย่างถูกต้อง
“ดิฉันจะใช้เวลาทุ่มเทให้กับภาคอีสาน เพราะถ้าพรรคเป็นอย่างที่ผ่านมามันไม่ได้แล้ว ภาคอีสานถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ และพรรคเป็นอย่างนี้มาเป็นสิบปีแล้ว ก็ยังล้มเหลวเป็นสิบปี ดิฉันได้เริ่มหาเสียงแล้ว มีทั้ง ส.ส.กทม.และต่างจังหวัด ทุกคนที่ทราบก็พอใจ และบอกว่าดี และพร้อมจะลงไปช่วยในพื้นที่ และขอดูเป็นจังหวัดๆ ไปเลย ถ้าได้รับการไว้วางใจจากสมาชิกพรรค ก็พร้อมเป็นแม่ทัพอีสาน เพราะอิฉันเป็นลูกหลานย่าโม”
** “หมอผี” ยันไม่ขวาง “เสี่ยต่อ”
นายสัมพันธุ์ ทองสมัคร แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้สมาชิกที่ออกมาปล่อยข่าวหยุดให้ข่าวเท็จทำลายพรรคได้แล้ว ยืนยันไม่มีส.ส.ภาคใต้ของพรรคออกมาต่อต้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธุ์ รองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบสมาชิกภาคกลาง ที่เป็นแคนดิเดทสำคัญที่จะมาเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ หลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยืนยันไม่ขอรับตำแหน่งนี้แล้วขณะที่พรรคต้องการความสามัคคีประกอบกับนายเฉลิมชัยก็เป็นบุคคลที่ส.ส.ภาคใต้ตั้งแต่ จ.ชุมพรลงไปถึง 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้การยอมรับ
**โฆษกปชป."ชวนนท์-นพ.วรงค์"ชิงดำ
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ รักษาการโฆษกประจำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รายชื่อโฆษกพรรคที่เคยปรากฎตามสื่อก่อนหน้านี้นั้น อาทิ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลกนั้นตรงนี้ก็เป็นสิทธิของหัวหน้าพรรคที่จะเป็นผู้คัดเลือก เพราะทุกคนเป็นบุคลที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ ซึ่งตนก็พร้อมให้การสนับสนุน
สำหรับตนนั้นพรรคได้มอบหมายให้ไปทำงานจัดตั้งสถาบันเพื่อทำงานทางด้านวิชาการ โดยจะมีองค์กรในลักษณะที่จะทำงานติดตามนโยบายและรวมถึงการติดตามการทุจริตภายใต้ชื่อสถาบันนโยบายและติดตามการทุจริตคอร์รัปชั่น (Policy And Corruption Watch) เพื่อเป็นกลไกถาวรอย่างเป็นทางการที่จะทำงานคู่ขนานกับครม.เงาที่พรรคจะตั้งอีกครั้ง โดยสถาบันดังกล่าวจะทำงานตรวจสอบรัฐบาล และนำเสนอทางเลือกเชิงนโยบายทางด้านต่าง ๆ ที่จะเอามาพัฒนาประเทศสามารถนำมา เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศและความน่าเชื่อถือ พร้อมประสานงานกับองค์กรทางวิชาการที่ทำงานทางด้านค้นคว้าวิจัย และศึกษาเรื่องนโยบาย ทั้งในและนอกประเทศ เป็นไปตามโครงสร้างใหม่ที่จะมีการเสนอต่อกรรมการบริหารพรรค และเป็นการทำงานที่สำคัญในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมือง
