กระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ออกแถลงการณ์ปฏิเสธเสริมกำลังแนวชายแดน กล่าวหาไทยปล่อยข่าวเท็จ เพื่ออ้างในการโจมตีครั้งใหม่ ขณะที่ผู้นำทหารกัมพูชาตรวจเยี่ยมกำลังพล ที่ปราสาทตาเมือน ปราสาทตาควาย กำชับเตรียมความพร้อมเต็มที่ ปฏิเสธเจรจาทวิภาคีกับไทย เดินหน้าซ่อมแซมปราสาทพระวิหาร
เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ เผยแพร่ข่าวระบุว่า โฆษกกลาโหมของกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธไม่มีความเคลื่อนไหวทางทหารที่ชายแดน ไม่ได้เสริมกำลัง อาวุธหรือเคลื่อนย้ายทหาร โดยกล่าวหาไทยว่าสร้างเรื่องโกหกเพื่อสร้างความเข้าใจผิด และใช้เป็นหลักฐานปกป้องตนเองเมื่อจะทำการโจมตีกัมพูชา
โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์เมื่อช่วงสายวันที่ 28 มิถุนายน 2554 ระบุว่า กองทัพแห่งชาติกัมพูชาขอปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อการสร้างเรื่องเท็จของทหารไทย ในความต้องการบิดเบือนความจริง เพื่อสร้างความเข้าใจผิดกับสาธารณะและนานาชาติ โดยโกหกว่ามีกิจกรรมของกองทัพแห่งชาติกัมพูชาตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย รวมทั้งมีการเสริมกำลังทหาร เสริมอาวุธ หรือเคลื่อนย้ายกำลังทหารที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดทางทหาร
แถลงการณ์กล่าวหาไทยว่า ข่าวประดิษฐ์ของไทยเป็นการสร้างหลักฐานรองรับและปกป้องตนเอง ในการโจมตี และรุกราน ยึดครองดินแดนกัมพูชา ในโอกาสใดโอกาสหนึ่งในอนาคตเท่านั้น
กองทัพแห่งชาติกัมพูชาตระหนักว่า การเดินออกไปโดยไม่รับผิดชอบของกรรมการมรดกโลกของไทย จากที่ประชุมของคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 35 เป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่แสดงว่ารัฐบาลรักษาการของไทย โยนทิ้งการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี หลังจากที่ยุทธวิธีทุจริต พูดโกหก ใช้แรงกดดันทางการเมือง และข่มขู่คุกคามของไทยได้ประสบความพ่ายแพ้ อะไรที่ไทยจะใช้ต่อไปอาจทำนายได้ว่า คือการใช้การกดดันทางทหารเป็นช่องทางในการแก้ปัญหา ดังที่ไทยได้สร้างเรื่องขึ้นมานี้
นอกจากนี้ เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟได้เสนอข่าวระบุว่า พล.อ.กุน กีม และ พล.อ.เจีย ดารา ในฐานะผู้นำทหารและสมาชิกพรรคประชาชนกัมพูชา ได้ตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ทหาร สภาพพื้นที่และการป้องกัน ในพื้นที่ใกล้ปราสาทตาเมือน โดย พล.อ.กุน กีม ระบุว่าไทยตั้งตนเป็นใหญ่ในภูมิภาคสร้างศัตรูไปทั่ว กัมพูชาเป็นประเทศเล็กแต่ไม่กลัวไทย ส่วน พล.อ.เจีย ดารา ให้ยุติการเอาปัญหาชายแดนมาผูกกับการเมือง
ตามรายงานของศูนย์ข่าวนครวัต วันที่ 28 มิถุนายน 2554 หลังพิธีรำลึกครบรอบครั้งที่ 60 ของการก่อตั้งพรรคประชาชนกัมพูชา พล.อ.กุน กีม สมาชิกถาวรคณะกรรมการกลางพรรคฯ และเป็นประธานคณะทำงานช่วยเหลือ จ.อุดรมีชัย รวมทั้งเป็นรองผู้บัญชาการและเสนาธิการร่วมในกองทัพแห่งชาติกัมพูชา และ พล.อ.เจีย ดารา สมาชิกคณะกรรมการพรรคฯ ได้นำตัวแทนพรรคฯ จ.อุดรมีชัย เดินทางเยี่ยมนายทหารและพลทหาร ที่ประจำการพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย และพื้นที่ทมอดูน อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย พร้อมตรวจสอบสภาพทางภูมิศาสตร์และการเตรียมการป้องกัน
พล.อ.กุน กีม กล่าวกับทหารว่า เนื่องจากไทยพ่ายแพ้ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่กรุงปารีส ไทยข่มขู่ว่าตนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถอนตัวออกจากองค์การยูเนสโก แล้วมาก่อสงครามที่ชายแดนกับกัมพูชา เปรียบเหมือนเป็นประเทศที่ไม่รู้และไม่เกรงกฎหมาย กระหายสงคราม ด้วยเหตุนี้ในเวลาที่ไทยโจมตีทำสงครามกับเขมรหลายครั้งนั้น ทั้งผู้นำ ทั้งพวกหลงประวัติศาสตร์ กำลังแสดงอำนาจตั้งตนเป็นใหญ่ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และสร้างความเป็นศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับกัมพูชาเพียงเป็นประเทศเล็ก ประเทศกำลังพัฒนา หลังถูกทำลายด้วยสงคราม (หมายถึงสงครามกลางเมืองภายใน) ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลัวไทย รัฐบาลกัมพูชาที่มีสมเด็จฯ ฮุนเซน ได้บัญชาการอย่างมีประสิทธิภาพในการสกัดกั้นกลศึกสงครามรุกรานของไทย และความต้องการที่จะครอบครองปราสาทพระวิหารร่วมกับกัมพูชา ซึ่งไม่อาจทำได้เลยเพราะไม่มีส่วนไหนที่ไทยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
