นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดงานประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค แถลงข่าวถึงความพร้อมในการจัดการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ ที่ ห้องจูปิเตอร์ ร.ร.มิราเคิล แกรนด์ เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคฯ ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดเดิม หมดหน้าที่ไปด้วย
นายสุเทพ กล่าวว่า องค์ประกอบของที่ประชุม หรือผู้ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค ประกอบไปด้วย กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันรวมไปถึงอดีตหัวหน้าพรรค และเลขาฯพรรค รวมไปถึงรมต.ที่สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ โดยกลุ่มนี้จะมีทั้งหมด 31 คน คิดเป็น 9 % ของคะแนนเสียงทั้งหมด 100 %
กลุ่มที่ 2 ประกอบด้วย ประธานสาขาพรรคทั่วประเทศ ซึ่งมีทั้งหมด 139 สาขา สำหรับสาขาพรรค ยังเป็นตัวแทนสมาชิกพรรคทั้งประเทศ 2,000,000 คน มีสิทธิ์ในการออกคะแนนเสียง 40 % จาก 100 % ของคะแนนทั้งหมด
กลุ่มที่ 3 เป็นส.ส.ของพรรคทั้ง 159 คน เมื่อตัดส.ส.ที่มีตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค รัฐมนตรีของพรรคด้วย ก็จะเหลือเพียง 135 คน มีสิทธิ์ในการออกเสียง 40 % จาก 100 % ของคะแนนทั้งหมด" พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับกลุ่มสาขาพรรค และส.ส.ของพรรคเท่าเทียมกัน นอกจากนั้นยังมีตัวแทนของสมาชิกพรรคจากทุกภาคของประเทศอีก 20 คน จะมีน้ำหนักคะแนนอยู่ 1 % ผู้ที่มีน้ำหนักคะแนนมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็คือ กลุ่ม ส.ก. , ส.ข. ,ส.จ. นายกฯอบต. ,นายกอบจ. ,ส.ท. ฯลฯ ที่เป็นสมาชิกพรรค และพรรคส่งลงเลือกตั้งและได้รับเลือกตั้งมา ทั้งหมดจะมี 23 คน คนกลุ่มนี้จะมีน้ำหนักคะแนน 10 % สรุปองค์ประชุมใหญ่ตามระเบียบข้อบังคับของพรรคทั้งหมด จะมี 348 คน" นายสุเทพ กล่าว
** ตอก"เสี่ยอ่าง"รู้น้อยแต่อยากวิจารณ์
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยวิพากษ์ปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ ว่าทุกครั้งที่แพ้เลือกตั้งจะแย่งชิงอำนาจการเมืองกันภายในพรรคฝุ่นตลบ แต่กลับอ้างตัวว่าเป็นพรรคที่ประชาธิปไตยสูง ว่า ตนไม่ติดใจอะไร เพราะนายชูวิทย์ คงไม่รู้ว่าพรรคการเมืองที่มีระเบียบ มีระบบบริหารจัดการกันอย่างไร ถึงแม้นายชูวิทย์ จะเคยอยู่ในพรรคการเมือง แต่สุดท้ายก็ไปกับคนอื่นไม่ได้ จึงต้องมาตั้งพรรคเอง และพรรคก็มีสมาชิกไม่กี่ราย จึงทำง่าย
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีกฎระเบียบ ยึดถือในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีใครมาชี้นิ้วสั่งให้ทำอะไร หรือสั่งให้ใครดำรงตำแหน่งใดก็ได้ เพราะทุกอย่างต้องขึ้นกับสมาชิกที่ประชุมเป็นผู้คัดเลือก
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์มีระบบธรรมเนียมประเพณี มีวัฒนธรรมทางการเมืองดั่งพรรคที่เก่าแก่ อายุมากกว่า 65 ปี ดังนั้นคงจะลำบากเกินไปสำหรับนายชูวิทย์ ที่จะเข้าใจ จึงวิพากษ์วิจารณ์ไปตามความรู้ ความเข้าใจที่มี
ส่วนการทำงานร่วมกับนายชูวิทย์ ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่มีความจำเป็นที่ต้องคุยกัน เพราะส.ส.แต่ละพรรค มีอิสระในการแสดงความเห็นทางการเมือง
** บ้านเมืองกำลังเผชิญลัทธิอุบาทว์
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเดินไปในแนวทางอุดมการณ์ดั้งเดิมของพรรค คือการเป็นประชาธิปไตยที่บริสุทธิ์ มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมากับประชาชน ส่วนยุทธศาสตร์ของพรรคนั้น เป็นเรื่องที่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะเป็นผู้ดำเนินการ และจะแถลงชี้แจงให้ประชาชนทราบ
