xs
xsm
sm
md
lg

แย่งรองหน.“ปชป.”ฝุ่นตลบ “มาร์ค”อ้าง 3 นายหัว ก่อนตัดสินใจ “รีเทิร์น”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 11.30 น. วานนี้( 27 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงการที่จะตัดสินใจกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนเองได้หารือกับผู้ใหญ่ในพรรคหลายๆท่าน อดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3 คน (ชวน หลีกภัย ,บัญญัติ บรรทัดฐาน ,พิชัย รัตตกุล) ในเรื่องทิศทางอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว มีทั้งที่มีความเห็นตรงกันและไม่ตรงกัน แต่ตนไม่ขอลงรายละเอียด
ตนคิดว่าที่สำคัญจะมามองที่ตัวหัวหน้าหรือเลขาฯพรรคเท่านั้นไม่ได้ แต่ที่เราต้องการในวันที่ 6 ส.ค. คือขับเคลื่อนเป็นระบบสู่ความเปลี่ยนแปลงในแนวทางบริหารจัดการ ยุทธศาสตร์การต่อสู้ทางการเมือง กับการรักษาอุดมการณ์ความคิดเอาไว้ ดังนั้นต้องมองภาพรวมและช่วยกันทำให้การตัดสินใจในวันที่ 6 ส.ค. มีเอกภาพ มีพลัง เพื่อเป็นที่พึ่งหวังในการทำหน้าที่พรรคการเมือง
ส่วนชื่อเลขาธิการพรรคก็ยังไม่มีการเสนอชื่อใดๆมา ส่วนกรณีที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ถูกฟ้องร้องคดีและเกรงกระทบต่อการทำหน้าที่หากถูกเสนอชื่อเป็นเลขาธิการพรรคนั้น นายอภิรักษ์ก็ได้แถลงข่าวไปแล้ว และการทำหน้าที่ในตำแหน่งในพรรคก็เป็นเรื่องที่ที่ประชุมใหญ่พรรคจะพิจารณาต่อไป
““ผมคิดว่าสิ่งสำคัญจะมองที่ตัว หัวหน้าพรรค หรือ เลขาธิการพรรคไม่ได้ แต่สิ่งที่เราต้องการ ในวันที่ 6 ส.ค. คือ อยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์ขับเคลื่อนเป็นระบบ สู่ความเปลี่ยนแปลงในแนวทางบริหารจัดการยุทศาสตร์การต่อสู้ทางการเมือง กับการรักษาสิ่งที่เป็นอุดมการณ์ที่คิดเอาไว้ เพราะฉะนั้นต้องมองดูภาพรวมทั้งหมด และต้องช่วยกันทำให้การตัดสินใจวันที่ 6 ส.ค.เป็นการตัดสินใจ อย่างมีเอกภาพ มีพลัง เพื่อเป็นที่พึ่งที่หวังในการทำหน้าที่ของพรรคการเมือง อย่าเพิ่งไปคาดคะเนว่าใครจะอยู่ตำแหน่งไหนเลย เพราะตอนนี้ผมเห็นข่าวไปถึงชื่อนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา แล้วว่าจะมาเป็นเลขาฯพรรค” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ทันทีที่นายอภิสิทธิ์กล่าวประโยคนี้จบปรากฏว่านายศิริโชคที่ยืนอยู่ในจุดแถลงข่าวถึงกับหัวเราะเบาๆ
เมื่อถามว่า มีเสียงวิจารณ์ว่าสภาที่ปรึกษาพรรคถูกลดบทบาทลงไปมาก โดยเฉพะาบทสัมภาษณ์ของนายพิเชษฐ์ พันธ์วิชาติกุล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า โครงสร้างไม่มีการเปลี่ยนแปลง สภาที่ปรึกษาเป็นองค์กรที่ไม่ได้ผูกติดกับคณะกรรมการบริหารในการทำงาน ดังนั้นการทำงานสภาที่ปรึกษาเป็นเรื่องที่สมาชิกกำหนดกันเอง ส่วนการเคลื่อนไหวภายในของส.ส.กลุ่มภาคต่างๆนั้น ตนถือว่าพรรคเป็นประชาธิปไตย สมาชิกพรรคพบปะสังสรรค์ พูดคุย ขอการสนับสนุนกันเป็นเรื่องธรรมดาแสดงความคิด แสดงความตั้งใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่ขอให้อยู่ในกรอบของการแข่งขันตามวิถีประชาธิปไตยที่ดีก็เป็นอันใช้ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าหากพรรคเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดีขึ้นจะนำ 20 ส.ส.ไม่ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เห็นคำสัมภาษณ์ แต่เรียนว่าถ้าพรรคบริหารจัดการไม่ดี มันก็กระทบอนาคตของพรรค แต่สมาชิกพรรคที่ดีต้องพร้อมที่จะร่วมหัวจมท้ายกับพรรค

