ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (27 ก.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนกรณีที่รัฐบาลรักษาการเตรียมทิ้งทวนหลายโครงการ โดยเฉพาะในกระทรวงศึกษาธิการ ได้เปิดให้มีการประกวดราคาจ้างออกแบบติดตั้งขยายโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง(Fiber Optic Cable Network) ภายใต้โครงการเครือข่ายขยายการศึกษาระดับชาติ (NedNet) ปี 2554-2556 ด้วยการพัฒนาระบอบเคเบิลใยแก้วไปยังโรงเรียนต่างจังหวัด ซึ่งรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กลับเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นในระยะเวลา ที่ยังคงเป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ ไปยังโรงเรียนต่างๆ จำนวน 7,600 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้โครงการการศึกษาแห่งชาติปี 2555-2556 ด้วยงบประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยประมูลผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ ซึ่งจะเปิดให้มีการเสนอราคาในวันที่ 2 ส.ค.นี้ และให้มีการจัดซื้อจัดจ้างในวันที่ 3 ส.ค.54
ทั้งที่มีการคาดการณ์กันว่าจะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่เกินวันที่ 2 ส.ค.54 ซึ่งเรื่องดังกล่าว สร้างความไม่สบายใจให้กับข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการดำเนินการในช่วงท้ายของรัฐบาลรักษาการ และยังมีความไม่ชอบมาพากล เพราะเมื่อไปตรวจสอบรายละเอียดโครงการ พบว่ามีการล็อคสเปคเคเบิ้ลออฟติกของโรงงานในประเทศทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นและมีการฮั้วกัน
“พรรคเพื่อไทยอยากเรียกร้องไปยังนายอภิสิทธิ์ ในฐานะเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร ให้ตรวจสอบการอนุมัติเพื่อทิ้งทวนโครงการที่มีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท มีเงื่อนงำ และยังมีการล็อคสเปคต่าง ๆ นั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะกลุ่มคนที่เรียกร้องมา บอกชื่อนักการเมืองอักษรย่อ “ช” อยู่เบื้องหลังการดำเนินการเรื่องนี้ ดังนั้นขอให้นายอภิสิทธิ์ตรวจสอบและชะลอโครงการ ให้รัฐบาลใหม่มาดำเนินการ ซึ่งจะมีความสง่างามมากกว่า”นายพร้อมพงศ์กล่าว
ทั้งที่มีการคาดการณ์กันว่าจะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่เกินวันที่ 2 ส.ค.54 ซึ่งเรื่องดังกล่าว สร้างความไม่สบายใจให้กับข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการดำเนินการในช่วงท้ายของรัฐบาลรักษาการ และยังมีความไม่ชอบมาพากล เพราะเมื่อไปตรวจสอบรายละเอียดโครงการ พบว่ามีการล็อคสเปคเคเบิ้ลออฟติกของโรงงานในประเทศทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นและมีการฮั้วกัน
“พรรคเพื่อไทยอยากเรียกร้องไปยังนายอภิสิทธิ์ ในฐานะเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร ให้ตรวจสอบการอนุมัติเพื่อทิ้งทวนโครงการที่มีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท มีเงื่อนงำ และยังมีการล็อคสเปคต่าง ๆ นั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะกลุ่มคนที่เรียกร้องมา บอกชื่อนักการเมืองอักษรย่อ “ช” อยู่เบื้องหลังการดำเนินการเรื่องนี้ ดังนั้นขอให้นายอภิสิทธิ์ตรวจสอบและชะลอโครงการ ให้รัฐบาลใหม่มาดำเนินการ ซึ่งจะมีความสง่างามมากกว่า”นายพร้อมพงศ์กล่าว