"สำหรับผมนั้น เมื่อไม่มีตำแหน่งใดในพรรค ก็ตั้งใจจะทำงานร่วมกับประชาชนในภาคส่วนอื่นๆ อย่างอิสระ ในฐานะส.ส.คนหนึ่ง โดยมีสมาชิกทำงานที่หลากหลาย ไม่จำกัดว่าต้องเป็นส.ส.หรือไม่ เจอใครก็พร้อมจะอธิบายไปเรื่อย เพื่อที่จะให้ประชาชนได้ตระหนักว่า ในขณะนี้บ้านเมืองกำลังเผชิญกับลัทธิบางลัทธิ ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าของประเทศควรรู้ข้อเท็จจริง เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง และความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชน จะนำเสนอหรือไม่ แต่พรรคประชาธิปัตย์คงไม่มีสื่อของตัวเอง" นายสุเทพ กล่าว
** "อภิรักษ์"รอศาลตัดสินก่อนดีกว่า
นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดสรรตำแหน่งภายในพรรค โดยเฉพาะตำแหน่งหัวหน้า และเลขาธิการพรรคว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเนื่องจากมีผู้ถูกเสนอชื่อ และผู้เสนอตัวอาสามาทำหน้าที่นี้หลายคน ทั้งนี้ต้องรอดูความชัดเจนในอีก 2-3 วัน
เมื่อถามว่าในส่วนของส.ส.ภาคกทม. จะให้การสนับสนุนนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค ในการชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรคหรือไม่ นายวิลาศ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับตัวนายอภิรักษ์เอง และต้องขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคที่จะพิจารณา ทั้งนี้ในส่วนของส.ส.ภาคกทม. ยังไม่ได้มีการหารือกันในเรื่องดังกล่าว
เมื่อถามต่อว่า การที่นายอภิรักษ์ ถูกป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตการจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกทม. มูลค่า 6,687,489,000 บาท เมื่อครั้งยังเป็นผู้ว่าฯ กทม.นั้น นายวิลาศ กล่าวว่า เพื่อความโปร่งใส ก็ควรรอให้ศาลตัดสินเรื่องดังกล่าวให้เสร็จสิ้นก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่านายอภิรักษ์ มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค
นายสุเทพ กล่าวว่า องค์ประกอบของที่ประชุม หรือผู้ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค ประกอบไปด้วย กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันรวมไปถึงอดีตหัวหน้าพรรค และเลขาฯพรรค รวมไปถึงรมต.ที่สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ โดยกลุ่มนี้จะมีทั้งหมด 31 คน คิดเป็น 9 % ของคะแนนเสียงทั้งหมด 100 %
กลุ่มที่ 2 ประกอบด้วย ประธานสาขาพรรคทั่วประเทศ ซึ่งมีทั้งหมด 139 สาขา สำหรับสาขาพรรค ยังเป็นตัวแทนสมาชิกพรรคทั้งประเทศ 2,000,000 คน มีสิทธิ์ในการออกคะแนนเสียง 40 % จาก 100 % ของคะแนนทั้งหมด
กลุ่มที่ 3 เป็นส.ส.ของพรรคทั้ง 159 คน เมื่อตัดส.ส.ที่มีตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค รัฐมนตรีของพรรคด้วย ก็จะเหลือเพียง 135 คน มีสิทธิ์ในการออกเสียง 40 % จาก 100 % ของคะแนนทั้งหมด" พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับกลุ่มสาขาพรรค และส.ส.ของพรรคเท่าเทียมกัน นอกจากนั้นยังมีตัวแทนของสมาชิกพรรคจากทุกภาคของประเทศอีก 20 คน จะมีน้ำหนักคะแนนอยู่ 1 % ผู้ที่มีน้ำหนักคะแนนมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็คือ กลุ่ม ส.ก. , ส.ข. ,ส.จ. นายกฯอบต. ,นายกอบจ. ,ส.ท. ฯลฯ ที่เป็นสมาชิกพรรค และพรรคส่งลงเลือกตั้งและได้รับเลือกตั้งมา ทั้งหมดจะมี 23 คน คนกลุ่มนี้จะมีน้ำหนักคะแนน 10 % สรุปองค์ประชุมใหญ่ตามระเบียบข้อบังคับของพรรคทั้งหมด จะมี 348 คน" นายสุเทพ กล่าว