**วิรัตน์เชื่อ“หล่อเล็ก”นั่งเลขาฯ ปชป.ได้
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับตำแหน่งเลขาธิการ ปชป.ว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด ส่วนจะเป็นใครต้องขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารในการประชุมวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ ส่วนกระแสข่าวเรื่องตำแหน่งนี้จะต้องมาจากภาคใต้นั้น นายวิรัตน์ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้อง เพราะคณะกรรมการบริหารพรรคจะดูที่ความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ และการทำงานมากกว่า ไม่มีหลักการนี้กำหนดในข้อปฏิบัติ และผู้จะมาดำรงตำแหน่งนี้ต้องรู้ตัวว่า ตนเองสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ มีความสามารถ และสังคมยอมรับหรือไม่
ส่วนกรณีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ซึ่งเป็นบุคคลที่คาดว่าจะมารับตำแหน่งนั้น นายวิรัตน์กล่าวว่า ทางพรรคเชื่อว่าสามารถเข้าคัดเลือกได้แม้จะมีคดีรถดับเพลิงติดตัว เพราะคดีอยู่ในชั้นศาล นายอภิรักษ์ไม่มีส่วนเอื้อประโยชน์ในส่วนของคดี ที่ผ่านมาที่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี นายอภิรักษ์ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทันที

**โควตารองหัวหน้าพรรคฝุ่นตลบ
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า นอกจากกรรมการบริหารชุดใหม่แล้ว ยังมีการจับตาไปยังตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค จำนวน 8 คน ที่มีสัดส่วนส่วนกลางหรือโควตาหัวหน้าพรรค 3 คน และรองหัวหน้าพรรคคุมภาค 5 คน
รายงานแจ้งว่า กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้สายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการเลขาธิการพรรค จะได้ 2 ตำแหน่ง คาดว่าจะให้นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ขึ้นเป็นรองหัวหน้าพรรคในโควตาของหัวหน้าพรรค แทนนายวิทยา แก้วภราดัย รักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคใต้
ขณะที่ผู้ที่เคลื่อนไหวในกลุ่มภาคใต้ ยังมีชื่อของนายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง รักษาการกรรมการบริหารพรรค และ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา ด้วย
ส่วนโควต้าภาคกลาง มีชื่อนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคกลาง และนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง แกนนำ ส.ส.ภาคตะวันออก

**เสี่ยอ่างขอนำฝ่านค้าน เย้ยปชป.ฝุ่นตลบ
เวลา 11.20 น.ที่ทำการพรรครักประเทศไทย ซอยสุขุมวิท 10 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรค แถลงถึงความเคลื่อนไหวในพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ในการเลือกหัวหน้าและเลขาธิการพรรคคนใหม่ ว่า ทุกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้งเช่นเดียวกับปี 2547 ที่แพ้พรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปัตย์ก็จะแย่งชิงอำนาจการเมืองกันภายในพรรคกันอย่างฝุ่นตลบ แต่ถึงพรรคประชาธิปัตย์อ้างตัวเองเป็นพรรคที่ประชาธิปไตยสูง เป็นพรรคที่มีการจัดตั้งมาอย่างยาวนา เป็นสถาบัน แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็กำลังทำตัวเองเหมือนพรรคการเมืองทั่วไป ไม่ได้แปลกอะไร ดังนั้น ตนที่เป็นฝ่ายค้านมี ส.ส. 4 เสียงเป็นลำดับที่ 3 ก็ต้องขอทำหน้าที่แทน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ยังหาหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคคนใหม่ไม่ได้
“ชูวิทย์ขอทำหน้าที่แทน เพราะอันดับสองพรรคภูมิใจไทย ตัวอยู่ฝ่ายค้าน แต่ใจอยู่รัฐบาล ตอนหาเสียงก็รู้ว่าหารูปหัวหน้าพรรคไม่ได้ ก็ใส่รูปนักกีฬาเข้าไป ส่วนคุณเนวิน (ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย) แกเก่งเรื่องการเมือง แต่ไม่เก่งการเลือกตั้ง” นายชูวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงการแถลงข่าวนายชูวิทย์ได้นำฝักสะตอมาเปรียบเทียบกับกลุ่มในพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตำแหน่งหัวหน้าและเลขาธิการพรรค แบ่งเป็นกลุ่มนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค กลุ่มนายบัญญัติ บรรทัดฐาน แกนนำพรรค กลุ่มยังเติร์กของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน แกนนำภาคกลาง กลุ่มนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการเลขาธิการพรรค และกลุ่มกทม.
กำลังโหลดความคิดเห็น