ขณะที่ พล.อ.เจีย ดารา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขอให้ผู้นำไทยยุติการเอาปัญหาชายแดนกัมพูชา การเอาดินแดนกัมพูชา โดยเฉพาะปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ไปเป็นหมากรุกเป็นเล่ห์พาตนออกจากความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศของตน ประเทศไทยกำลังมีการเลือกตั้งทั่วไป แต่กลายเป็นว่าได้เคลื่อนระเบิดเคลื่อนทหารมาที่ชายแดน ไม่เท่านั้น ยังใช้ภาษาข่มขู่ว่าจะก่อสงครามกับกัมพูชาอีกด้วย พล.อ.เจีย ดารา กล่าวต่อว่า กัมพูชามีประชาชน 14 ล้านคน กัมพูชาก็มีทหาร 14 ล้านคน หมายความว่าประชาชนทุกคนเป็นทหาร ปัจจุบันกองทัพของสมเด็จเดโชได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว มีขีดความสามารถและสมรรถภาพ ทั้งด้านกำลังและเครื่องนุ่งหุ่ม ถ้าไทยเข้ามารุกรานดินแดนกัมพูชาขนานเล็ก เราก็ต้อนรับขนานเล็ก ถ้าไทยรุกรานขนานใหญ่เราก็ต้อนรับขนานใหญ่
ขณะที่รายงานของวิทยุเอเชียเสรี วันเดียวกัน อ้างทหารกัมพูชาที่ประจำการตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่ใกล้ปราสาทพระวิหาร ไปจนถึงพื้นที่ปราสาทตาควาย ใน ต.โคกคปั๊ว (โคกสูง) อ.บันเตียอำปึล เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชามีการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อม สำหรับการสู้รบรอบใหม่ในช่วงสองวันที่ผ่านมา นับจากที่มีข่าวลือว่าไทยเตรียมการใช้กำลังทหารโจมตีกัมพูชาอีกครั้ง ในเรื่องความขัดแย้งพรมแดน
ทหารกัมพูชารายหนึ่งที่ประจำการชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหาร กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ผู้บัญชาการทหารกัมพูชาที่ประจำจุดที่มีความขัดแย้งพรมแดนหลายครั้ง ได้สั่งการให้ทหารเพิ่มการระวังและเตรียมพร้อมสู้รบ หากมีการเริ่มโจมตีก่อนอีกรอบจากทหารไทย ขณะที่ทหารอีกราย ที่ประจำการด้านปราสาทตาควาย จ.อุดรมีชัย เปิดเผยว่า พวกตนได้รับคำสั่งให้ระวังและเตรียมพร้อมสู้รบ แต่สถานการณ์เผชิญหน้าในพื้นที่ยังเป็นปกติ ไม่มีสิ่งผิดปกติจากทหารไทย ที่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ วิทยุเอเชียเสรีรายงานว่า โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่ากัมพูชาจะไม่มีการเจรจาทวิภาคีใดๆ กับไทยต่อไปอีก ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งพรมแดน โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวพันถึงเอกสารความเห็นชอบของคณะกรรมการมรดกโลก เมื่อเร็วๆ นี้ ต่อกรณีแผนพัฒนาปราสาทพระวิหาร
นายไพ ซีพาน เลขาธิการและโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า มีเหตุผลหลายอย่างที่กัมพูชาเห็นชัดแล้วว่า การเจรจาทวิภาคีในอนาคตกับไทยจะไม่ได้รับผลอะไรทั้งสิ้น เพราะไทยไม่เคารพการพูดคุยของตนเอง การประกาศท่าทีครั้งนี้ของนายไพ ซีพาน สืบเนื่องจากรายงานในสื่อไทย ที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ให้สัมภาษณ์ว่ารัฐบาลไทยต้องเตรียมท่าทีเพื่อการเจรจากับฝ่ายกัมพูชา และองค์การยูเนสโก ที่เกี่ยวข้องกับบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และระบุว่าการเห็นชอบให้มีการอนุรักษ์ปราสาทพระวิหารของคณะกรรมการมรดกโลก กระทบต่อผลประโยชน์และดินแดนของไทย
นายไพ ซีพาน เปิดเผยว่า กัมพูชากำลังเตรียมเรื่องสำคัญเพื่อส่งให้คณะกรรมการมรดกโลก เพื่อขอการสนับสนุนความช่วยเหลือในการดูแลรักษา คุ้มครอง และทำการซ่อมแซมปราสาทพระวิหาร ที่ได้รับความเสียหายจากการยิงปืนใหญ่ของไทย ส่วนปัญหาอธิปไตยของกัมพูชาและงานการรักษา คุ้มครองปราสาทพระวิหารเป็นเรื่องที่แยกจากกัน