** ตอก"เสี่ยอ่าง"รู้น้อยแต่อยากวิจารณ์
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยวิพากษ์ปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ ว่าทุกครั้งที่แพ้เลือกตั้งจะแย่งชิงอำนาจการเมืองกันภายในพรรคฝุ่นตลบ แต่กลับอ้างตัวว่าเป็นพรรคที่ประชาธิปไตยสูง ว่า ตนไม่ติดใจอะไร เพราะนายชูวิทย์ คงไม่รู้ว่าพรรคการเมืองที่มีระเบียบ มีระบบบริหารจัดการกันอย่างไร ถึงแม้นายชูวิทย์ จะเคยอยู่ในพรรคการเมือง แต่สุดท้ายก็ไปกับคนอื่นไม่ได้ จึงต้องมาตั้งพรรคเอง และพรรคก็มีสมาชิกไม่กี่ราย จึงทำง่าย
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีกฎระเบียบ ยึดถือในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีใครมาชี้นิ้วสั่งให้ทำอะไร หรือสั่งให้ใครดำรงตำแหน่งใดก็ได้ เพราะทุกอย่างต้องขึ้นกับสมาชิกที่ประชุมเป็นผู้คัดเลือก
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์มีระบบธรรมเนียมประเพณี มีวัฒนธรรมทางการเมืองดั่งพรรคที่เก่าแก่ อายุมากกว่า 65 ปี ดังนั้นคงจะลำบากเกินไปสำหรับนายชูวิทย์ ที่จะเข้าใจ จึงวิพากษ์วิจารณ์ไปตามความรู้ ความเข้าใจที่มี
ส่วนการทำงานร่วมกับนายชูวิทย์ ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่มีความจำเป็นที่ต้องคุยกัน เพราะส.ส.แต่ละพรรค มีอิสระในการแสดงความเห็นทางการเมือง
** บ้านเมืองกำลังเผชิญลัทธิอุบาทว์
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเดินไปในแนวทางอุดมการณ์ดั้งเดิมของพรรค คือการเป็นประชาธิปไตยที่บริสุทธิ์ มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมากับประชาชน ส่วนยุทธศาสตร์ของพรรคนั้น เป็นเรื่องที่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะเป็นผู้ดำเนินการ และจะแถลงชี้แจงให้ประชาชนทราบ
"สำหรับผมนั้น เมื่อไม่มีตำแหน่งใดในพรรค ก็ตั้งใจจะทำงานร่วมกับประชาชนในภาคส่วนอื่นๆ อย่างอิสระ ในฐานะส.ส.คนหนึ่ง โดยมีสมาชิกทำงานที่หลากหลาย ไม่จำกัดว่าต้องเป็นส.ส.หรือไม่ เจอใครก็พร้อมจะอธิบายไปเรื่อย เพื่อที่จะให้ประชาชนได้ตระหนักว่า ในขณะนี้บ้านเมืองกำลังเผชิญกับลัทธิบางลัทธิ ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าของประเทศควรรู้ข้อเท็จจริง เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง และความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชน จะนำเสนอหรือไม่ แต่พรรคประชาธิปัตย์คงไม่มีสื่อของตัวเอง" นายสุเทพ กล่าว
** "อภิรักษ์"รอศาลตัดสินก่อนดีกว่า
นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดสรรตำแหน่งภายในพรรค โดยเฉพาะตำแหน่งหัวหน้า และเลขาธิการพรรคว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเนื่องจากมีผู้ถูกเสนอชื่อ และผู้เสนอตัวอาสามาทำหน้าที่นี้หลายคน ทั้งนี้ต้องรอดูความชัดเจนในอีก 2-3 วัน
เมื่อถามว่าในส่วนของส.ส.ภาคกทม. จะให้การสนับสนุนนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค ในการชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรคหรือไม่ นายวิลาศ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับตัวนายอภิรักษ์เอง และต้องขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคที่จะพิจารณา ทั้งนี้ในส่วนของส.ส.ภาคกทม. ยังไม่ได้มีการหารือกันในเรื่องดังกล่าว
เมื่อถามต่อว่า การที่นายอภิรักษ์ ถูกป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตการจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกทม. มูลค่า 6,687,489,000 บาท เมื่อครั้งยังเป็นผู้ว่าฯ กทม.นั้น นายวิลาศ กล่าวว่า เพื่อความโปร่งใส ก็ควรรอให้ศาลตัดสินเรื่องดังกล่าวให้เสร็จสิ้นก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่านายอภิรักษ์ มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค
